วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2553

10 วิธีการกินอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี


ในแต่ละวันเราจำเป็นต้องรับประทานอาหารมากมาย มีคำแนะนำจากหลายสำนักให้กินนั่น ห้ามกินนี่จนไม่รู้จะเชื่อใครดี วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับง่ายๆ ของการกินให้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพอย่างเต็มที่มาฝาก

1. กินอาหารเช้า

เป็นพฤติกรรมพื้น ฐานที่ส่งผลต่อจิตใจ และพลังชีวิตของคุณไปตลอดทั้งวัน และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ช่วยเผาผลาญพลังงานให้ดีขึ้น ทำให้คุณกินอาหารในมื้ออื่นๆ น้อยลง


2. เปลี่ยนน้ำมันที่ใช้ปรุงอาหาร

ยอมจ่ายแพงสักนิดใช้น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันดอกทานตะวัน ปรุงอาหารแทนน้ำมันแบบเดิมที่เคยใช้ เพราะเป็นไขมันที่ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย และมีกรดไขมันอิ่มตัวที่เป็นประโยชน์ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือดได้เป็นอย่างดี


3. ดื่มน้ำให้มากขึ้น

คนเราควรดื่ม น้ำวันละ 2 ลิตรเป็นอย่างน้อย (ยกเว้นในรายที่ไตทำงานผิดปกติ) เพื่อหล่อเลี้ยงเซลล์ในร่างกาย ฟื้นฟูระบบขับถ่าย รักษาระดับความเข้มข้นของเลือด จะทำให้สดชื่นตลอดวันเลยทีเดียว


4. เสริมสร้างแคลเซียมให้กับกระดูก

ด้วยการดื่มนม กินปลาตัวเล็กทั้งตัวทั้งก้าง เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ผักใบเขียว เพราะแคลเซียมเป็นสิ่งจำเป็นที่จะเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อและ กระดูก ทำให้ระบบประสาททำงานได้เต็มประสิทธิภาพ


5. บอกลาขนมและของกินจุบจิบ

ตัดของ โปรดประเภทโดนัท คุกกี้ เค้กหน้าครีมหนานุ่ม ออกจากชีวิตบ้าง แล้วหันมากินผลไม้เป็นของว่างแทน วิตามิน และกากใยในผลไม้ มีประโยชน์กว่าไขมัน และน้ำตาลจากขนมหวานเป็นไหนๆ



6. สร้าง ความคุ้นเคยกับการกินธัญพืชและข้าวกล้อง

เมล็ดทานตะวัน ข้าวฟ่างและลูกเดือย รวมทั้งข้าวกล้องที่เคยคิดว่าเป็นอาหารนก ได้มีการศึกษาและค้นคว้าแล้ว พบว่า ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจถึง 1 ใน 3 เลยทีเดียว เพราะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ ที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และควบคุมน้ำตาลในเลือดให้สมดุล

7. จัดน้ำ ชาให้ตัวเอง

ทั้ง ชาดำ ชาเขียว ชาอู่ล่ง หรือเอิร์ลเกรย์ ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ การดื่มชาวันละ 1 ถึง 3 แก้ว ช่วยลดอัตราเสี่ยงมะเร็งกระเพาะอาหารถึง 30%



8. กินให้ครบทุกสิ่งที่ธรรมชาติมี

คุณต้องพยายามรับประทานผักผลไม้ต่างๆ ให้หลากสี เป็นต้นว่า สีแดงมะเขือเทศ สีม่วงองุ่น สีเขียวบล็อกเคอรี สีส้มแครอท อย่ายึดติดอยู่กับการกินอะไรเพียงอย่างเดียว เพราะพืชต่างสีกัน มีสารอาหารต่างชนิดกัน แถมยังเป็นการเพิ่มสีสันการกินให้กับคุณด้วย


9. เปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนรักปลา

การ กินปลาอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง ได้ทั้งความฉลาดและแข็งแรง เพราะปลามีกรดไขมันโอเมก้า 3 และโปรตีน ที่ช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ และบำรุงเซลล์สมอง ทั้งยังมีไขมันน้อย อร่อย ย่อยง่าย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหุ่นเพรียวลมเป็นที่สุด

10. กินถั่วให้เป็นนิสัย

ทำ ให้ถั่วเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่คุณต้องกินทุกวัน วันละสัก 2 ช้อน ไม่ว่าจะเป็นของหวานของคาว หรือว่าของว่างก็ทั้งโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุสำคัญๆ หลายชนิด ต่างพากันไปชุมนุมอยู่ในถั่วเหล่านี้ ควรกินถั่วอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรกินครั้งละมากๆ เพราะมีแคลอรี่สูง อาจทำให้อ้วนได้

ถ้าปฏิบัติให้ได้ครบ ทุกข้อตามคำแนะนำข้างต้นนี้จนเป็นนิสัย สุขภาพดีๆ จะไปไหนเสีย !!

