คนเราส่วนใหญ่ชอบมองโลกในแง่ร้าย คิดทางลบอยู่เรื่อย การคิดทางลบทำให้เสียสุขภาพจิต พอสุขภาพจิตเสียก็ส่งผลถึงสุขภาพกาย หมอประเวศ วะสี บอกว่า การคิดทางลบทำให้คนเราหมดกำลังใจง่าย ๆ เพราะไม่มีอะไรให้ชื่นใจ
......................
จริง ๆ แล้ว ทุกครั้งที่เราลงมือทำอะไรเราชอบมีคำตอบให้กับการลงแรงเพียงสองทางคือ สำเร็จและล้มเหลว ขาวและดำ
ได้ตามเป้าหมายคือ สำเร็จ ไม่ได้ตามเป้าหมายที่คิดไว้ก็คือ ล้มเหลว
ลืมคิดไปว่าเราเริ่มต้นจาก 0 แม้ก้าวไปไม่ถึง 10 ที่เป็นเป้าหมาย
แต่ที่เดินมาก็ประมาณ 5 แล้ว ไม่ถึง 10 แต่ก็ไม่ใช่ 0
ทำไมไม่เอา 5 มาเป็นกำลังใจ
หมอประเวศบอกว่า ความสำเร็จนิดเดียวก็เป็นกำลังใจให้เราก้าวเดินต่อไปได้
......................
เชื่อไหมครับว่าในสิ่งเดียวกันเราสามารถมองได้ 2 แบบทั้งทางลบและทางบวก
ภาพเดียวกัน แต่มองแตกต่างกัน
ยกตัวอย่างเช่น
เรานำกระดาษขาวแผ่นหนึ่ง จุดสีดำลงที่กลางกระดาษ
ลองถามเพื่อนสิครับว่าเห็นอะไรในกระดาษบ้าง
ส่วนใหญ่จะบอกว่าเห็นจุดสีดำ
ทั้งที่ "จุดดำ" นั้นเป็นจุดเล็ก ๆ นิดเดียวบนกระดาษขาว
มีน้อยคนที่จะตอบว่าเห็นกระดาษสีขาว ทั้งที่สีขาวมีเนื้อที่มากกว่าจุดสีดำหลายร้อยเท่า
สิ่งเดียวกัน แต่มองเห็นต่างกัน
......................
หรือแก้วน้ำใบหนึ่งมีน้ำอยู่ครึ่งแ้ก้ว
คนหนึ่งเห็นอาจบอกว่ามีน้ำ "แค่" ครึ่งแก้ว
อีกคนอาจบอกว่ามีน้ำ "ตั้ง" ครึ่งแก้ว
แค่พยางค์เดียวที่แตกต่างกัน ระหว่างคำว่า "ตั้ง" กับ "แค่" ก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน
แค่ครึ่งแก้ว กับตั้งครึ่งแก้ว สะท้อนให้เห็นมุมมองของคนที่พูดได้อย่างชัดเจน
หรือถ้าเติมน้ำไปอีกนิด แล้วถามว่ารู้สึกอย่างไรกับปริมาณน้ำในแก้วนี้
คนหนึ่งอาจบอกว่ามีน้ำเต็มแก้ว
อีกคนอาจมองอีกมุมว่า แค่เติมน้ำนิดเดียวก็เต็มแก้วแล้ว
เพราะมุมมองและทัศนคติแตกต่างกัน เราจึงมองเห็นภาพภาพหนึ่งแตกต่างกัน
......................
