วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เผยโฉม Nexus Two ผลิตโดย Samsung ล้านเปอร์เซนต์!

ลือกันไปลือกันมาจนในที่สุดก็มีคนออกมาฟันธงเสียทีสำหรับซูเปอร์สมาร์ต โฟน Google Nexus Two ที่ล่าสุดทีมงานเว็บไซต์ Gizmodo ได้มีโอกาสไปสัมผัสตัวจริงของเครื่องนี้มาแล้วโดยบริษัทที่ได้รับสิทธิ์เป็น ผู้ผลิตในครานี้สัมปทานตกเป็นของ Samsung ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเลยว่า Nexus Two ที่เห็นตามภาพนี้จะมีหน้าตาที่คล้ายคลึงกับ Galaxy S เสียเหลือเกิน

โดย ความต่างของ Nexus Two กับ Galaxy S ที่พอจะสังเกตกันมาได้ก็มีในส่วนของตัวเครื่องด้านหลังที่จะมีส่วนโค้งเว้า เพรียวลมเหมือนเครื่อง iPhone 3GS นั่นเอง ขณะที่หากเทียบกันกับรุ่นก่อนหน้านี้อย่าง HTC Nexus One แล้วก็มีเพียงหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 4 นิ้วและกล้องหน้าเท่านั้นที่ได้รับการเพิ่มเข้ามา

ส่วนสเปคตัว เครื่องของ Nexus Two นั้นแหล่งข่าวดังกล่าวยืนยันมาว่าแทบจะล็อกมาเป็นบล็อกเดียวกันกับ Samsung Galaxy S เลยโดยมันจะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android OS ที่หากไม่เป็นเวอร์ชัน 2.3 ก็จะหันไปใช้งาน 3.0 ไปเลย

นอกจากนี้ Google ยังเตรียมพัฒนาโปรแกรมวิดีโอแชตแบบใหม่โดยอาศัยตัวโปรแกรม Google Talk เป็นต้นแบบให้สามารถใช้งานได้ไม่ต่างจาก Facetime ของ Apple บนเครื่อง iPhone เลยทีเดียว

แถมยังมีอีกกระแสข่าวลือหนึ่งที่ระบุ ว่า Google และ Samsung เตรียมที่จะเปิด ตัว Nexus Two นี้อย่างเป็นทางการในงานอีเวนต์พิเศษที่จะจัดขึ้นในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ในกรุงนิวยอร์กอีกด้วย

บทความโดย: ekk TechXcite
ที่ มา: gizmodo

S! Hitech Comment

● ขาดเธอ ( ไม่ ) ขาดใจ ●



บางคน คิดว่าการที่หลบแสงแดดรักที่กำลังแผดเผา
ไปอยู่ใต้ร่มเงาของวัดแล้ว ทำให้ไม่คิดอะไรเพราะไม่มีสิ่งมากระทบ
เหมือนการที่เราหนี ปัญหาก็ดูจะมีความจริงอยู่ส่วนหนึ่งค่ะ
เพราะบรรยากาศในวัด ย่อมสงบเย็นช่วยเกื้อกูลจิตเรา
มีกำแพงวัดเป็นปราการ
ลด ความรุนแรงจากการไหลปะทะเข้ามาของกระแสกิเลสอันเชี่ยวกรากภายนอก


แต่ทั้งนี้ ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใดก็ตาม ถ้าจิตเราไม่ได้อยู่กับปัจจุบัน
คอย พะวงคว้านหาคล้อยตามภาพในอดีต แม้ยามเผลอสติเพียงชั่วพริบตา
ก็ พร้อมที่จะกระเทือนไหวปรุงแต่งไปตามสิ่งที่มากระทบอยู่ตลอดเวลาแล้ว
ทุกข์ ก็บังเกิดขึ้นได้ทุกแห่งหน


เมื่อทราบว่า จิตเราขาดกำลังที่จะต้านทาน
ยังมีความอ่อนไหว อ่อนแอ ต่อสิ่งกระทบแม้เพียงเล็กน้อย
ก็พึงป้องกันเหตุอัน จะเกิดเสีย


ปิดช่องทางอันจะทำให้ทุกข์ กำเริบ สิ่งใดที่พึงเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยง
ไม่จดจ้องมอง ไม่รับรู้รับฟัง เรื่องราวของเขาโดยไม่จำเป็น ยุติจิตที่สอดส่ายค้นหา
ไม่ ให้ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นี้เป็นประตูให้ทุกข์คืบคลานเข้ามา


ทุกครั้งที่เผลอไผล ก็รีบดึงสติของตัวเองกลับมา
หายใจเข้าออกแรงๆ ให้รู้ตัวโดยไว
ถามตัวเองว่า เรากำลังทำอะไรอยู่
ถ้า รู้สึกว่าจิตฟุ้งซ่านเกินระงับ ก็เอนตัวพักบนเก้าอี้ แล้วหลับตาลง
ค่อยๆ ผ่อนคลาย หายใจเข้าช้าๆ และผ่อนลมหายใจออก
มีสติรู้อยู่ ที่ลมหายใจของเรา รู้ว่า เรากำลังหายใจเข้า ออก
มีลมผ่าน เข้าออกทางช่องจมูก
สักพักหนึ่งจิตเราก็สงบระงับ เบาสบายขึ้น


จะเห็นว่า เรายังมีลมหายใจ หายใจเองได้อยู่
แม้ไม่มีเขา ก็ไม่ได้ทำให้ลมหายใจของเราหมดไป
ถ้าเป็นเช่นนั้น เราจะนำชีวิต อนาคต
และความสุขทั้งมวลของเราไปฝากไว้กับ ผู้ชายคนหนึ่ง
ซึ่งเป็นเพียงคนรักในอดีตทำไม
ปัจจุบัน เขาไม่ใช่คนรักของเรา ไม่ใช่สามีของเราแล้ว ไม่ใช่ผู้ที่เราควรไปอาลัยหา


ก่อนหน้าที่มาจะเป็นสามี เรา เขาก็เป็นคนแปลกหน้าคนหนึ่ง
ซึ่งครั้งนั้นเราก็มี ชีวิตของเราอยู่มาได้ด้วยลมหายใจตัวเอง และมีชีวิตที่เป็นปกติสุข


แล้วทำไมเราจะอยู่ต่อไปไม่ ได้?


การเป็นสามีภรรยา ไม่ได้หมายความว่า ไม่มีวันพรากจาก
เพราะอย่างไรในวัน หนึ่งข้างหน้า
เขาและเราเมื่อหมดลมหายใจ ต่างก็ต้องแยกย้ายกันไปตามทางของตน
เราไม่อาจยื้อยุดฉุดมือ เขาไว้ได้ แม้แต่หญิงคนใหม่ของเขาก็ทำไม่ได้เช่นกัน
หญิงคน นั้นก็มีโอกาสอยู่กับเขาแค่ชั่วเวลาหนึ่งเท่านั้น ซึ่งก็ไม่รู้เลยว่าจะยาวนานเพียงใด
เพราะมัจจุราชไม่ได้ บอกกล่าวแก่ใครล่วงหน้า ทุกอย่างเป็นตามกรรมของแต่ละคน


เรื่องของเขา ชีวิตของเขา กรรมของเขา เราไม่ควรไปให้ความสนใจแบกรับ


เราพึงทำกิจของเราให้พร้อม ไปสู่สถานที่ที่มีโอกาสสร้างกุศล
หมั่นเพียรสร้างหยอด กระปุกบุญ แม้เพียงครั้งละเล็กน้อย
เต็มเสบียงกุศลของเรา ให้เต็ม และหมั่นระลึกกรรมดีที่ได้เคยกระทำมาให้บ่อยขึ้น


ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมี ทางออกเสมอ
ปัญหาทุกอย่างย่อมมีวันสิ้นสุด ขอเพียงเรามีกำลังใจไม่ท้อถอยในการสร้างกรรมดี

10 วิธีคลายเครียด..เพื่อตัวเราเอง




วิธี หรือเครื่องมือที่จะช่วยในการผ่อนคลายความเครียดที่ทำได้ง่ายๆ ก็เท่ากับว่าเรามีหมออยู่ใกล้ๆ ตัว โดยเคล็ดลับการผ่อนคลายทางจิตอย่างง่ายๆ 10 ประการ ที่ใครก็ทำได้ ได้แก่

1.การใช้ชีวิตให้ช้าลง ความเร่งรีบของ ชีวิตเป็นสาเหตุใหญ่ของความเครียดในปัจจุบัน ถ้าวางแผนตารางชีวิตได้เหมาะสม ความเร่งรีบก็จะลดลง ความเครียดก็จะลดลงตามไปด้วย

2.ออกกำลังกายแบบแอโรบิกเป็นประจำ เช่น เดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ หากทำเป็นประจำจะช่วยเพิ่มปริมาณเลือดไปเลี้ยงสมองสมองจะหลั่งฮอร์โมนความ สุข ส่งผลให้จิตใจโปร่ง เบา สบาย และมีความสุข

3.การเข้านอนหัวค่ำตื่นแต่เช้า ช่วง แรกจะต้องใช้จิต ตนเองกล่อมให้หลับและปลุกให้ตื่น ตรงตามเวลาก่อน หลังจากนั้นฮอร์โมนภายในร่างกายจะช่วยให้การหลับตื่นเป็นไปเองตามอัตโนมัติ ส่งผลให้จิตใจและสมองสดชื่นแจ่มใสอยู่เสมอ

4.ฝึกหายใจลึกและช้า โดยหายใจเข้า ท้องจะพองออก หายใจออก ท้องจะยุบลง หากอัตราการหายใจไม่เกิน 10 ครั้งต่อนาที จะช่วยให้จิตผ่อนคลายลงได้มากทีเดียว

5.การฝึกชี่กง ไท้เก๊ก โยคะ โดยจิตจับจ้อง จดจ่อไปที่ท่าทางการเคลื่อนไหว สอดคล้องกับช่วงจังหวะการหายใจ จะทำให้จิตนิ่ง สงบและผ่อนคลาย

6.การ ฝึกยิ้มหัวเราะ มีอารมณ์ขันจะช่วยให้เรามีอารมณ์ดีในทันที แถมจะได้รอยยิ้มหัวเราะ และอารมณ์ขันจากคนรอบข้างกลับมาอีกด้วย ช่วยให้ผ่อนคลายความเครียดได้

7.การ ฝึกทำสมาธิ ซึ่งมีหลายอารมณ์ หลายวิธีการจะช่วยทำให้จิตสงบ คลื่นสมองจะช้าลงและมีระเบียบมากขึ้น จิตผ่อนคลายร่างกายเป็นสุข

8.การใช้ศิลปะบำบัด เช่น การร้องเพลงเล่นดนตรี การเต้นรำ การวาดรูป ทำงานศิลปะจิตจะจดจ่อกับกิจกรรมที่ผ่อนคลายลืมความทุกข์ความวิตกกังวลได้ดี ทีเดียว

9.การรับพลังธรรมชาติ การได้เปลี่ยนบรรยากาศจากที่จำเจไปสู่ธรรมชาติ เช่น ภูเขาต้นไม้ ทะเล สายลม แสงแดด จะช่วยให้จิตใจผ่อนคลายเป็นสุข และยังเป็นการรับพลังจากธรรมชาติเข้าสู่ตัวเราอีกด้วย

10.การสวดมนต์อธิษฐานจิต จิตน้อมไปในคุณ พระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคารพรวมทั้งคุณงามความดีที่เราได้กระทำมาในอดีต จะเป็นพลังจิตอย่างมหาศาลให้กับเรา ช่วยให้จิตเราสงบ เย็นและเป็นสุข

สำหรับ 10 เคล็ดลับที่จะช่วยในการผ่อนคลายความเครียดที่กล่าวมานั้นไม่ยากเลย ขอให้ตั้งใจทำและทำบ่อยๆ ให้ติดเป็นนิสัย จะทำให้จิตสบาย กายแข็งแรงพึ่งพาตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งใคร แถมไม่ต้องลงทุน

ที่มา
FWDDER

มาวัดระดับความน่ารักของคุณ!



มาลองทำนายกันเล่น ๆ จ๊ะ

1. คุณถ่ายรูปขึ้นหรือเปล่า?
ใช่ (ไปข้อ 2)
ไม่ใช่ (ไปข้อ 3)

2. เคยมีคนพูดว่า "งานไหนขาดคุณ งานนั้นกร่อย บางหรือไม่"?

ใช่ (ไปข้อ 3)
ไม่ใช่ (ไปข้อ 6)

3. คุณยกมือบายแฟน ก่อนแยกกลับบ้านหรือเปล่า ?

ใช่ (ไปข้อ 4)
ไม่ใช่ (ไปข้อ 8)

4. เวลาเดินเคียงไปกับชายที่ถูกใจ รู้สึกอยากจะควงแขนหรือจับมือเขา ?

ใช่ (ไปข้อ 13)
ไม่ ใช่ (ไปข้อ 12)

5. ใส่ใจต่อท่าไขว่ห้างของตัวเอง ?

ใช่ (ไปข้อ 6)
ไม่ใช่ (ไปข้อ 9)

6. แม้ถูกชวนไปนั่งกินข้าวร้านซ่อมซ่อริมข้างทาง คุณก็ไม่รังเกียจ ?

ใช่ (ไปข้อ 7)
ไม่ใช่ (ไปข้อ 14)

7. ถ้ามีคนชมว่าคุณร้องเพลงเพราะ คุณจะกล้าร้องต่ออีกเพลงทันที ?

ใช่ (ไปข้อ 3)
ไม่ใช่ (ไปข้อ 8)

8. คุณมักจะมองหน้าของฝ่ายตรงข้ามเวลาทำความเคารพด้วย ?