สุขภาพร่างกายแข็งแรงกับธาตุทั้งสี่


ธาตุ ดิน

เปรียบดั่งความห่วงใย สีประจำธาตุคือสีน้ำตาล คนธาตุดินมักจะมีร่างกายและกล้ามเนื้อแข็งแรง สูงใหญ่ ผิวค่อนข้างคล้ำ เสียงดังฟังชัด เป็นคนหนักแน่น รักการประนีประนอม สดใส ดูท่าทางขี้โกงแต่จิตใจดี

ควรรับ ประทานผักและผลไม้ที่มี

รส ฝาด รสหวาน รสมัน รสเค็ม เช่น ฝรั่งดิบ หัวปลี กล้วย มะละกอ เผือก มัน ถั่วพู กะหล่ำปลี ผักกระเฉด มะม่วง มังคุด เงาะ ลำไย น้ำเต้าหู้ น้ำแตงโม ขนมจีนน้ำพริกเป็นต้น


ธาตุน้ำ


เปรียบดั่งกำลังใจ สีประจำธาตุคือสีฟ้า คนธาตุน้ำมักมีรูปร่างสมส่วน ท้วมถึงอ้วน ผิวพรรณสดใส มีความนุ่มนวลในตัวเองหากนำมาใช้ถูกทาง สิ่งใดหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง เชื่องช้าในบางครั้ง

ควรรับประทาน ผัก และผลไม้ที่มี

รสเปรี้ยว เช่น ก๋วยเตี๋ยว มะเขือเทศ ส้มโอ สับปะรด มะนาว ส้มเขียวหวาน ยอดมะขามอ่อนเป็นต้น



ธาตุ ลม

เปรียบดั่งความคิดถึง สีประจำธาตุคือสีเขียว ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เกิดราศีตุลย์ คนธาตุลมมักมีรูปร่างโปร่งไม่อ้วน ผิวหนังแห้ง

ควรรับประทานผักผลไม้ น้ำผลไม้ที่มี

รสเผ็ดร้อน ระบบการเผาผลาญทำงานเร็วผิดปกติเช่น กะเพราแดง โหระพา น้ำตะไคร้ ข่า กระเทียม ขึ้นฉาย น้ำขิง ยี่หร่าเป็นต้น


ธาตุไฟ

เปรียบดั่งความรัก สีประจำธาตุคือสีชมพูและสีม่วง คนธาตุไฟมักมีรูปร่างผอม ผิวคล้ำ ตกกระ กล้ามเนื้อกระดูกหลวม ร่าเริงสนุกสนาน คุยเก่ง สุภาพ อ่อนโยน แต่ควรที่จะระวังคำพูดในบางครั้ง


ควร รับประทานผัก และผลไม้ที่มี

รส ขม รสหอมเย็น รสจืด เช่น สะเดา แตงโม น้ำผักตำลึง น้ำว่านหางจระเข้ น้ำหัวผักกาด ฟักเขียว น้ำแตงกวา คะน้า บวบ มะเขือต่างๆเป็นต้น

พลังบำบัดแห่งว่านหางจระเข้


นี่คือพืชอัศจรรย์ที่มีสรรพคุณในการรักษาบาดแผล ปวดท้องอาหารไม่ย่อย และล้างพิษ ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้มากมายวางขายตาม ท้องตลาด ว่าแล้วเรามาทำความรู้จักกับพืชชนิดนี้กันดีกว่า