ตัวอย่างที่ดีอีกเรื่อง เป็นกรณีคลาสสิกทางการตลาด
บริษัทรองเท้าในอิตาลี 2 แห่งส่งเซลส์แมนไปเกาะแห่งหนึ่ง
คนบนเกาะไม่มีใครใส่รองเท้าเลย
เซลส์คนแรกวิ่งไปโทรศัพท์บอกเจ้านาย
"นายครับ ไม่้ต้องมาอีกแล้วครับ คนในเกาะไม่มีใครใส่รองเท้าเลย"
คนที่สองวิ่งไปโทรศัพท์กลับไปยังบริษัทเหมือนกัน
เขาบอกเจ้านายด้วยน้ำเสียงอันตื่นเต้น
"นายครับ โอกาสขายมีมากเลยครับ เพราะคนในเกาะไม่มีใครใส่รองเท้าเลย"
เกาะเดียวกัน คนไม่ใส่รองเท้าเหมือนกัน แต่เซลส์ 2 คนคิดไม่เหมือนกัน
คนหนึ่งเห็น "ปัญหา" คนหนึ่งเห็น "โอกาส"
......................
ทัศนคติทางบวกเป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ใช่ว่ามองเห็นอะไรก็บวกไปหมด
บางครั้งก็ต้องลบบ้าง
ในชีวิตจริงไม่มีใครในโลกหรอกครับที่คิดอะไรทางบวกด้านเดียว
ใครคิดบวกอย่างเดียวถือว่าค้ากำไรเกินควร
ถ้าเจอต้องแจ้ง สคบ. หรือกระทรวงพาณิชย์ให้จัดการ
ทุกคนล้วนต้องคิดทั้งบวกและลบผสมปนเปกันไป
เพียงแต่ใครมากใครน้อยเท่านั้น
ถ้า สาว 2 คน คนหนึ่่งมีทัศนคติทางบวก อีกคนคิดอะไรก็ลบอยู่เป็นประจำ ระดับตอนสอบวิชาคณิตศาสตร์ อาจารย์บอกให้บวกเลข เธอก็ยังเปลี่ยนเป็นลบเลย
ทั้ง 2 สาวหากเดินในซอยเปลี่ยวคนเดียว และมีชายหนุ่มกำยำล่ำสัน 3 คนเดินตามมาและเร่งฝีเท้าใกล้มาเรื่อย ๆ
รับรองครับว่าสาวน้อย 2 คนแม้จะมีวิธีคิดแตกต่างกันโดยพื้นฐาน แต่ครั้งนี้เธอจะวิเคราะห์สถานการณ์เหมือนกัน
มองโลกในแง่ร้ายเหมือนกันแน่นอน
ต่อให้คิดทัศนคติทางบวกอย่่างไร สาวน้อยคงไม่คิดว่าหนุ่มทั้ง 3 คนคนเดินมาคอยระวังภัยให้
หรือคิดว่าไม่เป็นไรหรอก ร่างกายอาจกำยำ แต่ใจอาจเป็นเกย์ก็ได้
......................
มีผู้ใหญ่คนหนึ่งเป็นคนมองโลกในแง่ดี มีอารมณ์ขัน ชอบพูดอยู่เรื่อยว่า
"โลกมีไว้เหยียบ ไม่ได้มีไว้แบก"
เห็นใครทุกข์ก็จะใช้ประโยคนี้ปลอบใจเสมอ
แต่พอถึงเวลาทำงาน วิธีการบริหารธุรกิจของเขาจะมองโลกในแง่ร้าย
เขาจะประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจในแ่ง่ลบเสมอ
ถ้าแย่ตามที่คิด ธุรกิจก็ไม่เสียหาย แต่ถ้าดีกว่าที่ประเมินก็ "กำไร"
ด้วยวิธีิคิดเช่นนี้เขาจึงประสบความสำเร็จทางธุรกิจ ไม่ว่ามรสุมเศรษฐกิจจะเกรี้ยวกราดเพียงใดก็ตาม
ที่มา มองโลกง่ายง่าย สบายดี (ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ 3) โดย หนุ่มเมืองจันท์
แค่เปลี่ยนมุมมองชีวิต โลกใบนี้ก็มีแต่ "รอยยิ้ม"
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น