ใช่ (ไปข้อ 4)
ไม่ใช่ (ไปข้อ 17)

9. สระผมเป็นประจำทุกเช้าไม่เคยขาด ?

ใช่ (ไปข้อ 14)
ไม่ใช่ (ไปข้อ 11)

10. จะต้องกดชักโครกห้องน้ำที่มีคนใช้ก่อนหน้าคุณทุกครั้ง ?

ใช่ (ไปข้อ15)
ไม่ใช่ (ไปข้อ 17)

11. เวลาหยิบนิตยสารขึ้นมาอ่าน จะไม่พลาดอ่านหน้าพยากรณ์โชคชะตาราศี ?

ใช่ (ไปข้อ10)
ไม่ใช่ (ไปข้อ 15)

12. ถ้าไม่ทำความสะอาดห้องให้เรียบร้อย จะรู้สึกไม่สบายใจ ?

ใช่ (ไปข้อ 21)
ไม่ใช่ (ไปข้อ 13)

13. สามารถทำอาหาร ทำความสะอาด ซักเสื้อผ้าได้อย่างสบาย ?

ใช่ (ไปข้อ 23)
ไม่ใช่ (ไปข้อ 22)

14. คิดว่าโชคดีที่ได้เกิดมาเป็นผู้หญิง ?

ใช่ (ไปข้อ 10)
ไม่ใช่ (ไปข้อ 11)

15. พรมน้ำหอมเวลาออกไปข้างนอกเสมอ ?

ใช่ (ไปข้อ 19)
ไม่ใช่ (ไปข้อ 16)

16. วางตุ๊กตาหรือหมอนน่ารักๆไว้เต็มห้อง ?

ใช่ (ไปข้อ 18)
ไม่ใช่ (ไปข้อ 19)

17. เคยถูกผู้ชายที่ไม่ชอบตามตื้อ ?

ใช่ (ไปข้อ 12)
ไม่ใช่ (ไปข้อ 16)

18. เป็นคนไม่ชอบยอมแพ้คน ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ?

ใช่ (ดูเฉลย ข้อ 2)
ไม่ใช่ (ไปข้อ 20)

19. มั่นใจในรูปร่างของตนเองเวลาไม่ใส่เสื้อผ้า ?

ใช่ (ไปข้อ 18)
ไม่ใช่ (ไปข้อ 20)

20. มักชมเสื้อผ้าหรือกระเป๋าของเพื่อนผู้หญิงบ่อย ๆ ?

ใช่ (ดูเฉลย ข้อ 3)
ไม่ใช่ (ดูเฉลย ข้อ 4)

21. คุณคิดว่ารอบตัวคุณมีคนที่นิสัยไม่ดีปะปนอยู่ด้วย ?

ใช่ (ไปข้อ 18)
ไม่ใช่ (ไปข้อ 22)

22. ถ้าช่วงเช้าคุณเจอเรื่องไม่สบอารมณ์ จะอารมณ์ค้างไปจนถึงตอนเย็น ?

ใช่ (ดูเฉลย ข้อ 2)
ไม่ใช่ (ดูเฉลยข้อ 1)

23. ถ้ามีใครบอกถึงเคล็ดลับที่จะทำให้สวยงาม คุณจะไม่รั้งรอที่จะปฎิบัติตามทันที ?

ใช่ (ดูเฉลย ข้อ 1)
ไม่ใช่ (ดูเฉลย ข้อ 2)


คำเฉลย


1. ระดับความน่ารักของคุณ 100%

เสน่ห์แบบหญิงสาว คุณนั้นเปรียบเสมือนนางเอกผู้อุทิศตัวและเสียสละ สิ่งไหนที่คนทั่วไปคิดว่าเบื่อหน่าย แต่คุณจะทุ่มเททั้งพลังใจและพลังกายเพื่อลองทำมัน แต่ถ้าไม่ประสบความสำเรคุณจะสามารถยิ้มรับและไม่ละทิ้งความตั้งใจในการที่จะ ลองใหม่คราวหน้า เรียกว่ามีทั้งความร่าเริงสดใส และความเข้มแข็งในตัว ทำให้คนที่อยู่รอบข้างมีความสุข คุณยังมีอีกด้านที่เซ็กส์ซี่ซ่อนอยู่ในตัวด้วย บางครั้งบางคราวทำให้พวกผู้ชายตาค้างด้วยความคาดไม่ถึง

นอกจากนี้คุณยังมีความหึงหวงซ่อนอยู่ใน ส่วนลึกของจิตใจ และนอกจากความน่ารักในตัวแล้ว คุณยังมีความ สามารถในการทำงานอีกด้วย แต่เนื่องจากเป็นคนที่ใส่ใจความรู้สึกของคนอื่นมากจนเกินไป ทำให้คุณเหนื่อยมาก ต้องหัดอย่าทำอะไรที่มันฝืนใจตนเองด้วย

2. ระดับความน่ารักของคุณ 80%

เสน่ห์แบบเด็กสาว เรื่องที่คุณทำแม้จะมีผิดพลาดมาก แถมยังเป็นคนที่ใช้เครื่องไม้เครื่องมืออะไรไม่เก่งอีกด้วย แต่ความน่ารักของคุณอยู่ตรงที่การพยายามทำอะไรจริงจังและคุณเป็นคนที่อุทิศ ตนเพื่อคนที่รู้จักเรื่องใด ๆ ที่ผู้หญิงทั่วไปตัดใจยอมแพ้ แต่คุณยังพยายามทำต่อ คุณเป็นสาวสไตล์ ซื่อไร้เดียงสา บริสุทธิ์ และมีความอดทนคล้ายนางเอกละครญี่ปุ่นยุคก่อนนั่นแหละ ชายหนุ่มใดที่อยู่ใกล้คุณจะรู้สึกสงบและสบายใจ เพียงแต่คุณมีความเป็นเด็กในตัวมากเกินไป ทำให้ขาด เสน่ห์แบบหญิงสาวที่เป็นผู้ใหญ่

ชอบ ให้ผู้ชายเป็นที่พึ่งฝ่ายเดียว ทำให้บางครั้งฝ่ายชายรู้สึกว่าคุณขาดอะไร บางอย่างไป ข้อเสียอีกข้อหนึ่งของคุณคือ เป็นฝ่ายปรับตัวเข้าหาฝ่ายตรงข้ามอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่หัดมีความคิดของตัวเองซะบ้าง เสน่ห์ของคุณจะขาดไปอย่างน่าเสียดาย

3. ระดับความน่ารักของคุณ 60%

เสน่ห์ที่แสร้งขึ้น คุณเป็นแบบที่หนุ่มๆอยากจะได้เป็นน้องสาว อยู่ด้วยแล้วมีทั้งความสนุกและความน่าเอ็นดู เพียงแต่ว่าในบางครั้งคุณเข้าใจความหมายของคำว่า "น่ารัก" ผิดไปสักหน่อย ลองถามตัวเองดูว่าคุณเคยทำตัวออดอ้อน เอ๊าะแอ๊ะให้ดูน่ารักในสายตาฝ่ายตรงข้ามบ้างหรือไม่ วิธีการพูดจาของคุณถ้าลองเทียบ กับอายุจริงแล้วอาจพบว่าดูไม่สมอายุสักเท่าไหร่ บางคราวคุณเป็นฝ่าย ตามตื้อผู้ชายมากเกินไป จนทำให้คุณดูน่าหดหู่ในสายตาของคนอื่น

แต่กระนั้นก็ตามคุณยังเข้าใจ ผิดว่าสิ่งนั้นคือ เสน่ห์ของคุณเองอีกที่คุณต้องแก้ไขอย่างรีบด่วนคือ เลิกทำตัวน่ารักโดยฝืนธรรมชาติ คุณจะมีเสน่ห์ยิ่งกว่านี้ ถ้าเป็นตัวของตัวเอง

4. ระดับความน่ารักของคุณ 40%

เสน่ห์จากความรู้ คุณเป็นสาวมั่นที่ทรงความรู้และเก่งกาจในเรื่องการงาน ซึ่งเป็นเสน่ห์ประการหนึ่งของคุณซึ่งผู้หญิงหลายคนอยากเอาแบบอย่าง เพียงแต่ในสายตาของผู้ชายนั้น แม้เขาจะเห็นว่าคุณมีเสน่ห์แต่ไม่ กล้าเข้าใกล้ เนื่องจากคุณมีความเป็นผู้ใหญ่มากจนเกินไป ทำให้ผู้ชายไม่กล้าจีบ

นอกจากนั้นยังเข้าใจผิด คิดว่าคุณนั้นเคร่งขรึม ไม่สดใส ซึ่งเป็นข้อเสียอย่างหนึ่ง ทำให้คุณไร้ชายเข้ามาใกล้ชิดหรือค่อยๆห่างคุณไปโดยไม่รู้ตัว คุณขาดความน่ารักแบบหญิงสาว ถ้าอยากจะปรับปรุงตัวไม่ให้ไร้คู่แล้วล่ะก็ ต้องปลดภาระบนบ่าลงเสียบ้าง ยอมรับความเป็นตัวเองที่เป็น คุณจะสามารถเพิ่มพูนเสน่ห์ของตนเองได้

FW

วันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ความรักเหมือนตู้โทรศัพท์สาธารณะ




มีคนเค้าบอกว่าความรักเหมือนตู้โทรศัพท์สาธารณะ

ตู้ที่เดินตรงเข้าไปมักโทรได้เฉพาะหมายเลขฉุกเฉิน
ตู้ ที่ใช้ได้มักต้องต่อคิวยาวเหยียด
แต่พอถึงคิวเราเหรียญกลับหยอดไม่ลงซะ งั้น
กว่าจะเจอตู้ที่โทรได้จริงๆ ก็ต้องเดินหาจนเมื่อย
และเมื่อเจอ แล้วก็ต้องเตรียมเหรียญไว้หยอดสม่ำเสมอ
ไม่อย่างนั้นคุยๆ ไปสัญญาณอาจถูกตัดขาดไป ต่อใหม่เท่าไรก็ไม่ติด

เหรียญ ในที่นี้เปรียบได้กับ ความเอาใจใส่ การมีเวลาให้
เพราะถ้าเธอไม่มีทั้ง 2 สิ่งคอยหล่อเลี้ยงความรัก
สัญญาณของความสัมพันธ์ก็จะถูกตัดขาดในที่สุด
และ ไม่สามารถเรียกสัญญาณเดิมกลับมาได้อีก



ส่วนความเป็นเพื่อนนั้นเหมือนโทรศัพท์บ้าน
คุยนานเท่าไหร่ก็ 3 บาท
คบกันแบบไม่ต้องลงทุนจนหมด เนื้อหมดตัว ไม่ต้องต่อคิวใคร
ไม่ต้องเดินหาจนเมื่อย
แต่ตอนสิ้นเดือน ต้องจ่ายค่าบริการให้ตรงเวลาก็เท่านั้น
ค่าบริการในที่นี้เปรียบได้กับ ความจริงใจ
ที่คนเป็นเพื่อนต้องมีให้กัน



อย่างไรก็ตาม เราควรบริหาร
ค่าใช้จ่ายของความสัมพันธ์ ให้ดี
อย่าเอาเงินที่มีอยู่ไปแลกเหรียญ
แล้วหยอดตู้โทรศัพท์สาธารณะจน หมด

กระทั่ง .... ไม่เหลือจ่ายค่าโทรศัพท์บ้าน
กระทั่ง .... ไม่เหลือจ่ายค่าอาหารของตัวเอง


มีความรักแล้วอย่าลืมเพื่อน
และ เมื่อมีเวลาให้กับความรัก/มีเวลาให้กับความเป็นเพื่อนแล้ว
อย่าลืมที่จะ มีเวลาให้กับครอบครัวและตัวเองด้วย.........

เคล็ดลับน่ารู้ วิธีทำให้สดชื่นหลังตื่นนอน




หลังจากที่ตื่นนอน บางครั้งอาจจะเกิดอาการอ่อนเพลีย วันนี้เกร็ดความรู้มีวิธีทำให้สดชื่นหลังตื่นนอนมากฝากกัน…


- เริ่มต้นด้วยการเดินไปหยิบน้ำมาดื่มสักแก้วใหญ่ ให้ชื่นใจ การดื่มน้ำนั้นเป็นการเติมน้ำให้กับร่างกาย หลังจากร่างกายของเราพักผ่อนมาทั้งคืน ซึ่งเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้สมองปลอดโปร่งมากขึ้น


- ใช้เวลาสัก 5-10 นาที ออกกำลังกายยืดเส้นกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ภายในร่างกาย วิธีการนี้จะเหมือนกับการบิดขี้เกียจตอนเช้า เน้นการยืดในส่วนที่ต้องใช้บ่อย ๆ ในการทำงาน เช่น ถ้าต้องใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการทำงานทั้งวันนั้น เป็นไปได้ว่าต้องเน้นการออกกำลังที่ส่วน กล้ามเนื้อบริเวณคอ หัวไหล่ แขน และฝ่ามือ


- การรับประทานธัญพืช และอาหารที่มีโปรตีนบ้างในมื้อเช้า ลดอาหารจำพวกแป้ง การรับประทานอาหารในช่วงเช้านั้นมีประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นการเตรียมพร้อมให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดวัน


- การเปลี่ยนเครื่องดื่ม เลิกดื่มกาแฟแล้วหันมาดื่มชาขิง เพื่อช่วยการไหลเวียนของเลือด ทำให้ร่างกายอบอุ่น อีกทั้งช่วยให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น

ลองนำวิธีที่แนะนำไป ปฏิบัติตามกันได้.