ว่าน หางจระเข้เป็นพืชที่มีสรรพคุณในการบำบัด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีชนิดหนึ่ง ถูกยุงกัดก็ใช้เจลว่านหางจระเข้ทาบริเวณที่ถูกกัด ปวดท้องอาหารไม่ย่อย ดื่มน้ำว่านหางจระเข้ช่วยบรรเทาอาการปวดกระเพาะ"เรา พบว่าว่านหางจระเข้มีสรรพคุณในการรักษาโรคมากมาย ด้วยเหตุที่ว่านหางจระเข้ถูกใช้เป็นส่วนผสมในยาสีฟันไปจนถึงกระดาษชำระ จึงทำให้หลายคนสับสน" เพนนี ไวเนอร์ประธานสมาคมผู้ผลิตอาหารเพื่อสุขภาพ (Health Food Manufacturers Associaton-HFMA) กล่าว
"เรา ได้กำหนดมาตรฐานของว่านหางจระเข้ที่ใช้ในแวดวงอุตสาหกรรมเป็นครั้งแรกใน ประเทศอังกฤษ วัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้บริโภครู้จักวิธีเลือกซื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพ"

ว่านหางจระเข้เป็นต้นพืชที่มีเนื้ออิ่มอวบ มีแหล่งกำเนิดดั้งเดิมอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบริเวณตอน ใต้ของทวีปแอฟริกา พันธุ์ของว่านหางจระเข้มีมากมายกว่า 300 ชนิด ซึ่งมีทั้งพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่มากจนไปถึงพันธุ์ที่มีขนาดเล็กแค่ 10 เซนติเมตร ลักษณะพิเศษของว่านหางจระเข้คือ มีใบแหลมคล้ายกับเข็ม เนื้อหนา และเนื้อในมีน้ำเมือกเหนียว ว่านหางจระเข้ผลิดอกในช่วงฤดูหนาว ดอกจะมีสีต่างๆ กัน เช่น เหลือง ขาว และแดง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับพันธุ์

ต้น ว่านหางจระเข้ที่จะนำมาใช้ ควรเป็นต้นที่ปลูกนานหนึ่งปีขึ้นไป อย่างไรก็ตาม ต้นเล็กๆ ก็มีสรรพคุณในการรักษาเช่นกัน แต่สรรพคุณของมันจะมีมากขึ้นตามอายุปกติควรใช้ใบล่างสุด เพราะเป็นใบที่แก่และใหญ่กว่าใบอื่น ดังนั้นจึงมีเมือกมากและมีคุณค่าทางยามากกว่า เมื่อเราปอกเปลือกว่านหางจระเข้จนหมด จะเหลือส่วนที่เป็นเนื้อใสๆ ที่เรียกว่าวุ้น และเมื่อขูดวุ้นนี้ออกจะมีน้ำไหลออกมาเรียกว่า เมือก

ก่อนนำใบว่านหางจระเข้มาใช้ ต้องล้างให้สะอาดเสียก่อน ใบว่านที่นำมาใช้ ยิ่งสดจากต้นเท่าไหร่ยิ่งดี ทั้งนี้เพราะใบที่ถูกตัดจากต้นแล้วสรรพคุณจะลดลงเรื่อยๆ วิธีประหยัดต้นว่านหางจระเข้และทำให้มีสรรพคุณดีที่สุด คือตัดใบเอามาใช้เท่าที่จำเป็นและพอใช้ในหนึ่งวัน วันรุ่งขึ้นหากต้องการใช้ ก็ไปตัดจากต้นมาใหม่ หากต้องการใช้เพียงเล็กน้อย แต่ตัดเอามาใช้ทั้งใบ ส่วนที่เหลือเก็บไว้ วิธีนี้จะทำให้สิ้นเปลืองและใบว่านหางจระเข้จะมีสรรพคุณลดลง ควรตัดใบออกมาเพียงบางส่วนก็พอ เพราะวุ้นจากว่านหางจระเข้ที่แม้จะนำไปแช่ตู้เย็น ก็ยังทำให้เสื่อมสรรพคุณเร็วเช่นกัน

ว่าน หางจระเข้เป็นพืชที่ปลูกกันทั่วโลก ว่านหางจระเข้พันธุ์ที่นิยมใช้ในซีกโลกตะวันตกเรียกว่า aloe barbadensis miller เหตุที่ได้รับความนิยมเพราะอุดมด้วยสารอาหารมากมาย ได้แก่วิตามินเอ บี1 บี2 บี6 บี12 ซี และอี ขณะที่แร่ธาตุที่พบได้แก่ โซเดียม แมกนีเซียม และเซเลเนียม น้ำตาลที่มีสรรพคุณในการบำบัด โปรตีน และกรดอะมิโน ลองรับประทานว่านหางจระเข้ หากคุณมีปัญหาดังต่อไปนี้