ที่มา : จาก pt2553.thai-forum

วันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ความรักของ ชอล์ก กับ กระดานดำ



...แต่เดิม ชอล์ก กับ กระดานดำ ก็รักกันดี เอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ต่างคนต่างชอบและเชื่อมั่นในสิ่งที่อีกคนเป็น

แต่ อยู่มาวันหนึ่งชอล์กก็บังเอิญได้ไปเจอกับไวท์บอร์ด จึงติดใจหลงรักในความขาวสะอาด

ในที่สุด...ชอล์กก็ตัดสินใจบอกเลิก กับกระดานดำ กระดานดำเสียใจมาก


เธอทำผิดอะไร ทำไมชอล์กจึงเปลี่ยนแปลง

เพราะเธอดำอย่างงั้นใช่ไหม? เมื่อคิดได้อย่างนี้ กระดานดำจึงไปหาครีมไวท์เทนนิ่งต่างๆ มาใช้

ทาง ฝ่ายชอล์ก หลังจากบอกเลิกกระดานดำแล้ว ก็ไปคบหากับไวท์บอร์ด แต่ไม่นานเท่าไหร่

ชอล์กก็ได้เรียนรู้ว่าตัวเองกับไวท์บอร์ดนั้น เข้ากันไม่ได้เลย ชอล์กเขียนไวท์บอร์ดไม่ติด

ไวท์บอร์ดไม่รักชอล์ก แม้แต่นิด


ชอล์กผิดหวังกับไวท์บอร์ดมาก จึงพาหัวใจช้ำๆ กลับไปหากระดานดำ

แต่ ...กระดานดำเปลี่ยนไปแล้ว เธอไม่ดำเหมือนก่อนแล้ว

และหัวใจของเธอก็เปลี่ยนไปแล้วด้วยเช่นกัน


อ ย่ า ทำ ร้ า ย ค น ที่ ใ ช่…….ด้ ว ย ค ว า ม โ ล เ ล

ช่างเป็น เรื่องเศร้า!!! แต่ก็เป็นเรื่องที่ทำให้เราคิดได้ว่า ถ้ารักใคร ก็ต้องรักที่หัวใจของเขา

ไม่ใช่ที่หน้าตา ไม่ใช่เสื้อผ้าที่เขาใส่ ไม่ใช่เพราะนามสกุลเขาดัง และไม่ใช่เพราะบ้านเขารวย

การรักคนที่ เปลือก และการตั้งสเป็กว่าถ้ามีแฟน แฟนฉันต้องเพอร์เฟ็คต์สุด

แต่ ต้องเป็นได้ในทุกสิ่งที่ฉันหวังนั้น



เป็นการรักที่เหมือน ดอกไม้ ทันทีที่บาน ไม่นานก็จะแห้งเหี่ยวลง

เพราะไม่มีใครที่เพอร์ เฟ็คต์ทุกด้านและยอมเปลี่ยนตัวเองได้เพื่อคนอื่นขนาด นั้น

ชีวิตของ เขาหรือของเราก็เหมือนเส้นวงกลมที่วาดด้วยมือ

จึงไม่มีเส้นเส้นไหน หรอกที่จะสมบูรณ์แบบ เหมือนใช้วงเวียนวาด


หากจะรัก จึงควรยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น และบอกให้เขาเปลี่ยนเฉพาะ "บางสิ่ง" ที่ไม่ดี

รวมถึงตัวเราเองก็ ต้องยอมเปลี่ยนในบางสิ่งที่ไม่ดีด้วยเช่นกัน

ซึ่งถ้าต่างคนต่าง เปลี่ยนแบบนี้ ก็จะเรียกว่า "การปรับตัวเข้าหากัน"

เพื่อจะรักกัน ได้อย่างไม่ไร้ความเข้าใจ




และ...อย่าให้ความรักของเธอโลเล เปลี่ยนใจง่ายเหมือนความรักของ "ชอล์ก"

รั ก แ ล้ ว ต้ อ ง มั่ น ค ง......เ มื่ อ เ ธ อ ก็ มี ค น ที่ ใ ช่ อ ยู่ ใ ก ล้ ตั ว

แล้วจะ เหนื่อยกับการวิ่งไล่ตามคนที่ไกลตัวไปทำไม?



บทความดีดี จาก tamdee.net

ดื่มน้ำกระเจี๊ยบช่วยลดไขมัน




สาวๆ หลายคนที่อยากผอมสวยสุขภาพดีด้วยวิธีธรรมชาติ "น้ำกระเจี๊ยบ" นางเอกของสมุนไพรที่ช่วยลดไขมันส่วนเกินได้อย่างเหลือเชื่อ

จาก การศึกษาทางวิทยาศาสตร์
พบว่า ในกระเจี๊ยบแดงมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่าง "สารแอนโธไซยานินส์" ในปริมาณมากซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกันกับที่พบในบลูเบอร์รี่ เชอร์รี่ และแครนเบอร์รี่ มีคุณสมบัติในการป้องกันมะเร็ง และชะลอแก่ นอกจากนี้ยังพบว่า กระเจี๊ยบแดงมีคุณสมบัติในการลดคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ และไขมันชนิดเลว (LDL) ในร่างกายของเราได้อย่างดีด้วย

การเลือกดื่มน้ำกระเจี๊ยบ

อย่างแรก ควรเลือกน้ำกระเจี๊ยบที่ยังใหม่อยู่ โดยดูได้จากสีที่ต้องแดง ไม่คล้ำเพราะหมายถึงคุณประโยชน์ที่ยังคงอยู่ แต่สำหรับสาวๆ อย่างเราที่ต้องการผอมเพรียวนั้นก็ควรเลี่ยงน้ำตาลด้วยนะคะ เพราะฉะนั้นต้องเลือกน้ำกระเจี๊ยบที่มีน้ำตาลน้อยและดื่มให้ได้อย่างน้อยวัน ละ 1-2 แก้ว จึงจะได้ผลดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งดื่มก่อนอาหาร เพราะจะทำให้เรารับประทานอาหารได้น้อยลง




ข้อสำคัญ หุ่นสวยอย่างเดียวไม่พอ ต้องสุขภาพดีด้วยนะคะ เพราะฉะนั้นอย่าลืมรับประทานผักผลไม้ให้เยอะๆ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

● นับหนึ่งใหม่ ... ถ้าใจติดลบ ●



ล้มทั้งยืน..ดี กว่าล้มไม่เป็น



อย่าคิดว่าสูญเสีย
แล้วชีวิตจะต้องเป็นศูนย์
เรานับหนึ่ง ใหม่ได้เสมอ
หากเราคิดจะนับซะอย่าง


ถ้า สิ่งที่เราคาดหวัง...ไม่เป็นดั่งหวัง
ถ้าสิ่งที่เราพยายามทุ่มเททำสุดแรง กายแรงใจ
ไม่ประสบผลสำเร็จ
ถ้าสิ่งที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิด ขึ้น
มันก็เกิดขึ้นและได้สร้างความบอบช้ำ
จนทำให้เราต้องจมอยู่กับ ความทุกข์

เรากำลังก้าวสู่ "ชีวิต ที่เป็นจริง" แล้วหล่ะ เพราะความเป็นจริงของชีวิต จะสอนให้เรารู้จักยอมรับความพ่ายแพ้สอนให้เรารู้จักสูญเสียน้ตา เพื่อที่จะได้รอยยิ้มคืน กลับมาเป็นรางวัลตอบแทน แต่มันก็ไม่เคยทำให้ใครหมดสิ้นความหวัง หมดสิ้นพลังและกำลังใจไปกับความพ่ายแพ้ เพียงแค่ความเป็นจริงสอนให้พวกเราทุกคนรู้ว่า

........... อย่าเพียรสร้างความหวัง
แต่ให้เชื่อมั่นใความหวัง............


เพราะความ เชื่อมั่นจะนำพาเราไปพบกับ
"หนทางสู่ความสำเร็จ"
แม้ ว่าจะต้องฝ่าฟันอะไรอีกมากมายกว่าจะถึงวันนั้น
แม้ว่าจะต้องล้มลงอีกสัก กี่ครั้ง
แม้ว่าจะต้องผิดหวังอย่างแรงอีกสักกี่หนก็ตาม




ปล่อย ให้ชีวิตผิดพลาดเสียบ้าง ปล่อยให้ความคาดหวังได้เจอกับความผิดหวัง ปล่อยให้ความฝันกลายเป็นฝันค้างลอยกลางอากาศ ปล่อยให้อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด แม้ว่าเกิดขึ้นแล้วจะเลวร้ายกับชีวิตก็ตามที เพราะทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้น จะช่วยสอนและช่วยเป็นบทเรียนอันล้ำค่าให้แก่ชีวิต ที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วบนโลกใบนี้

คุณ บอย โกสิยพงศ์ เคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสารเล่มหนึ่ง เขาพูดให้แง่คิดที่ดีเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งมันอาจจะสร้างบาดแผลให้กับใครหลายๆ คนมาบ่อยครั้ง คุณบอยพูดไว้ว่า...

ไม่มีอะไรที่อยู่กับเราตลอดชีวิต
ทุกอย่างมันก็รอเวลา จากเราไปทั้งนั้น


เชื่อว่าถ้า ชีวิตคนเราไม่ยึดติด ไม่ต้องแขวนชีวิตไว้กับความคาดหวัง เวลาที่เราสูญเสีย หรือเวลาที่เราต้องเจอกับความล้มเหลว เราคงมีภูมิต้านทานมากพอที่จะเอาไว้ต่อสู้กับความท้อแท้ อย่าคิดว่าสูญเสียแล้วชีวิตจะต้องเป็นศูนย์ เพราะว่าเรานับหนึ่งใหม่ได้เสมอหากเราคิดที่จะนับซะอย่าง ไม่มีอะไรบนโลกที่น่ากลัว และไม่จำเป็นต้องกลัวกับความเป็นจรองของชีวิต

"มีพบก็ต้องมีจาก มีได้ก็ต้องมีเสีย
และมีสุขก็ต้องมี ทุกข์เป็นสัจธรรม"


เมือ่ไรที่เราได้รู้จักสัมผัส และได้เรียนรู้กับชีวิตทั้งสองด้าน เมื่อนั้นเราจะไม่รู้สึกเสียดายหากเราได้มีโอกาสล้มทั้งยืน แต่เราจะเสียใจไปตลอดชีวิตหากเราไม่สามารถก้าวข้ามความล้มเหลวที่ผ่านเข้ามา ได้



มีคนเคยบอกเอาไว้ว่า...


การตั้งความ หวัง
คือการเสี่ยงกับความเจ็บปวด
การพยายาม คือการเสี่ยงกับความล้มเหลว


แต่ยังไงก็ ต้องเสี่ยง


เพราะในสิ่ง ที่อันตรายที่สุดในชีวิตก็คือ


การไม่เสี่ยง อะไรเลย



ล้มลงสักกี่ครั้ง ผิดหวังมาสักกี่หน ลุกขึ้นยืนให้ไกด้ แล้วสักวันเราจะเจอความสุข เพราะความสุขไม่ได้หนีจากเราไปไหนหรอก มันอยู่ใกล้เราแค่เพียงเอื้อมมือจริงๆ ถ้าหากเราไม่ได้ไปตัดสินว่า โลกมันควรเป็นอย่างที่เราอยากให้เป็น และไม่ได้ตั้งกฎเกณฑ์ให้กับตัวเองมากจนเกินไป เวลาคิดหรือทำอะไรสักอย่างแล้วมีข้อบังคับ มีกรอบ และสร้างมโนภาพความสำเร็จไว้ล่วงหน้า เมื่ออะไรๆ ไม่เป็นไปตามกฎของเรา เราก็ทุกข์ เราก็เสียใจ และเราก็ใจเสียเอาได้ง่ายๆ


มีคนเคยบอกไว้ว่า


สิ่งที่เกิด ขึ้นกับคุณ


ไม่ใช่สิ่งที่ จะกำหนดความสุขของคุณ


แต่มันเป็น ความคิดของคุณเองต่างหาก


ความคดที่มี ต่อสิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับคุณนั่นเอง



จะสุขหรือจะทุกข์ก็ขึ้นอยู่ที่เราทั้งนั้นเป็นคนกำหนด ล้มทั้งยืนเสียบ้างก็คงไม่เสียหายไร แต่ล้มไม่เป็นเลยนี่สิ...



ลองคิดดูเล่นๆ ซิว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตต่อไป............ห ลั ง จ า ก นี้



ข้อมูลจาก หนังสือ นับหนึ่งใหม่ถ้าใจติดลบ

บอกลาขอบตาคล้ำ .. ด้วยการนวด

-->

เคย มั้ยไม่ว่าจะพยายามเข้านอนเร็วแค่ไหน เพื่อพยายามชดเชยความอ่อนเพลียของร่างกาย แต่ไม่ว่าจะชดเชยไปเท่าไหร่ รอยคล้ำตายตา คลับคล้ายคลับคลาอาหมวยที่สวนสัตว์เชียงใหม่ก็ไม่หากซะที จะแต่งหน้าแต่ละที ก็ไม่มั่นใจ ต้องคอยเอาแป้งมาเปาะกลบรอยคล้ำ

หาก คุณเป็นสาวๆคนหนึ่งที่หนีไม่พ้นวังวน
ขอบตาคล้ำหล่ะก็ วันนี้ มีเทคนิคการนวดเพื่อลดเลือนรอย คล้ำใต้ตาแบบง่ายๆ เพียง 5 ขั้นตอน จากเอต์ตูเซ่ส์มาฝาก

เริ่มจาก ขั้นตอนแรก คือ ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับถนอมดวงตาของคุณ หยดลงบนปลายนิ้วของคุณ แล้วแตะบนเปลือกตาบน และล่าง

ขั้นที่ 2 ให้กดจุดดังภาพด้วยน้ำหนักบางเบาจากนั้นลูบไล้เบาๆ รอบดวงตา 6 ครั้ง ระวังหลีกเลี่ยงให้พ้นขอบเปลือกตาดังภาพ



ขั้นที่ 3 คือ ใช้นิ้วนางนวดทางด้านบนโดยเริ่มจากมุมด้ายในตรงหัวตาออกไปสู่บริเวณขมับใน ลักษณะยกขึ้นอย่างเบาๆ ทำซ้ำในท่าเดิม 6 ครั้ง

ขั้นที่4 ใช้นิ้วชี้ นิ้วกลางและนิ้วนางตบเบาๆบริเวณใต้ตา


ขั้นสุดท้าย คือ ใช้นิ้วกลางกดจุดทั้งเจ็ดดังภาพ


เพียงเท่านี้ดวงตาคู่ สวยจะไปไหนไกลมอบ ความรักของคุณให้แก่ดวงตาตั้งแต่วันนี้ รอยคล้ำใต้ตาแลดูจางหายในทันที สวยโดดเด่นจนใครๆก็ร้องทัก

ข้อมูลจาก ไทยรัฐออนไลน์

วิธีรับมือกับความโสด !!!

ว่า กันไปถึงเรื่องข้อดีของสาวโสดแล้ว บางครั้งก็รู้สึกว่าชีวิตการเป็นโสดนี่ย่ำแย่เหมือนกันน่ะ มาลองใช้เวลา อยู่กับความโสดของตัวเองให้เป็นสุข ดูบ้างกันดีไม๊คะ...จะรู้ว่าไม่เลวเลย

ทำใจให้ได้กับการอยู่ตัวคนเดียว สำหรับสาวโสดมือใหม่ ช่วงแรกอาจจะทำใจยากซะหน่อย อาจจะไม่คุ้นกับเวลาว่าง ที่มีมากขึ้นอย่างไม่เคยมี ไม่เคยดูหนังคนเดียวก็ฝึกไว้ซะ ทานข้าวคนเดียวก็อิ่มได้เหมือนกันล่ะน่ะ

หัดแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ทุกครั้งอาจจะมีคนช่วยคิด แต่เมื่อต้องคิดเอง ทำเอง ก็รู้เถอะว่า ไม่มีอะไรที่ยากเกินกว่า ที่คนเราจะทำได้หรอก ค่อย ๆ คิดทีละขั้น อะไรที่เราทำได้ แล้วอะไรที่เราต้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่น

ดึงความสามารถของตัวเองออกมาใช้ ความคิดพื้นฐานคือ "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" ทำทุกอย่างด้วยตัวเองให้เต็มที่ก่อน อย่าทำตัวเป็นเด็ก เพราะเพื่อน ๆ คงไม่ค่อยจะว่างให้เราได้อ้อนซะเท่าไร อะไรที่ทำด้วยตัวเองได้ให้ทำ อะไรที่จ้างคนอื่นหรือใช้บริการต่าง ๆ ได้ จัดการซะ

มีความสุขกับทุกวันและทุกอย่างรอบตัว ไม่มีประโยชน์ที่จะมานั่งเศร้ากับชีวิตตัวคนเดียว แต่ใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีความสุข ตื่นขึ้นมากับความสดชื่น ลืมตาก็คิดว่าวันนี้ เราจะทำอะไรที่เราชอบ วันนี้ฉันจะทำให้ใครยิ้มได้บ้างนะ ความสุขทุกอย่างเกิดขึ้น ได้จากใจของเรา มองทุกอย่างด้วยรอยยิ้ม... แล้วโลกจะยิ้มกลับมาให้เรา

อย่าสูญเสียความมั่นใจในตัวเอง อย่าเสียความเคารพตัวเอง การเป็นโสดไม่ได้หมายความว่าเราเป็นคนผิดปกติ ถึงคนเราจะไม่มีใครที่ดีเลิศไปทุกอย่าง แต่เราก็เป็นคนหนึ่งที่มีความน่ารักอยู่บ้าง เรายังมีเพื่อน มีพี่น้องที่รักเรา และรอความรักจากเราอยู่เสมอ มองตัวเองด้วยความรักอยู่เสมอ จะอ้วน จะดำ จะขี้เหร่แค่ไหน ก็บอกตัวเองว่าคนนี้ล่ะ ที่ยังทำประโยชน์ให้กับคนอื่นได้

ใช้เวลากับคนรอบข้าง เพื่อน ๆ และคนอื่น ๆ ให้เต็มที่ เราไม่รู้หรอกว่าเราจะเป็นโสดอีกนานเท่าไร ถ้าจู่ ๆ พรุ่งนี้ได้เจอใครสักคนที่ใช่ จะเสียดายว่าเรายังไม่ได้เม้าท์ข้ามวัน กับเพื่อนเลย ตอนนี้ล่ะชวนเพื่อนจัดเป้เที่ยวตะลุย ตั้งแต่เหนือจรดใต้ หรือจะไปทัวร์ต่างแดนก็ไม่มีใครว่า

ได้เวลาลองทำสิ่งที่ไม่เคยทำ...หรือ ไม่เคยกล้าทำ ช่วงเป็นโสดนี่ล่ะ เป็นช่วงที่อะครีนาลีน พลุ่งพล่านดีเหลือเกิน หากิจกรรมที่มันๆ ได้ ทำให้รู้กันไปซะเลย เมื่อก่อนต้องรอการตัดสินใจจากอีกคนหนึ่ง ซึ่งบางทีก็ขี้เกียจ บางทีก็ไม่กล้า คราวนี้ล่ะชีวิตฉัน..เป็นของฉันเองแล้ว จะกระโดดโลดเต้นแค่ไหน ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาขัด

อย่ามองโลกในแง่ร้าย..เปิด โอกาสให้กับตัวเองอยู่เสมอ ถ้าต้องการมีคู่ ไม่อยากอยู่เป็นโสดทั้งชีวิต ก็อย่าเถียง ความจริงไม่ต้องป่าวประกาศกับใคร ๆ ว่าฉันอยู่คนเดียวได้ ทั้งที่ใจไม่ต้องการ ให้โอกาสกับตัวเองได้เรียนรู้สิ่งใหม่ และคนใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตอยู่เสมอ ความเชื่อในความรักจะทำให้คนโสดคนนั้นมีความน่ารักอยู่เสมอ...

25 วิธีมีความสุขกับสิ่งรอบตัว

ชีวิตเป็นอนิจจัง ไม่เที่ยง มีขึ้นมีลง หากอยากมีความสุข คุณต้องรู้จักซึมซับความรู้สึกอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นความโศกเศร้าหรือความโกรธที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน รวมทั้งยอมรับในสิ่งที่คุณมี และสถานภาพที่คุณเป็น เพื่อจะได้มีความสุขกับชีวิตมากที่สุดที่จะทำได้ ถ้าคุณไม่รู้จักความทุกข์ แล้วคุณจะรู้จักความสุขได้อย่างไร คนเราไม่อาจมีความสุขได้ตลอดเวลา เราต้องไขว่คว้า แสวงหาและชื่นชมจึงจะได้มาซึ่งความสุข มีคนเคยกล่าวว่า “ความ สุขหาได้ ความทุกข์ไม่ต้องหา...มาเอง” ดังนั้นเรามาลองดูวิธีการสร้างสุขกันดีกว่า

25 วิธีมีความสุขกับสิ่งรอบตัว เก็บมาฝากค่ะ เพราะอยากให้ทุกคนมีความสุข

1. คิดใหม่ใช้ชีวิตราวกับว่าวันนี้เป็นวันสุดท้าย คนที่ป่วยหนักใกล้ตาย จะไม่ปล่อยเวลาให้สายเกินไปอีกแล้ว จะท่องเที่ยวไปในโลกกว้าง หรือติดต่อพบปะเพื่อนฝูง เราทุก คนก็ควรตระหนักว่าอาจไม่มี “พรุ่งนี้ ” ก็ได้

2. จดบันทึก เขียนเล่าเรื่องถึงสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นกับคุณทุกวัน การจดบันทึกช่วย แก้ปัญหาและขจัดเรื่องไม่ดีที่ รกสมองออกไปได้ด้วย

3. มองในแง่มุมอื่นบ้าง ลองคิดว่าคุณอยากให้คนอื่นจดจำคุณในด้านใดหรือหากวันหนึ่งต้องเล่า เรื่องชีวิตตนเองให้หลาน ๆ ฟังคุณจะเล่าอะไร แล้วคุณพลาดการนัดกับเพื่อน เพื่อไปดูหนัง ตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อมองย้อนกลับไป

4. อย่าให้เรื่องเล็กน้อยกวนใจ ไม่คุ้มหรอกที่จะหัวเสียกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง หากคนขับรถข้าง ๆ ไม่ยอมให้คุณเบียดเข้าเลน ก็ยิ้มและโบกมือให้เขาไปเลย

5. ทำงานยากให้เสร็จ ลงมือได้แล้ว อย่าผัดวันประกันพรุ่ง โอ้เอ้ไปก็มีแต่ทำให้ หนักใจเหนื่อยกาย ไหน ๆ งานนี้ก็ต้องทำโดยไม่มีทางหลีกเลี่ยง ก็น่าจะทำให้เสร็จ ๆ ไปเลย

6. เลิกทำตัวจำเจ ชีวิตคงน่าเบื่อหากทำอะไรซ้ำซากทุกวันทุกสัปดาห์ เราน่าจะมีเรื่องแปลก ใหม่มาทำให้หัวใจกระชุ่มกระช่วยบ้าง เปลี่ยนแปลงตัวเองด้านการแต่งกาย ทรงผม ทานอาหารรสชาดใหม่ ๆ

7. อย่าเปรียบตัวเองกับคนอื่น ใครจะมีสระว่ายน้ำ บ้านหลังใหญ่ๆ รถหรูคันใหม่ไม่ต้องสนใจ หากดูให้ดี ๆ คุณอาจพบว่าพวกเขาเหล่านั้นต้องทำงานสัปดาห์ละเจ็ดวัน ไม่มีเวลาเจอคนในบ้านหรือเพื่อนฝูงหรืออาจต้องผ่อนหนี้สินไปอีกหลายสิบปี

8. กำจัดข้าวของรกบ้าน เสื้อผ้า ของเล่น หนังสือเก่า ที่ไม่ใช้แล้ว ยกไปบริจาคเถิดได้บุญกุศล

9. รู้จักเอ่ยคำว่า “ ไม่ ” ไม่ต้องลงมือทำเองทุกเรื่องเพราะชีวิตคุณก็วุ่นวายพออยู่แล้ว

10. รดน้ำต้นรัก รักคู่ครองของคุณอย่างที่เขาเป็นที่คุณคิดว่าเขาเปลี่ยนไปนั้นเป็นความจริง หรื อท ุกอย่างเมื่อใช้งานไปได้ระยะหนึ่งก็ต้องบำรุงรักษาเป็นของธรรมดา ความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาก็เช่นกัน ต้องมีการดูแลใจใส่กันบ้าง

11. อย่าให้ความคุ้นเคยกลายเป็นไม่ไว้หน้า หากคุณให้เกียรติเพื่อน หรือผู้อื่น คู่ครอง และคนในครอบครัว คุณก็ควรได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกัน

12. มอบความรักให้คู่ครอง ครอบครัว และเพื่อน ๆ อย่าเขินที่จะบอกคนเหล่านี้ว่า คุณ “ รัก ”พวกเขาตรงไหน เมื่อ เขาทำอะไรดี ๆ ก็กล่าวคำชื่นชมบ้าง คำชมเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่เคยทำร้ายใคร

13. อย่ารับปรับทุกข์ทุกเรื่อง หากปัญหาของเพื่อนเริ่มมีผลกระทบต่อตัวคุณก็ไม่ต้องฝืนทำตัวเป็นเสาหลักให้ เขา พิ งอยู่เรื่อยไป ให้เพื่อนหัดแก้ปัญหาและก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยตัวเอง

14. ติดต่อเพื่อนเก่า ยังไม่สายเกินไปที่จะโทรศัพท์ ส่งอีเมล์ หรือเขียนจดหมายถึงเขา ส่ง SMS

15. บำรุงอารมณ์ด้วยสีเขียว ตัดดอกไม้สดจากสวน หรือตื่นแต่เช้าไปตลาดซื้อดอกไม้ที่สดใสนำมาใส่แจกัน

16. ไปทะเลกันดีกว่า ทิวทัศน์กว้างไกล สายลม เกลียวคลื่น สองเท้าเปลือยเปล่าย่ำบนผืนทราย และแสงแดดลูบไล้แผ่นหลัง ไม่มีอะไรทำให้จิตใจเริงรื่นชื่นบานได้ดีกว่านี้อีกแล้ว

17. สร้างสรรค์ผลงาน จะเป็นภาพเขียน เย็บปักถักร้อย อบขนม จัดสวน หรืออะไรก็ได้

18. สูดอากาศบริสุทธิ์ ออกไปข้างนอกหรือเปิดหน้าต่างกว้าง ๆ สูดหายใจให้เต็มปอด คุณจะรู้สึกว่าอากาศเสียถูกขับออกจากตัว

19. ออกไปเดินเล่น การออกกำลังกายเบา ๆ จะช่วยเติมชีวิตชีวาให้คุณทั้งร่างกายและจิตใจ

20. ดูหนังตลกและหัวเราะให้สบายใจ

21. ย้ายเครื่องเรือนและของแต่งบ้าน หรืออาจทาสีห้องและผนังใหม่ด้วย

22. รอคอยสิ่งดี ๆ เช่น วันหยุดพักร้อน ออกท่องราตรีกับเพื่อนฝูง ไปดูหนัง ฟังเพลง หาร้านอาหารอร่อย ๆ ที่ไม่เคยไป รอโทรศัพท์จากคนรู้ใจ