โรคลำ ไส้แปรปรวน

ดื่มน้ำว่านหางจระเข้ช่วยบรรเทาอาการ ตะคริวที่ท้องและท้องอืด นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณลดการอักเสบด้วย

ไขข้อ อักเสบ

ใช้เจลว่านหางจระเข้ทา บริเวณที่อักเสบ เนื้อเจลจะแทรกซึมเข้าสู่ผิว ช่วยบรรเทาอาการปวด แจน เดอ รีส์ ผู้เชี่ยวชาญด้าน Naturopathy ของ Health Plus กล่าว

โรค ที่เกี่ยวกับผิวหนัง

บรรเทาอาการผิวหนังอักเสบ ลมพิษ และอื่นๆ ทาเจลว่านหางจระเข้เป็นประจำ นอกจากนี้ยังใช้นวดหนังศีรษะช่วยกำจัดรังแค

แผลไฟ ไหม้

น้ำร้อนลวก และมีดบาด ทาเจลว่านหางจระเข้บริเวณที่ถูกยุงกัด ถูกแดดเผา และแผลขีดข่วน เพราะว่านหางจระเข้มีสรรพคุณลดอาการปวด

ท้อง ผูก

ดื่มน้ำว่านหางจระเข้ทุกวันจะช่วยป้องกันท้องผูก เนื่องจากมีสรรพคุณเป็นยาระบาย แต่ก่อนใช้ควรปรึกษาแพทย์

ในฐานะที่เป็นเพื่อน (สนิท) กัน ^^






มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก 2010

ในแต่ละปีจะมีหน่วยงาน หรือองค์กรต่างๆ ที่เก็บข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการศึกษาทั้งคุณภาพการศึกษา งานวิจัย ฯลฯ ออกมาเปิดเผยผลการจัดอันดับ โดยปีนี้ มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลก (จาก Academic Ranking of World Universities ARWU) ได้แก่ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยฮาร์วาร์ด ครองแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่ 8 แล้ว ที่น่าสนใจคือใน 10 อันดับแรกมีแค่ 2 ประเทศยักษ์ใหญ่เท่านั้นคือ สหรัฐอเมริกาและอังกฤษ

Academic Ranking of World Universities (ARWU) เป็นองค์การที่จัดตั้งมาตั้งแต่ ปี 2003 เพื่อจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก ซึ่งในการจัดอันดับก็จะมีข้อมูลหลายอย่างที่นำมาใช้เป็นตัวชี้วัด ดังนี้

- คุณภาพของการศึกษา : ศิษย์เก่าของสถาบัน ได้รับรางวัลโนเบล หรือ รางวัลใดๆบ้าง

- คุณภาพของคณะ : อาจารย์ในมหาวิทยาลัย ได้รับรางวัลโนเบล หรือ รางวัลใดๆบ้าง

- ผลงานวิจัย : มีเอกสารผลงานวิจัยอะไรบ้าง , เอกสารงานวิจัยได้รับการอ้างอิงแค่ไหน

- การปฏิบัติต่อผู้เรียน : ดูจำนวนนักวิชาการเต็มเวลา

โดยหัวข้อการชี้วัดทั้งหมดก็จะมีหัวข้อย่อยลึกลงไปอีก เพื่อให้การจัดอันดับเป็นไปด้วยความยุติธรรม

สำหรับปีนี้เป็นเรื่องที่ น่าคิดเหมือนกัน เพราะใน 500 อันดับที่ Academic Ranking of World Universities (ARWU) จัดอันดับมา ไม่มีมหาวิทยาลัยจากประเทศไทย แม้แต่มหาวิทยาลัยเดียวที่ ติดอันดับ -*-

ไปดูกันดีกว่าว่า มหาวิทยาลัยไหน ติด Top 100 กันบ้าง!