23. ชวนเพื่อน/ คนรู้จัก หรือใครก็ได้ มากินมื้อค่ำ จัดห้องโต๊ะอาหารที่บ้านให้แปลกไปจากเดิม เสริฟ์เครื่องดื่มค็อกเทล เปิดเพลงเสริมบรรยากาศ สนุกกับการเตรียมอาหาร ทุกคนจะปลาบปลื้มหากเห็นว่าคุณทุ่มสุดฝีมือแล้วค่ำ คืนนั้นก็จะครึกครื้น

24. ยิ้มไว้ ยิ้มเป็นโรคติดต่อ ไม่เชื่อลองยิ้มดูสิ

25. ทำให้คนอื่นมีความสุขบ้าง ทำเพื่อตัวเองมามากแล้วก็น่าจะทำเพื่อคนอื่นบ้าง อาสาช่วยงานกุศล บริจาค พากันไปท่องเที่ยวหาความสุข หรือช่วยทำอะไรก็ได้ที่ทำให้คนอื่นมีความสุข

ข้อมูล จาก : http://www.global-report.net
ที่มา : http://variety.teenee.com/foodforbrain/9428.html

เคล็ดลับถนอมริมฝีปากให้สวยอวบอิ่ม



1. ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 4-6 แก้ว เพื่อป้องกันการเกิด ร้อนใน ซึ่งถ้าหากเป็นร้อนในแล้วจะทำให้ปากแห้งหรือ แตกลอกเป็นขุยได้ง่าย

2. สำหรับหลาย ๆ คนที่เคยเข้าใจว่า เมื่อรู้สึกว่าริมฝีปากแห้งนั้น ก็ใช้ลิ้นเลียริมฝีปากบ่อย ๆนั้น ขอแนะนำให้คุณเปลี่ยนความคิดและเลิกทำไปได้เลย เพราะในน้ำลายจะมีเอนไซม์ที่ทำให้ริมฝีปากของคุณแห้งกว่าเดิม แถมยังทำให้ริมฝีปากมีสีคล้ำขึ้นอีก

3. ก่อนนอนควรทาลิปกลอส หรือ ลิปมันเป็นประจำ เพื่อเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้น และป้องกันริมฝีปากแตก หรือเป็นขุยได้

4. เวลาที่ริมฝีปากของคุณเป็นแผล ไม่ควรที่จะแกะสะเก็ดแผลเด็ดขาด เพราะนอกจากจะทำให้อาการของแผลแย่ลงแล้ว ยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อและทำให้ปากที่ลอกหายยากขึ้นอีกด้วย

5. เมื่อต้องออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง อย่าลืม !!.... ทาลิปสติกที่มีส่วนผสมป้องกันรังสียูวี

6. ระวัง!... ยางผลไม้บางชนิด เพราะเมื่อมันสัมผัสกับริมฝีปากของคุณแล้วจะทำให้ริมฝีปากมีสีคล้ำได้

7. หากมีปัญหาปากเป็นขุย หลังแปรงฟันเสร็จใหม่ ๆ ในขณะที่ริมฝีปากยังชุ่มชื้นด้วยน้ำอยู่ ให้ใช้แปรงสีฟันแปรงเบา ๆ ที่ริมฝีปากบนและล่าง เพื่อให้ขุยหรือสะเก็ดลอกออก จากนั้นจึงใช้ลิปมันทาบางๆ

วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553

อาหารลดไขมันรอบเอว....


1. อะโวคาโด : อะโวคาโดอุดมไปด้วยสารเบตาซิสโตสเตอรอล ซึ่งช่วยในการดูดซึมคอเลสเตอรอล มีเส้นใยอาหาร ทั้งชนิดที่ละลายน้ำ ซึ่งช่วยขจัดคอเลสเตอรอลส่วนเกินออกจากร่างกาย และชนิดที่ไม่ละลายน้ำซึ่งช่วยป้องกันอาการท้องผูก ปริมาณแนะนำต่อวัน: 1/2 ถ้วย

2. บรอกโคลี่ : นักวิจัยระบุว่าสารอาหารอย่าง แคลเซียมช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีที่จะสะสมไว้เป็นไขมันส่วนเกินได้ และบร็อกโคลี่ก็มีดีที่เป็นแหล่งแคลเซียมซึ่งไม่มีไขมัน ปริมาณแนะนำ: 1 1/2 ถึง 2 ถ้วย

3. ถั่วและเมล็ดพืชต่างๆ: มีคาร์โบ ไฮเดรตเชิงซ้อน มีส่วนช่วยควบคุมน้ำหนักได้ โดยเฉพาะถั่วเปลือกแข็งและเมล็ดพืชต่างๆ เช่น อัลมอนด์ มะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง เมล็ดดอกทานตะวัน เมล็ดฟักทอง พิสทาชิโอ ปริมาณแนะนำต่อวัน: 2 ช้อนโต๊ะ

4. น้ำมัน :
เลือกกินน้ำมันที่มีประโยชน์ช่วยลดน้ำหนักได้ น้ำมันพืชต่างๆ เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันชา น้ำมันถั่วเหลือง ปริมาณแนะนำต่อวัน: 1 ช้อนโต๊ะ

● ความรักและก้าวแรก ●



เราชอบเขา เพราะเขาเป็นเขาหรือเพราะปัจจัยภายนอกอย่างอื่น
เรายังคงความเป็นตัวเอง ได้หรือไม่ขณะที่เรามีเขาเข้ามาผูกพันด้วย
เขาคือคนที่เราไว้ใจและเชื่อ มั่นได้มากน้อยแค่ไหน
และที่สำคัญ เรารู้สึกมีความสุขเมื่อได้อยู่กับเขา มากกว่าการอยู่คนเดียวหรืเปล่า
..ถ้า หากคำตอบที่ได้หลายๆ ข้อนี้ออกมาเป็นบวกเสียส่วนใหญ่
เราก็ไม่น่าจะต้อง รีรอที่จะยอมตกหลุมรักใครสักครั้ง

..เพราะชีวิตของคนเราไม่ได้ยืน ยาวสักเท่าไหร่
การได้พบเจอคนที่ถูกใจ บางทีมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งนัก
แต่สิ่งที่สำคัญ คือ เมื่อได้รักแล้วเราต้องรักแบบเข้าใจในความรักด้วย
อย่าเพิ่งรีบคาดหวัง ว่าจะต้องเป็นรักแท้ที่ยั่งยืน
ปล่อยให้ความรักค่อยเติบโต ให้มิตรภาพที่มีค่อยๆ งอกงามไปตามธรรมชาติ
พร้อมๆกับการเรียนรู้แบบค่อย เป็นค่อยไป

..ในโลกของความรัก เดี๋ยวนี้มันไม่ได้มีคำตอบแค่
"รัก" กับ "ไม่รัก" เท่านั้น มันยังมีคำว่า ความเหมาะสม
การยอมรับ ครอบครัว หน้าที่การงาน และอะไรอื่นๆ อีกเยอะแยะ

เพราะฉะนั้นเมื่อเราอยากจะ รักใคร เรารักได้
แต่อย่าคาดหวังว่าจะได้ "รัก" กลับคืนมาในรูปแบบที่เราต้องการ
เมื่อเรารักเป็น เราก็จะสามารถยอมรับได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น
ไม่ว่ามันจะเป็นอย่างไร แม้ความรักอาจะไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต
แต่มันก็มีค่า ต่อการมีชีวิตอยู่
...เป็น แรงบันดาลใจให้เราทำอะไรได้มากมาย...

ส่วนคนที่ผิดหวังกับความรักมา
คุณอาจมีอดีตที่เลวร้าย แม้คุณจะสามารถเก็บมันไปคิดทบทวน
เพื่อ เป็นบทเรียนที่ดีได้ แต่ไม่มีประโยชน์หรอกที่จะจมกับมันตลอดไป

ลอง เปิดใจที่จะเรียนรู้กับความรักอีกสักครั้ง
บางทีคุณจะพบว่า ความสุขจากการได้รักนั้น
ไม่ได้เกิดจากคนอื่นเลย
แต่มันเป็นความสุข ที่เราสร้างมันขึ้นมาเอง
จากหัวใจเราเอง และเมื่อรักเป็นของเรา
ไม่ ว่าคนที่เรารู้สึกรักนั้นจะจากไปไหน
เราก็ไม่จำเป็นต้องฟูมฟาย กับการจากไปของเขา
เพราะถึงอย่างไร รักที่คุณมีนั้นมันก็ยังอยู่กับตัวคุณเสมอ

มารู้จักตัวเองให้มากขึ้นอีก นิด...กันเถอะ

1. ในวันหยุด คุณเดินทางโดยเครื่องบินไปยังสถานที่ที่คุณอยากจะไปพักผ่อน
ขณะเดินทางมาได้ครึ่งทางแล้ว คุณคิดว่าด้านล่างของเครื่องบินเป็นอะไร

ก. อาคารบ้านเรือน
ข. ทะเล
ค. ป่าไม้
ง. ทุ่งหญ้า

2. กลางดึกคุณนั่งอ่านหนังสือในห้องนอน อ่านอยู่ครู่หนึ่งคุณจึงพักสายตามองผ่านหน้าต่างออกไป คุณมองเห็นดวงจันทร์จากทางหน้าต่างห้องนอนคุณหรือไม่? ถ้าคุณ เห็น คุณเห็นดวงจันทร์มีลักษณะอย่างไร
ก. พระจันทร์เต็มดวง
ข. พระจันทร์ครึ่งดวง
ค. พระจันทร์เสี้ยว

3. เมื่อคุณคิดจะตกแต่งสวนหน้าบ้าน คุณจะให้ความสำคัญกับสิ่งใดเป็นอย่างแรก
ก. ต้นไม้ที่ให้ความร่มเงา
ข. บ่อน้ำ
ค. ดอกไม้สีสรรต่างๆ
ง. ลานหญ้า

4. ในบริเวณสวนหลังบ้านของคุณ คุณจะให้ความสำคัญกับสิ่งไหนมากที่สุด
ก. ต้นไม้ที่ให้ความร่มเงา
ข. บ่อน้ำ
ค. ดอกไม้สีสรรต่างๆ
ง. สัตว์เลี้ยงต่างๆ

5. คุณ อยากเห็นวิวที่มองออกจากหน้าต่างห้องนอนของคุณเป็นอย่างไร
ก. เห็นท้องฟ้า
ข. เห็นทะเล
ค. เห็นต้นไม้หรือสวนสาธารณะ
ง. เห็นอาคารบ้านเรือน

6. วันนี้ ต้องไปซื้อของที่ศูนย์การค้า ของที่จะต้องซื้อคือ รองเท้า, เสื้อ ผ้า, หนังสือ และนาฬิกาข้อมือ คุณคิดว่าจะใช้เวลาเลือกซื้อของชิ้นใดนานที่สุด
ก. รองเท้า
ข. เสื้อผ้า
ค. หนังสือ
ง. นาฬิกาข้อมือ

7. ผ้าเช็ดหน้าที่คุณพกติดตัว มีลวดลายแบบไหน
ก. ผ้าเช็ดหน้าสีสดใส
ข. ผ้าเช็ดหน้าสีอ่อน
ค. ผ้าเช็ดหน้าลายดอกไม้หรือลายจุด
ง. ผ้าเช็ดหน้าลายสก็อต หรือ ลายเส้น

8. วันนึง คุณไปช้อปปิ้งย่านการค้า คุณถูกใจเสื้อตัวหนึ่งจึงลองเอามาสวม เห็นว่าสวยและใส่ได้พอดีเลยตัดสินใจซื้อ เมื่อกลับมาถึงบ้านคุณลองเอามาสวมใส่อีกครั้งพบว่าเสื้อคับนิดหน่อย และสีไม่สวยเหมือนตอนที่เห็นในร้าน คุณจะทำอย่างไร
ก. เอาเสื้อกลับไปเปลี่ยนที่ร้าน
ข. หาวิธีดัดแปลงเสื้อหรือเก็บเอาไว้ใส่เล่น
ค. คิดว่า ช่างมันไหนๆ ก็ซื้อมาแล้ว หรืออาจจะเอาไปให้คนอื่น



เฉลยจ้ะ...

1. สิ่งที่คุณเห็นด้านล่างนั้น สื่อถึง ... ปัญหาในชีวิตที่คุณอยากหนีไปให้พ้น

ก. อาคารบ้านเรือน
สื่อถึง... ปัญหาที่เกิดจากที่ทำงาน การเรียน หรือ ความสัมพันธ์ของคุณกับเพื่อนร่วมงาน

ข. ทะเล

สื่อถึง ....ปัญหาเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดจาตัวคุณเอง

ค. ป่าไม้

สื่อถึง... ปัญหาในครอบครัว หรือเรื่องราวความรักของคุณ

ง. ทุ่งหญ้า

สื่อถึง... ปัญหาที่เกิดจากเพื่อนหรือความสัมพันธ์ของคุณกับคนรอบข้าง

2. ข้อนี้สื่อถึงว่า ... คุณมีเป้าหมายในชีวิตหรือยัง

- ถ้าคุณมองไม่เห็นดวงจันทร์
สื่อถึง...คุณยังไม่ได้คิดถึงเป้าหมาย ในชีวิตว่าจะเป็นอย่างไร หรือยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่คุณคิดอยู่นั่นใช่หรือไม่..

- แต่ถ้าคุณมองเห็นดวง จันทร์

สื่อ ถึง ... คุณมีเป้าหมายในชีวิตแล้ว รูปแบบของดวงจันทร์เป็นสัญลักษณ์ของ .. รูปแบบของเป้าหมายในชีวิตของคุณ โดยถ้า

ก. พระจันทร์เต็มดวง

สื่อถึง .. คุณมีเป้าหมายที่ชัดเจน และมั่นใจว่าแผนการต่างๆ ที่วางไว้สามารถช่วยคุณให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย

ข. พระจันทร์ครึ่งดวง

สื่อถึง .. คุณยังไม่ยึดมั่นกับเป้าหมายที่คิดไว้มากนัก อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ หรือคุณยังไม่แน่ใจว่าแผนการที่คุณคิดไว้จะประสบความสำเร็จหรือไม่

ค. พระจันทร์เสี้ยว

สื่อถึง ..คุณเริ่มจะมองเห็นเป้าหมายในชีวิตแล้ว แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะใช่หรือไม่ ยังต้องใช้เวลาลองผิดลองถูกอีกสักระยะหนึ่ง จึงจะพิจารณาได้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของคุณคืออะไร

3. สิ่งที่คุณให้ความสำคัญอันดับแรก เมื่อคุณคิดว่าจะตกแต่งสวนหน้าบ้าน สื่อถึง .. บุคคลแรกที่คุณจะนึกเมื่อประสบความสำเร็จในชีวิต

ก. ต้นไม้ที่ให้ความร่มเงา

สื่อถึง ..พ่อ แม่ หรือผู้ใหญ่ที่คุณให้ความนับถือ

ข. บ่อน้ำ

สื่อถึง ..ตัวคุณเอง

ค. ดอกไม้สีสรรต่างๆ

สื่อถึง .. คนรัก

ง. ลานหญ้า

สื่อถึง ..เพื่อนๆ

4. สิ่งที่คุณให้ความสำคัญกับสวนหลัง บ้านนั้น สื่อถึง .. คนที่คุณอยากจะระบายความรู้สึก เมื่อคุณรู้สึกผิดหวังกับชีวิต หรือสิ่งที่คุณทำผิดพลาดลงไป


ก. ต้นไม้ที่ให้ความร่มเงา

สื่อถึง ..พ่อ แม่ หรือผู้ใหญ่ที่คุณให้ความนับถือ

ข. บ่อน้ำ

สื่อถึง ..ตัวคุณเองหรือคุณ หรือคุณอยากอยู่คนเดียวตามลำพัง

ค. ดอกไม้สีสรรต่างๆ

สื่อถึง .. คนรัก

ง. สัตว์เลี้ยง

สื่อถึง... เพื่อนๆ

5. วิวที่คุณอยากเห็นจากห้องนอน สื่อถึง .. อาชีพที่คุณอยากจะทำในอนาคต

ก. เห็นท้องฟ้า

สื่อถึง ..อาชีพที่มีความเป็นอิสระ เป็นตัวของตัวเอง หรือาชีพอะไรก็ได้ที่ใช้ความสามารถพิเศษในตัวคุณ

ข. เห็นทะเล

สื่อถึง อาชีพที่ต้องใช้อารมณ์ จินตนาการ และความสร้างสรรค์งานของคุณ

ค. เห็นต้นไม้หรือสวนสาธารณะ

สื่อถึง .. คุณอยากทำธุรกิจในครัวเรือน มีผู้ร่วมงานหรือหุ้นส่วนเป็นบุคคลในครอบครัว

ง. เห็นอาคารบ้านเรือน

สื่อ ถึง.. คุณอยากมีอาชีพที่ทำงานร่วมกับคนหมู่มาก หรือทำงานเพื่อสังคม

6. ของที่คุณใช้เวลาเลือกซื้อนานที่สุด สื่อถึง .. สิ่งที่คุณเปลี่ยนแปลงได้ยากที่สุด ซึ่งคุณอาจจะรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงในสิ่งนั้นจะทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้น

ก. รองเท้า

สื่อถึง .. นิสัย หรือพฤติกรรมบางอย่างในตัวคุณ

ข. เสื้อผ้า

สื่อถึง ... คนรัก หรือความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิด

ค. หนังสือ

สื่อถึง .. ความคิดของคุณเอง

ง. นาฬิกาข้อมือ

สื่อถึง .. ระเบียบกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่คุณกำหนดไว้ให้ตัวเอง

7. ลักษณะผ้าเช็ดหน้าที่คุณพกติดตัว สื่อถึง.. เรื่องราวในชีวิตที่ทำให้คุณเสียน้ำตา

ก. ผ้าเช็ดหน้าสีสดใส

เรื่องราวเกี่ยวกับเพื่อนๆ ของคุณ บางครั้งเพื่อนๆ อาจจะไม่เข้าใจสิ่งที่คุณคิดหรือทำลงไป จึงทำให้คุณเสียน้ำตากับคำพูดของเพื่อนๆ

ข. ผ้าเช็ดหน้าสีอ่อน

คุณเป็นคนขี้เหงา เวลาต้องอยู่คนเดียว โดยไม่มีคนรัก เพื่อน หรือญาติพี่น้อง จะทำให้รู้สึกว้าเหว่ จนบางครั้งแอบเสียน้ำตาโดยลำพัง

ค. ผ้าเช็ดหน้าลายดอกไม้ หรือลายจุด

คุณมักเสีย น้ำตากับเรื่องความรัก เช่นไม่ประสบความสำเร็จในความรัก หรือสิ่งที่คุณคาดหวังบางอย่างในความรัก แต่มันไม่เป็นไปตามที่คุณคิดไว้

ง. ผ้าเช็ดหน้าลายสก็อต หรือลายเส้น

การเรียนหรือการงานที่คุณมักตั้งความหวังไว้ เมื่อไม่ได้อย่างที่หวัง คุณจึงมักเสียน้ำตากับสิ่งที่เกิดขึ้น

8. สิ่งที่คุณทำเมื่อพบว่าเสื้อที่ซื้อมามี ปัญหา สื่อถึง .. สิ่งที่คุณจะทำเมื่อพบว่า คนที่รักที่คุณคบมาได้ระยะหนึ่งนั้น คุณกับเขาเข้ากันไม่ได้

ก. เอาเสื้อกลับไปเปลี่ยนที่ร้าน

สื่อถึง .. คุณจะไม่ฝืนทนคบอีกต่อไป และหาวิธีที่จะแยกทางกัน

ข. หาวิธีดัดแปลงเสื้อ

สื่อถึง คุณยังคบกับคนรักต่อไป และหาวิธีที่จะแยกทางกัน

ค. คิดว่าช่างมันไหนๆ ก็ซื้อมาแล้ว หรือจะเอาไปให้คนอื่น

สื่อ ถึง.. คุณยังคบกันต่อไปเรื่อยๆ เมื่อถึงเวลาที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพบคนที่ถูกใจมากกว่า คุณก็พร้อมจะจากกันด้วยดี

● ที่ตรงนั้นกับที่ตรงนี้ ●



เพราะสิ่งที่จำ เป็นต่อชีวิตเรามีหลายด้าน
บ่อยครั้งเราเกิดสับสนว่าจะรักษาอะไรไว้
จะ เลือกอะไรดี “ระหว่างชีวิตกับความรัก”
เราไม่จำเป็นต้องเลือก
เพราะ สองอย่างสำคัญเท่ากัน
เพียงแต่…
“ที่ตรงนั้นกับที่ตรงนี้
ต้อง การการดูแลที่แตกต่างกัน”
.

ถ้าเรารู้จักใช้ชีวิต
เราก็จะ รู้วิธีรักษาและดูแลชีวิต
และถ้าเรารู้จักคนรักและความรักอย่างแท้จริง
เรา จะรู้จักวิธีประคับประคอง ดูแลรักษา
ให้ความรักเดินไปพร้อมๆ กับด้านอื่นๆ ได้

แล้วถ้าเราเข้าใจทั้งสองด้านได้มากพอ
เราจะ ไม่รู้สึกเหนื่อยที่ต้องแบกชีวิต
พร้อมกับดูแลความรักให้ดีอยู่เสมอ
เพราะ แท้จริงแล้วทั้งสองสิ่ง
ต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน

“ชีวิตอาจต้องการการทุ่มเท
แต่ความรักต้องการ ความใส่ใจ”

ของคุณข้อมูลจาก http://www.tamdee.net/

ผู้ชายเริ่มจากร้อย ผู้หญิงเริ่มจากศูนย์




เมื่อ ผู้ชายเริ่มรักผู้หญิงของตัวเอง . .

ทุกอย่างที่เป็นเธอ จะดูสวยงามและเพียบพร้อม

ไม่มีอะไรที่เขาไม่ชอบ ไม่พอใจ



วันเวลา ผ่านไป. . .
เมื่อความเคยชินเข้า มาแทนที่ สิ่งที่เห็นอยู่ทุกวัน
อาจกลาย เป็นสิ่งที่น่ารำคาญ
เธอไม่สวยงาม และน่าทะนุถนอมเหมือนแต่ก่อน
ทำไม เวลาจับต้องเธอแล้ว รู้สึกไม่เหมือนเดิม
ทำไมนิสัยไม่ดีของเธอ ถึงได้ผุดขึ้นมามากมายแบบนี้
เขารับเธอไม่ได้อีกต่อไป และทนไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลงของเธอ
ในขณะที่ความรักของผู้หญิงเริ่มต้นจากศูนย์
เขายังมีสิ่งที่เธอ คิดว่าเธอไม่ชอบทุกอย่างของเขา
แต่เมื่อเธอตัดสินใจลองคบหาเพื่อที่จะ ศึกษาสิ่งที่ดีในตัวเขา



วันเวลาผ่านไป . .
ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่สุด บนโลกนี้
คะแนนที่มากมายมันเพิ่มขึ้นมาได้อย่างไร
ถึงขั้นนี้ . . .ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเขา
ช่างดูดีและน่าหลงใหล
จนรู้สึกว่า . . .เขาแทบจะกลายเป็นสิ่งเดียวในชีวิต
ที่ทำให้เธอมีชีวิตอยู่ได้ เธอพร้อมที่จะสละทุกอย่างที่มีอยู่
เพื่อที่จะให้เขาและเธออยู่ด้วยกัน ตลอดไป



วันนี้…ความรักของเธอเกินร้อย
ใน ทางกลับกัน ความรักของเขากลับลดลงจนเหลือศูนย์
ความรู้สึกที่ค้างคาอยู่ ในใจของคนทั้งคู่
เหมือนกันคือ คำถามที่ว่า ทำไม . . .อีกฝ่ายถึงเปลี่ยนไป



หากตัวแปรของความสัมพันธ์ ระหว่างคนสองคน อยู่ที่ความเปลี่ยนแปลงแล้ว
คงเร็วเกินไปที่จะโทษฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง เพียงคนเดียว
เราต้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า คนเรานั้น เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
และนี่คือ สัจธรรมที่แท้จริงบนโลกใบนี้เสียด้วย


ความรักที่เกิดขึ้นง่าย มักจะตายเร็ว




สมัยนี้เจอกันแป๊ปเดียวไฟฟ้าก็ลัด วงจรได้แล้ว และทุกครั้งก็หวังว่ารักนั้นจะอยู่ในนานๆ แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่ความรัก 7 แบบนี้แหงๆ

1. รักทางเน็ต
ก็ คนในเน็ตมีใครเค้าแฉความจริงกันบ้างว่าชีวิตฉันผ่านผ ู้ชายมา 17 คนแล้ว เป็นเกย์ไปซะ 7 ติดเอดส์ไปซะ 3 คลิกไปเถอะเจอแต่รูปหล่อพ่อรวยสวยเหมือนนางงามจักรวาลกันทั้งนั้น ขนาด ภาพยังเอารูปเพื่อนมาลง ไม่ก็เป็นภาพรีทัชลบสิวลบปานดำ เติมปากให้อิ่มทำตาให้โต ทำอ้วนให้ผอม เปลี่ยนทรงผมให้เก๋ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เป็นแฟนทางเน็ตอยู่สามเดือนพอนัดมาเจอตัวจริง แทบวิ่งหนี แล้วจะไม่ให้เลิกได้ไงล่ะ!!