* ถ้าสังเกตหรือวิเคราะห์ดีๆ ประเทศส่วนใหญ่ที่อยู่ดับอันดับต้นๆ ล้วนเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วเกือบทั้งสิ้น เพราะฉนั้นไม่น่าแปลกใจที่ประเทศเหล่านี้จะมีคุณภาพการศึกษาที่สูงกว่า ประเทศที่กำลังพัฒนา หรือด้อยพัฒนา อย่างไรก็ตามนี่เป็นแค่การจัดอันดับของ ARWU จริงๆสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ว่าคุณจะเรียนที่ไหนขอให้ตั้งใจ ทำจริง คิดว่าน่าจะทำให้คุณประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.arwu.org/ARWU2010.jsp

ชะลอความชราด้วยสปาพระพักตร์


ปัจจุบันนี้ใครต่อใครก็หัน มาสนใจเรื่องความสวยความงาม จนธุรกิจสปาเดินหน้ารุ่งเรืองกันเป็นแถวๆ ไม่นับครีมบำรุงต่างๆ ที่ขยันปรุงแต่งสูตรนำเสนอสรรพคุณแปลกใหม่น่าใช้ไม่เว้นแต่ละวัน


เพราะใครๆ ก็อยากดูผ่องใสเป็นหนุ่มสาวสองพันปี แต่ถ้าเป็นตำนานสาวสองพันปีของแท้ ทุกคนก็ต้องนึกถึง คลีโอพัตรา ชายาและราชินีผู้เลอโฉม ซึ่งตำรับความงามของราชินีคลีโอพัตรานั้นเรียกว่าคนสมัยนี้รู้แล้วยังต้อง ทึ่ง ซึ่งก็รวมถึงสูตรสปาผิวหน้าผิวกาย เพื่อความผุดผ่องเป็นยองใยและหอมกรุ่นตลอดเวลา แต่ดั้งเดิมนานมาคือสูตรอาบน้ำแร่ แช่น้ำผึ้งผสมน้ำนม รมด้วยพฤกษากลิ่นหอม ซึ่งในสมัยอาณาจักรโรมันถือเป็นปรากฏการณ์ที่แปลกใหม่ โดยมีความเชื่อว่าเอนไซม์ในน้ำนมจะช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัยและทำใฟ้ผิวนุ่ม นวลตลอดกาล และพระองค์จะใช้น้ำนมสดๆ จากตัวลาเท่านั้น ซึ่งอันที่จริงก็เป็นเพราะในน้ำนมอุดมด้วยวิตามินเอและวิตามินอีและกรดแลคติ ค ที่มีผลในการต่อต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี


และในสมัยก่อนสปาสำหรับคลีโอพัตรา ก็คือ การนำเลือดสดของจระเข้มาผสมกับน้ำมันมะกอกเมดิเตอร์เรเนียน น้ำผึ้ง แตงกวา และโคลนจากริมฝั่งแม่น้ำไนล์แท้ๆ นำมามาสก์หน้า บางสูตรก็อ้างว่าพระองค์ทรงใช้ทองคำบริสุทธิ์พอกหน้า ด้วยความเชื่อว่าแร่ธาตุในทองคำจะนำมาซึ่งความเปล่งประกายและความงามที่เป็น อมตะ หรือสูตรกำจัดสิวเสี้ยนด้วยการใช้ไข่ขาวพอกหน้า อันที่จริงแล้วก็มีต้นกำเนิดมาจากสูตรความงามของพระนางคลีโอพัตรานั่นเอง

วันนี้เรามีสูตรมาสค์หน้าแบบง่ายๆ โดยไม่ต้องไปควานหาเลือดสดให้หนักใจ แถมยังให้ผลลัพธ์ความงามไม่ต่างจากพระนางคลีโอพัตรา


สูตรสปาสาวสองพันปี


1. วิปปิ้งครีม (ส่วนประกอบใช้แทนเลือจระเข้สด)

2. แป้งข้าวโพดผสมน้ำ

3. แตงกวาปั่น 2 ลูก

4. น้ำผึ้งแท้ 1 ช้อนโต๊ะ


ผสม ทั้งหมดให้เข้ากัน สูตรนี้เป็นสูตรชะลอริ้วรอยแห่งวัย แตงกวามีกรดแพนโทเธนิคช่วยกระชับผิว น้ำผึ้งอุดมด้วยวิตามินอีที่เติมเต็มความชุ่มชื้นสู่ผิว



10 อาชีพที่ทำแล้วไม่มีวันจน


อันดับ ที่ 10

นักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม

นักวิทยาศาสตร์ สิ่งแวดล้อม รายได้ต่อเดือน 97,560 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,448,000 บาท