2. รักผัวเขา
ตอน เจอกันใหม่ๆ ใน 100 คนต้องมีซะ 80 ที่ไม่รู้ว่าพี่มีเมียแล้ว แต่ ก็มีเหมือนกันที่รู้ทั้งรู้ แต่ตูจะเอา แรกๆ ก็คิดว่าทนยอมเป็นบ้านที่สองที่สามเค้าได้ แต่พออยู่กันไปจากบ้านเล็กชักอยากกระดึ๊บๆ เข้าไปอยู่บ้านใหญ่ แต่กติดนับเบอร์วันแก่ง่ายตายช้าขวางทางอยู่ แล้วเรื่องอะไรจะไปยอมเสียเวลานับวันรอให้อะไรๆ มันเ่ยวย่นหย่อนยานล่ะ มันเก๊าะต้องเลิกไปคนใหม่น่ะสิ

3. รักเพราะสปอตไลท์
รัก แบบนี้มักเกิดในแหล่งท่องเที่ยวยามราตรี พอโดนสปอตไลท์แสงไฟส่องมา ราศีก็จับให้กลายเป็นหนุ่มหล่อสาวสวยดัชชี่บอยแอนด์เกิร์ลกันได้ทุกคน ไฟฟ้า เลยลัดวงจรง่าย ยักย้ายส่ายสะโพกไม่กี่เพลงน้องก็โอเค รับรักพี่แล้ว แต่พอรุ่งขึ้นเจอกันแบบแสงธรรมชาติ หน้าที่เคยสวยใสทำไมมันดันมีแต่รอยกระด่างกระดำ สิว ฝ้า กระ ครบเซ็ตหว่า นี่เธอเป็นผีปอบโดนแดดแล้วไหม้หรือเปล่าเนี่ย อยู่ไม่ได้แล้วโดยก่อนล่ะเรา

4. รักเพราะเหงา

ประมาณ หัวใจติดป้ายให้เช่าจะชาติหนึ่งแล้ว ก็ ยังไม่มีใครยอมหลงกลมาขอเช่าห้องซะที อารมณ์คุณตอนนี้ก็เลยออกแนวเดอะเลตเตอร์ คือเซ็ง เศร้า เหงา หงอย ทีนี้ล่ะพอมีใครผ่านมาแม่คว้าเรียบ ขอให้เป็นเพศตรงข้ามเป็นพอ แต่พบคบกันไปความเหงาหายไปหูตาก็พลอยสว่าง ถึงได้เห็นว่าไอ้ที่เอามาเป็นแฟนเนี่ยมันไม่ใช่สเป็ค เรานี่นา เลยต้องคอนเวิร์สตัวใครตัวมันด้วยประการฉะนี้

5. รักที่เงิน
ประมาณ หน้าตาไม่เท่าไรขอกระเป๋าตุงไว้ก่อนละกัน ในข้อนี้ส่วนใหญ่ฝ่ายมีตังค์จะหน้าตาพอดูได้ (ถ้าปิดไฟ) ส่วน แฟนจะสวยล้ำหล่อเลิศแบบฟ้าประทานลงมาเลย แล้วหน้าตาไม่แมทช์กันขนาดนี้จะอยู่กันเข้าไปได้ไงถ้ าไม่เป็นเพราะมีกาวตรา ช้างที่ใช้หนี้ได้ตามกฏหมายเชื่อมอยู่ ความรักแบบนี้จะหมดอายุได้ในสองกรณี หนึ่ง คือฝ่ายมีตังค์เกิดไม่สบาย เป็นโรคขี้เบื่อ ทนเห็นอะไรซ้ำซากไม่ได้ ไม่ก็ในกรณีที่สอง หนุ่มหล่อสาวสวยเอาแฟนตัวจริงมาควงแก้เซ็งแล้วโดนจับ ได้ ถ้าไม่งั้นนิยายรักฉบับสตรอว์เบอแหลนี้ก็จะดำเนินต่อ ไป

6. รักแบบชู้ๆ

แต่ สมัยนี้เค้าไม่เรียกว่าชู้แล้ว ต้องเรียกว่ากิ๊กจะได้ฟังดูไม่หลายใจไม่เจ้าชู้ เพราะเราไม่ได้มีชู้มีแค่กิ๊กเท่านั้นเอง ซึ่ง กฏบังคับของกิ๊กก็มีอยู่แล้วว่า ห้ามผูกพัน ห้ามตื้อ ห้ามยื้อ ห้ามทำตัวเป็นเจ้าของ และกิ๊กไม่ใช่ชู้แต่แฟนรู้ต้องเลิก ฉะนั้นรักแบบกิ๊กๆ จึงเป็นรักที่ไปเร็วที่สุด แบบว่าแฟนเดินเฉียดมาในระยะ 100 เมตร กิ๊กก็ไปซะแล้ว เหลือแต่คนแปลกหน้าตาใสซื่อ 2 คนเท่านั้นเอง

7. รักโปรโมท

ข้อ นี้แต่ก่อนจำกัดอยู่ในวงการบันเทิง ประมาณช่วงหนังจะเข้าละครจะฉาย ก็ เอาแล้วต้องมีใครรักใครขึ้นมาทันที ทั้งๆ ที่แต่ก่อนเดินสวนกันทุกวันยังไม่รู้เลยว่าไอ้นี่มัน ใคร และพอละครจบรักก็จบ แต่เดี๋ยวนี้กระแสรักโปรโมทกระจายไปทุกหย่อมหญ้า โดยมากมักจะเป็นในหมู่คนกินแห้ว แอบรักเขาๆ ไม่สน งั้นเอาเพื่อนมาแกล้งทำเป็นอินเลิฟหน่อยซิ เผื่อจะโกงค่าตัวให้หมอนั่นเห็นคุณค่าขึ้นมาบ้าง แต่พอได้แฟนแล้วก็ไสหัวเพื่อนกลับไปเดินสะดิ้งตุ้งติ ้งคนเดียวเหมือนเดิม

fw mail

ก่อนตะวันรุ่งวันพรุ่งนี้




แสงตะวัน ค่อยๆ ลับขอบฟ้า เมื่อค่ำคืนมาถึง ทั้งเมืองก็สว่างไสวไปด้วยแสงจากพลังงานไฟฟ้า..

เป็นที่รู้กันดีว่า ยิ่งนับวันมนุษย์ยิ่งใช้พลังงานมากขึ้นตามความเจริญก้าวหน้าของโลก พลังงานไฟฟ้าเกือบทั้งหมดในปัจจุบันผลิต ขึ้นจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ทั้งถ่านหิน น้ำมัน หรือก๊าซธรรมชาติ ซึ่งล้วนแต่เป็นพลังงานที่ใช้แล้วหมดไปและยังมีราคาสูง เห็นได้จากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นทุกๆ ปี ทำให้ทุกวันนี้มีกระแสรณรงค์เรื่องการประหยัดพลังงานมากขึ้น เพื่ออนุรักษ์ไม่ให้พลังงานเหล่านี้หมดไปจากโลก ก่อนเวลาอันควร

นอกจากการอนุรักษ์พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลด้วยการใช้อย่างประหยัดแล้ว ทั่วโลกยังหันมาจับตามองแหล่งพลังงานทดแทนจากธรรมชาติ ซึ่งถือว่าเป็นพลังงานสะอาดไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมและใช้ไม่มีวันหมด โดยเฉพาะพลังงานจากแสงอาทิตย์ที่ถือว่าเป็นขุมพลังงานขนาดใหญ่ที่สุดแห่ง หนึ่ง

หากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพอย่างชัดเจนว่า แสงอาทิตย์มีพลังงานมากมายมหาศาลเพียงใด ลองนึกถึงแสงแดดที่ส่งลงมาบนพื้นขนาด 1 ตารางเมตรในช่วงเที่ยงวัน จะมีพลังงานเท่ากับพลังงานไฟฟ้าที่ใช้สำหรับเตารีด 1 ตัวและพลังงานแสงแดดที่สะสมในพื้นที่ 1 ตรม. ใน 1 วันเทียบเท่ากับไฟฟ้าที่ใช้ตามบ้าน 5 ยูนิต หรือคิดเป็นประมาณ 150 ยูนิต ต่อเดือน (ประมาณ 500 บาทต่อเดือน) เท่ากับว่าบ้านหลังนั้นใช้ไฟฟ้าเทียบเท่ากับพลังงานแสงแดดเพียง 1 ตารางเมตรเท่านั้นเอง เมื่อมนุษย์เห็นถึงศักยภาพของพลังงานแสงอาทิตย์เช่นนี้ จึงมีการคิดค้นวิธีการที่จะนำพลังงานเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งอุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อแปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าก็คือ โซลาร์เซลล์ (Solar Cells) โดยในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีของโซลาร์เซลล์ก็ได้รับการพัฒนาให้ก้าวหน้าและมีราคาถูกลง สำหรับประเทศไทยเราอยู่ในเขตร้อน ทำให้เรา ได้รับพลังงานจากแสงอาทิตย์เป็นจำนวนมาก แต่ที่ผ่านมายังไม่ได้ใช้ประโยชน์จากพลังงานนี้อย่างเต็มที่เท่าไรนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะต้นทุนของอุปกรณ์โซลาร์เซลล์ยังมีราคาแพงอยู่ จึงทำให้ต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าสูง จนหลายคนมองว่ายังไม่คุ้มกับการลงทุน แต่ ณ วันนี้ที่เราต้องเผชิญกับภาวะน้ำมันแพงและสูญเสียเงินไปกับการนำเข้าน้ำมัน จำนวนมากในแต่ละปี จึงเป็นเรื่องที่คนไทยน่าจะหันมามองพลังงานทดแทนจากธรรมชาติให้มากขึ้นเพราะ ความเป็นจริง ประเทศไทยนับเป็นประเทศหนึ่งในภูมิภาคอาเซียนที่เริ่มบุกเบิกการผลิตไฟฟ้า จากแสงอาทิตย์โดยเฉพาะในพื้นที่ที่สายส่งไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เข้าไปไม่ถึงซึ่งในปี 2536 กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ได้เริ่มติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยแสงอาทิตย์ให้กับพื้นที่ห่างไกลและสามารถ นำพลังงานจากโซลาร์เซลล์มาใช้สำหรับดูทีวีและให้แสงสว่างได้ รวมถึงได้นำแผงโซลาร์เซลล์ไปติดตั้งให้กับโรงเรียน สถานอนามัยหมู่บ้าน หน่วยพิทักษ์ป่า ฐาน ตชด. ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง ซึ่ง ก็สามารถนำไฟฟ้าที่ผลิตได้มาใช้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ หลอดไฟนีออน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้เป็นอย่างดี อาจเรียกได้ว่า เทคโนโลยีของระบบนั้นพร้อมแล้ว แต่รอแค่ให้ราคาของโซลาร์เซลล์ถูกลงเท่านั้น




นอกจากปัญหาในเรื่องของเทคโนโลยีโซลาร์เซลล์ที่ยังมีราคาแพงอยู่ประเทศไทย ยังมีอุปสรรคสำคัญ คือ คนไทยไม่ค่อยให้ความสนใจ หรือสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนเท่าไหร่ ส่วนหนึ่งเพราะยังคิดว่าสามารถหาแหล่งพลังงายจากต่างประเทศได้ แต่สิ่งนี้จะทำให้ประเทศไม่มีความมั่นคงทางพลังงานในระยะยาวเลย แต่การสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้ประเทศโดยไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าหรือหา แหล่งพลังงานใหม่ๆ ตลอดเวลา ก็คือการนำสิ่งที่มีอยู่และได้มาฟรีๆ อย่างพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ หรือพลังงานลม มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงของเทคโนโลยีโซลาร์เซลล์ในประเทศไทยแนะนำว่า การจะพัฒนาเทคโนโลยีนี้ให้ก้าวหน้าได้ ต้อง มีการพัฒนาการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึง ปลายน้ำ ต้นน้ำ คือ การผลิตวัสดุสำหรับทำโซลาร์เซลล์ ที่เรียกว่า EVA หรือโพลีเมอร์กันความชื้นจากภายนอก ซึ่งปัจจุบัน สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวท.) ได้พัฒนาร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ส่วนเครื่องจักรที่ใช้สำหรับผลิตโซลาร์เซลล์นั้น ประเทศไทยยังไม่สามารถผลิตได้เอง แต่ก็มีแผนที่จะพัฒนาขึ้นเองเพื่อทำให้ต้นทุนการผลิตถูกลง

สำหรับกลางน้ำเป็นเรื่องของการพัฒนาประสิทธิภาพของโซลาร์เซลล์ ซึ่งที่ใช้กันอยู่ปัจจุบันมีอยู่ 2 แบบ คือ แบบหนาที่ต้องใช้ซิลิคอนจำนวนมาก และแบบบางที่ใช้ซิลิคอนน้อย การพัฒนาให้มีการใช้แบบบางก็จะช่วยประหยัดต้นทุน แต่ต้องทำให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุดด้วย ส่วนปลายน้ำเป็นการใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่พัฒนาขึ้นมา เช่น การผลิตไฟฟ้าน้ำร้อน หลังคาโซลาร์เซลล์ ระบบผลิตไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ เป็นต้น

แม้ว่าพลังงานแสงอาทิตย์จะสามารถนำมาใช้ผลิตไฟฟ้า และลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในการผลิตไฟฟ้าได้มากก็ตาม แต่ปัญหาในปัจจุบันคือต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ยังคงสูงอ ยู่ โดยมีต้นทุนการผลิตสูงกว่าการผลิตไฟฟ้า แบบเดิมกว่าเท่าตัว ดังนั้นหากทำให้ค่าไฟที่ได้จากพลังงานแสงอาทิตย์มีราคาเท่ากับค่าไฟฟ้าใน ปัจจุบัน และถ้าเราสามารถผลิตเครื่องจักรเพื่อผลิตวัสดุอุปกรณ์ได้สำเร็จก็จะสามารถนำ พลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด กระทรวงพลังงานเองก็มีแนวทางการส่งเสริมการใช้โซลาร์เซลล์ของไทยในปัจจุบัน โดยได้วางเป้าหมายส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนปี 2551-2554 ให้ได้ 10.8% ของการใช้พลังงานทั้งหมดและกำหนดแผนพัฒนาแสงอาทิตย์เพื่อผลิตไฟฟ้าให้ได้ 45 เมะวัตต์ ผ่านมาตรการส่งเสริมการลงทุน โดยยกเว้นภาษีนำเข้าวัตถุดิบสำหรับผลิตแผงโซลาร์เซลล์เพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า จากพลังงานหมุนเวียน รวมทั้งการสนับสนุนให้เกิดโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งโรงไฟฟ้าพลังงานแสง อาทิตย์ขนาด 1 เมกะวัตต์ มีมูลค่าการลงทุน ประมาณ 110 ล้านบาท ใช้แผงโซลาร์เซลล์ขนาด 50 วัตต์ จำนวน 20,000 แผง บนพื้นที่ประมาณ 25 ไร่ การจะสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จึงต้องหาพื้นที่ประมาณ 25 ไร่ การจะสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จึงต้องหาพื้นที่ที่เหมาะสม คือ ควรเป็นพื้นที่ที่ได้รับแสงอาทิตย์ ประมาณ 1,800-1,900 ชั่วโมงต่อปี ปัจจุบันประเทศไทยมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แล้วในหลายจังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา อุดรธานี ลพบุรี อ่างทอง เพชรบุรี และนครสวรรค์ ปัจจุบันมีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้ประมาณ 26.4 เมกะวัตต์