อันดับที่ 9

ผู้จัดการฝ่ายการ ตลาด

ผู้จัดการฝ่ายการตลาด รายได้ต่อเดือน 100,020 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,535,000 บาท


อันดับ ที่ 8

ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ระบบงานคอมพิวเตอร์

ผู้ จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ระบบงานคอมพิวเตอร์ รายได้ต่อเดือน 100,110 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,538,000 บาท


อันดับที่ 7

เจ้าหน้าที่ดูแล จราจรทางอากาศ

เจ้าหน้าที่ดูแลจราจรทางอากาศ รายได้ต่อเดือน 100,430 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,550,000 บาท


อันดับที่ 6

ทนาย

ทนาย รายได้ต่อเดือน 110,590 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,909,000 บาท


อันดับที่ 5

ทันตแพทย์

ทันตแพทย์ รายได้ต่อเดือน 132,660 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 110,590 บาท

อันดับที่ 4

นักบินพาณิชย์

นัก บินพาณิชย์ รายได้ต่อเดือน 134,090 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4,740,000 บาท

อันดับที่ 3

เอ็นจิเนียริ่งแมเน เจอร์

เอ็นจิเนียริ่งแมเนเจอร์ รายได้ต่อเดือน 140,210 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4,956,000 บาท


อันดับ ที่ 2

ซีอีโอ

ซีอีโอ รายได้ต่อเดือน 140,880 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4,980,000 บาท

อันดับที่ 1

ศัลยแพทย์หัวใจและ สมอง

ศัลยแพทย์หัวใจและสมอง รายได้ต่อเดือน 181,850 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6,428,000 บาท


8 วิธีกินเส้นเน้นสุขภาพ


การใส่บะหมี่ในน้ำ

พร้อมเครื่องปรุงและต้มประมาณ 3 นาที จนเดือด เป็นวิธีที่ผิดเพราะจะทำเส้นบะหมี่สำเร็จรูปซึ่งเคลือบด้วย Wax ผสมผงชูรสกลายสภาพเป็นสารพิษ ซึ่งร่ายกายต้องใช้เวลา 4-5 วันในการขับออกจากร่างกาย

วิธีต้ม ที่ถูกต้อง

คือ เทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในน้ำและต้มจนเดือด เมื่อบะหมี่สุกแล้ว เทน้ำที่ต้มซึ่งมีส่วนผสมของ Wax ผสมผงชูรสซึ่งเป็นสารพิษทิ้ง ต้มน้ำใหม่ให้เดือดอีกครั้ง และใส่เส้นบะหมี่ที่ต้มไว้ลงไป ปิดไฟ แล้วจึงใส่เครื่องปรุงขณะน้ำยังร้อน เพื่อป้องกันผงชูรสในเครื่องปรุงกลายเป็นสารพิษ สำหรับบะหมี่แห้งสามารถใส่เครื่องปรุงได้ทันที เมื่อช้อนเส้นขึ้นจากน้ำเดือด

ศูนย์ วิทยาศาสตร์การแพทย์อุบลราชธานี

พบว่า มีการเติม กรดเบนโซอิกและกรดซอร์บิก สารกันบูดเกินปริมาณกำหนดของคณะกรรมการกำหนดมาตรฐานอาหารสากล (Codex) คือ มากกว่า 1,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กพบปริมาณกรดเบนโซอิกสูงสุด รองลงมาเป็นเส้นหมี่ ก๋วยจั๊บเส้นใหญ่ ก๋วยจั๊บเส้นเล็ก บะหมี่โซบะ และก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ หากร่างกายได้รับในปริมาณสูงเป็นเวลานานๆ จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของตับและไตลดลง

บะหมี่บีทรูทอุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินเอ

เกลือแร่ แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม สารไนเตรต สารเบทานิน ที่ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง คุณสมบัติพิเศษกว่าผักชนิดอื่นคือ ไม่ว่าผ่านการปรุงหรือถนอมอาหารแบบใดก็ยังคงความสดและคุณค่าได้ดี โดยนำส่วนประกอบของบีทรูทเข้ามาแทนที่ของน้ำเปล่า นอกจากคุณค่าอาหารจะเพิ่มขึ้นแล้ว บะหมี่ยังมีสีชมพูน่ากินอีกด้วย สนใจดูแลสุขภาพในปัจจุบัน ฉัตรทิพย์ เจ้าของเมนูได้ที่เบอร์ 085-899-81220

คนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

จนงด กินข้าวเพราะอ้างว่าต้องการงดคาร์โบไฮเดรต ที่จะทำให้อ้วนได้ไม่แพ้ไขมันนั้นควรอย่างยิ่งที่จะกินบะหมี่บ้าง เพราะบะหมี่เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่ยอดเยี่ยมพอๆ กับก๋วยเตี๋ยว สปาเกตตี มะกะโรนี และโรตี คุณสามารถกินได้บ่อยๆ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะอ้วน เพราะบะหมี่เป็นคาร์โบไฮเดรตละเอียด มีคุณสมบัติย่อยง่ายกว่าคาร์โบไฮเดรตชนิดธรรมดา

ตอนเลือกซื้อต้องสังเกตบนซอง

ว่ามีสารไอโอดีน ธาตุเหล็ก และวิตามินเอ อยู่ด้วย เมื่อนำมาปรุงจะต้องเติมไข่ หรือเนื้อสัตว์ และผัก ลงไปทุกครั้ง ที่สำคัญต้องไม่ลืมฉีกซองเครื่องปรุงใส่ลงในบะหมี่ทุกครั้ง ที่ปรุง ใส่น้ำให้พอดี ซดน้ำให้ได้มากที่สุด หมดชามยิ่งดี เพราะเท่ากับว่า ได้รับสารอาหาร 3 ชนิดเข้าสู่ร่างกายอย่างเต็มที่

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

แนะ ทางในการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้ปลอดภัยและได้ประโยชน์คือ ลดเครื่องปรุงให้เหลือเพียงครึ่งหนึ่งหรือน้อยกว่านั้น เติมเนื้อสัตว์และผักเพื่อให้ร่างกาย ได้รับสารอาหารเพิ่มมากขึ้น และไม่ควรกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปติดต่อกันประจำเป็นเวลานาน เพราะจะเสี่ยงต่อการได้รับโซเดียมมากเกินไปจนเกิดการสะสมในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุของความดันโลหิตสูง

ปัจจุบัน ได้มีการวิจัยบะหมี่สูตรลดความอ้วน

โดยช่วยให้อิ่ม นาน ทั้งยังดูดซับคอเลส-เตอรอลส่วนเกินในลำไส้และช่วยเรื่องระบบขับถ่ายด้วย โดยลดส่วนผสมปริมาณแป้งสาลีในบะหมี่ 1 ก้อน ซึ่งหนักประมาณ 50 กรัม ให้น้อยลง และเติมสารเพคตินที่สกัดได้จากเปลือกมะนาวเข้าไปประมาณ 6 กรัมเพื่อให้ออกฤทธิ์สลายคอเลสเตอรอลในกระเพาะอาหาร เมื่อสารเพคตินเข้าสู่กระเพาะอาหารจะพองตัวและแปรสภาพเป็นสารอาหารที่มีความ หนืดคล้ายแยมทาขนมปัง ช่วยให้อิ่มนานกว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั่วไป ทั้งยังออกฤทธิ์ต่อเอนไซม์ในลำไส้ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ระบบขับถ่ายทำงาน ปกติ จากการทดสอบในอาสาสมัคร พบว่า รอบเอวลดลงประมาณ 2 นิ้ว

บะหมี่ลดน้ำหนักที่ พัฒนาขึ้นมีอยู่ 2 รสชาติ คือ รสแกงส้มและรสต้มขมิ้น ในรูปของบะหมี่เจผ่านการรับรองจาก คณะกรรมการอาหารฮาลาล และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะผลิตบะหมี่ออกมาจำหน่ายไม่เกินปีหน้า ชาวจีนโบราณเชื่อว่าการกินเส้นบะหมี่เป็นการเสริมมงคล แต่สมัยนี้ถ้าจะให้ได้ผลจริงๆ ก็ควรต้องกินให้ถูกวิธี ถูกหลักอนามัยด้วย ชีวิตของคุณจึงจะยืดยาว


+++ Hamster +++

+++ Playlist +++


MusicPlaylistRingtones
Create a playlist at MixPod.com

+++ coming soon +++