จริงๆแล้วกรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ที่ให้พลังงานแสงอาทิตย์สูงสุดถึง 5.5 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงต่อตารางเมตร แต่พื้นที่ในกรุงเทพฯ ค่อนข้างแคบและมีราคาแพง จึงเป็นเรื่องน่าเสียดาย แต่ถ้าหากมีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องแล้ว ในอนาคต คนกรุงเทพฯ ก็อาจจะได้ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์มากขึ้นซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ที่มีการใช้พลังงานมากที่สุดในประเทศ หันมาดูประเทศที่ให้ความสำคัญกับพลังงานทดแทนมากที่สุดในโลก นั่นคือ ประเทศญี่ปุ่น ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์มากที่สุดประมาณ 46% ของปริมาณการผลิตทั่วโลกที่ 1,656 เมกะวัตต์ รองลงมา คือ ประเทศในแถบยุโรป สัดส่วนการผลิต 28% อันดับที่ 3 คือ สหรัฐอเมริกา สัดส่วนการผลิต 10% และประเทศอื่นๆ มีการผลิตประมาณ 16%

สำหรับประเทศไทยมีแสงอาทิตย์มากกว่าประเทศ ญี่ปุ่น 1.5% แต่ญี่ปุ่นมีการใช้พลังงานแสงอาทิตย์มากกว่าประเทศไทยถึง 100 เท่า นี่แสดงให้เห็นว่า ญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานทดแทนมากแค่ไหน ในขณะที่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่เห็นความสำคัญของการนำพลังงานทดแทนเหล่านี้มา ใช้ประโยชน์อย่างจริงจัง

ในภาวะราคาน้ำมันแพง รวมทั้งภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน จึงไม่ใช่เรื่องที่จะชะล่าใจกันต่อไปได้อีกว่า เรายังมีพลังงานใช้อย่างฟุ่มเฟือยหากทำให้คนไทยตระหนักว่า พลังงานทดแทนมีความสำคัญมากแค่ไหน และการใช้พลังงานธรรมชาติเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันเราก็จะมีพลังงานใช้ ได้อย่างไม่มีวันหมด โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นพลังงานสะอาดที่ไม่มีเสียง ไม่มีกลิ่น และไม่สร้างมลพิษ และยังเป็นพลังงานที่จะยังอยู่กับเราไปอีกกว่า 4,000 ล้านปี ถ้าเทคโนโลยีโซลาร์เซลล์ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมีประสิทธิภาพสูง ขึ้นมาก ปัญหาเรื่องพลังงานคงจะหมดไปจากประเทศไทยหรือโลกใบนี้
ก่อนตะวันจะโผล่พ้นขอบฟ้าในวันพรุ่งนี้ เรายังมีความฝันที่จะเห็นแสงสว่างจากพลังงานของดวงอาทิตย์ในยามค่ำคืน..ทั้ง คืนนี้และคืนต่อๆไป


ขอบคุณข้อมูลภายใต้ความร่วมมือของ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และ วิชาการ.คอม
โดย วารสาร happiness

มา "จับคู่ สุขภาพดี" กันดีกว่า



อาหารหลายประเภทมีประโยชน์ต่อ ร่างกาย แต่หากสามารถรับประทานกับอาหารที่ส่งเสริมกันจะยิ่งส่งผลดีต่อสุขภาพมากขึ้น ไปอีก


มาดูกัน ว่า อาหารคู่ใดบ้างที่ดีต่อสุขภาพ



ไข่ + น้ำส้ม

หลายคนอาจรับประทานอาหารเช้าคู่นี้โดยไม่ รู้ว่าเป็นอาหารที่ส่งเสริมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ไม่ชอบรับประทานเนื้อสัตว์หรือเป็นมังสวิรัติ ซึ่งอาจจะไม่ได้รับธาตุเหล็กมากเท่าที่ร่างกายต้องการ แม้ว่า ผัก ถั่ว และไข่ จะเป็นอาหารที่มีธาตุเหล็กซึ่งจำเป็นต่อการเสริมสร้างเม็ดเลือด แต่ร่างกายดูดซึมเหล็กจากอาหารเหล่านี้ไปใช้ได้เพียง 2-20 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กจากเนื้อสัตว์ได้ง่ายกว่า การรับประทานอาหารที่วิตามินซีสูง เช่น น้ำส้ม จะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็กจากไข่ ผัก และถั่วได้มากขึ้นถึง 6 เท่า ซึ่งมากพอจะช่วยให้ร่างกายไม่รู้สึกอ่อนเพลียเพราะโลหิตจางได้


ขมิ้น + พริกไทยดำ


แกงกะหรี่ ได้ชื่อว่าเป็น อาหารเพื่อสุขภาพที่คนอินเดียคุ้นเคยกันดี เพราะส่วนผสมหลักคือผงขมิ้นมีประโยชน์ต่อร่างกาย ผลการวิจัยชิ้นล่าสุดพบว่า ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ที่รับประทานเคอร์คูมินวันละ 1 กรัม ช่วยให้เซลล์สมองถูกทำลายน้ำลง อย่างไรก็ตามร่างกายดูดซึมสารเคอร์คูมินไปใช้งานได้น้อยมาก แต่ถ้ารับประทานพริกไทยดำไปพร้อมกันด้วยจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารเคอร์คูมิ นมากขึ้นถึง 2,000 เท่า


Hamburger + นม


อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น แฮมเบอร์เกอร์ เนื้อติดมัน หมูติดมัน ฯลฯ นับเป็นศัตรูตัวร้ายของสุขภาพ แต่บางครั้งบางคราวหลายคนก็อดใจไม่ได้ หรือบางทีก็จำเป็นต้องรับประทานเพราะความเร่งรีบ หากอยากลดผลกระทบจากไขมันอิ่มตัวเหล่านี้ลงบ้าง ผลการวิจัยแนะนำให้รับประทานเครื่องดื่มหรือของหวานที่มีแคลเซี่ยมสูง เช่น นมไร้ไขมัน นมถั่วเหลือง 1 แก้ว จะช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายดูดซึมไขมันอิ่มตัวเหล่านี้


ชาเขียว + มะนาว


ผล การวิจัยจากประเทศญี่ปุ่นซึ่งติดตามศึกษา ผู้หญิงและผู้ชายจำนวนมากกว่า 40,500 คน พบว่า ผู้ที่ดื่มชาเขียววันละ 5 แก้ว ขึ้นไปเป็นประจำทุกวัน เสี่ยงต่อการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมองน้อยที่สุด แต่ที่น่าเสียดายคือ ระบบย่อยอาหารที่ทำให้สารต้านอนุมูลอิสระในชาเหลือไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณที่มีในชาก่อนดื่ม แต่ถ้าผู้ดื่มชาเขียวเติมน้ำมะนาวหรือน้ำส้มลงไปในชาเขียวเพียงเล็กน้อย วิตามินซีในน้ำมะนาวหรือน้ำส้มจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมอนุมูลอิสระได้ดีขึ้น 13 เท่า ซึ่งทำให้การดื่มชาเขียวเพียงวันละ 1-2 แก้ว ก็ช่วยป้องกันโรคร้ายดังกล่าวอย่าได้ผลแล้ว






ที่มา : นิตยสาร แพรว

วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Nokia C7 สาวกโซเชียลลิสต้า ไม่ควรพลาด

Nokia เร่งเครื่องเต็มสูบด้วยการประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ แชทสนุกอีเมลกระหน่ำ อัปเดททุกเวลา สีสันสดใสให้เลือกมากมาย นั่นคือ Nokia C7 สมาร์ทโฟนที่เน้นฟังก์ชันการใช้งาน Social Network และทำงานด้วยระบบปฏิบัติการคู่ขวัญ Symbian เช่นเดียวกับ Nokia N8 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา

"Nokia C7" เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่าง กระจกและสเตนเลสเคลือบเงา ในสมาร์ทโฟนหน้าจอระบบสัมผัส ที่มีขนาดบางเบา กล้อง 8 ล้านพิกเซล ROM 1GB และหน่วยความจำ RAM 256MB หน่วยความจำภายใน 8GB โดยสามารถฟีดข้อมูลจาก Facebook และ Twitter ขึ้นมาที่หน้า Home screen ได้โดยตรง มันยังสามารถเข้าถึงอีเมล์ ตลอดจนแอพพลิเคชันต่างๆ รวมถึงเกมส์ได้ด้วยการกดปุ่มเพียงครั้งเดียว และบริการต่างๆ ใน Ovi Store ของ Nokia

คุณสมบัติพื้นฐาน ของตัวเครื่อง Nokia C7
ดีไซน์สวยดุจงานฝีมือ

  • ดีไซน์ล้ำสมัยด้วยวัสดุสเตนเลสขัดเงาและกระจก
  • ดูวิดีโอและภาพได้คมชัดด้วยหน้าจอความละเอียดสูง สีสันสดใสขนาด 3.5"
  • หน้าจอหลักสามหน้าจอที่สามารถปรับเปลี่ยนรายชื่อติดต่อ แอป และอื่นๆ ให้เป็นแบบเฉพาะของคุณเอง
  • การวางนิ้วในรูปแบบต่างๆ บนหน้าจอ เช่น การจีบนิ้วเพื่อซูมภาพ ตวัดนิ้วเพื่อเลื่อนหน้าจอ และแตะเบาๆ เพื่อเลือก
  • ดูแอปที่กำลังเปิดใช้งานทั้งหมด แล้วแตะเบาๆ บนหน้าจอเพื่อสลับแอปที่เปิดอยู่ได้ง่าย

เครือข่ายสังคมที่มาพร้อมในตัว

  • รับทุกการอัพเดททันทีจาก Facebook และ Twitter โดยตรงบนหน้าจอหลักของคุณ
  • อัพเดทสถานะของคุณในทุกเครือข่ายสังคมได้พร้อมกัน
  • เพิ่มกิจกรรม Social events ในปฏิทินของคุณได้ง่าย เพียงแค่คลิกเดียว
  • แบ่งปันตำแหน่งของคุณผ่าน Facebook แล้วพบกับเพื่อนๆ ที่อยู่ใกล้
  • โพสต์ความคิดเห็นและภาพถ่ายจากหน้าจอหลักได้โดยตรง

แอปและอื่นๆ อีกมากมายจาก Ovi Store

  • มีแอปให้เลือกนับพัน รวมถึง Sports Tracker และ Here and now
  • มีแอปใหม่เพิ่มใน Ovi Store อย่างต่อเนื่อง
  • และมีหลายรายการที่โหลดได้ฟรี
  • ลองเล่นเกมส์ใหม่ๆ แล้วซื้อเกมส์ที่คุณชอบ
  • มีวอลเปเปอร์และธีมให้เลือกมากมาย
  • ตอบสนองทุกสไตล์และความชอบ
  • ดาวน์โหลดพอดคาสต์ ทั้งข่าว กีฬา บันเทิงและอื่นๆ อีกมากมาย
  • เยี่ยมชม Ovi Store

แผนที่พร้อมระบบนำทางด้วย GPS ฟรี

  • ค้นหาเส้นทางที่ดีที่สุด แล้วไปยังจุดหมายของคุณ ได้ตรงเวลาด้วย Ovi Maps
  • รับระบบนำทางฟรีตลอดชีพ พร้อมคำแนะนำด้วย เสียงแบบเลี้ยวต่อเลี้ยว
  • บันทึกคำแนะนำให้เป็นเสียงของคุณเองด้วย Own Voice แล้วแบ่งปันบน Facebook
  • ค้นหาภัตตาคาร สถานที่สำคัญ และจุดที่น่าสนใจอื่นๆ ที่อยู่ใกล้
  • ใช้ชุดหูฟังไร้สาย Bluetooth Headset BH-217 เพื่อรับฟังระบบนำทางด้วยเสียงได้ชัดเจนขณะเดินทาง

ความบันเทิงบนมือถือที่ยอดเยี่ยม

  • ถ่ายภาพและวิดีโอความละเอียดสูงด้วยกล้องดิจิตอล 8 ล้านพิกเซล
  • ชม National Geographic, CNN, BBC และช่องรายการอื่นๆ อีกมากมายด้วย Web TV
  • ฟังเพลงจากระบบสเตอริโอในรถยนต์ด้วยภาคส่งสัญญาณ FM ในตัว
  • พลิกดูหน้าปกอัลบั้มและสร้างรายการเล่นเพลงโปรดของคุณ
  • เล่นเพลงให้ดังกระหึ่มด้วยลำโพงชนิดพกพา MD-9 ที่ทรงพลัง

ขุมพลังจาก Symbianˆ3

  • เพลิดเพลินกับคุณสมบัติมากกว่า 250 รายการจากระบบปฏิบัติการ Symbianˆ3
  • รับแต่งโทรศัพท์ของคุณเองได้มากกว่าที่เคย
  • ระบบสัมผัสหน้าจอที่ใช้งานง่ายขึ้น
  • ใช้งานแอปได้พร้อมกันโดยไม่สิ้นเปลืองแบตเตอรี่
  • พัฒนาแอปของคุณเองได้ง่ายขึ้น

เป็นไงกันบ้าง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลด้านบนของ "Nokia C7" ที่ทางทีมงานนำมาฝากเหล่าสาวกโซเชียลลิสต้าคงเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจใคร หลาย ๆ คนเก็บเงินรอกันได้เลย

เรียบเรียงข้อมูลโดยทีมงาน : hitech
ขอบ คุณภาพประกอบจาก : gsmarena.com, Nokia

มีไปทำไม...~





























+++ Hamster +++

+++ Playlist +++


MusicPlaylistRingtones
Create a playlist at MixPod.com

+++ coming soon +++