วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Samsung เอาใจตลาดล่างด้วย Galaxy 5 มือถือ Android ถูกสุด!


ตลาด Android กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นสุดๆ เรียกว่าถ้ามือถือไหนติดตราหุ่นกระป๋องเขียวแล้วก็รับรองได้ว่าลูกค้าแย่ง กันซื้อแทบไม่ทัน แต่ดูเหมือนว่าโดยส่วนใหญ่แล้วมือถือ Android จะมีราคาถีบตัวสูงขึ้นไปเล็กน้อยหากเทียบกับมือถือทั่วไปแล้ว ดังนั้นเพื่อไม่ให้เสียตลาดล่างไป Samsung ที่สร้างความสั่นสะเทือนในวงการมาแล้วด้วยสุดยอดสมาร์ตโฟน Galaxy S จึงกลับมาอีกครั้งพร้อม Samsung Galaxy 5 โทรศัพท์มือถือ OS Android ที่มีราคาถูกที่สุดในบรรณพิภพด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 250 ยูโรหรือประมาณ 8,000 บาทไทยเท่านั้น

Samsung เอาใจตลาดล่างด้วย  Galaxy 5 มือถือ Android ถูกสุด!

สำหรับสเปกคร่าวๆของเจ้า Galaxy 5 นี้ก็จะใช้ระบบปฏิบัติการ Android 2.1 Éclair ในการทำงาน ขณะที่หน้าจอ QVGA ของตัวเครื่องมีขนาด 2.8 นิ้วแม้ว่าอาจจะดูต่ำไปนิดสำหรับมือถือในระดับราคานี้ แต่ก็ยังดีที่ Galaxy 5 จะมาพร้อมกับระบบการเชื่อมต่อที่ครบครันทั้ง Bluetooth, WiFi รวมไปจนถึง 3G ด้วยซึ่งจะมอบประสบการณ์การใช้งาน Android แก่ผู้ใช้ได้อย่างเต็มที่ด้วยราคาที่ถือว่าอยู่ในระดับที่จับต้องได้นั่นเอง

ที่มา: hypergearmag

บูลิเมีย ภัยเงียบ...น่ากลัวกว่าที่คิด




บูลิเมีย อนอเร็กเซีย ภาพหลอนของคนกลัวอ้วน (Health & Cuisine)

หุ่นดีเหมือนนางแบบ ดูจะเป็นคำชมที่สร้างความพึงพอใจให้กับสาวๆ ยุคนี้ไม่น้อย เพราะเมื่อเปิดโทรทัศน์หรือแมกกาซีนแล้วพบว่า นางแบบตัวจริงส่วนใหญ่มักเป็นสาวน้อยหุ่นเพรียวลม และรูปร่างเช่นนี้ได้กลายเป็นต้นแบบแห่งความงามที่หลายคนใฝ่ฝัน บางคนยอมทรมานร่างกายด้วยการอดอาหาร จนเป็นสาเหตุของโรคกลัวอ้วน บูลิเมียและอนอเร็กเซีย สองโรคอันตรายของคนอยากสวย

บูลิเมีย เป็นโรคในกลุ่มของอาการผิดปกติในการ กิน (Eating Disoder) ส่วนใหญ่พบในหญิงสาวช่วงวัยรุ่น อายุตั้งแต่ 14-15 ไปจนถึง 30 ปี ประวัติ ศาสตร์การแพทย์มีการค้นพบโรคนี้ครั้งแรก ในกลุ่มของนักบัลเล่ต์ เมื่อคริสตศตวรรษที่ 15 แต่ปัจจุบันโรคนี้แพร่หลายในกลุ่มผู้หญิงรักสวยรักงาม ในสังคมที่มีความเป็นอยู่แบบตะวันตก ส่วนคนไข้รายแรกๆ ในเมืองไทยเป็นกลุ่มของหญิงสาวที่มีอาชีพนางแบบ ดารา เพราะต้องใช้รูปร่างเพื่อพรีเซนต์เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย

สาเหตุ หลักของ บูลิเมีย เกิดจากค่านิยมเรื่องความอ้วนผอมเป็นสำคัญ แต่มีการศึกษาพบว่ายังมีสาเหตุร่วมอื่นๆ อีก เช่น ผล จากกรรมพันธุ์ มี การศึกษาพบว่าแม่ที่เป็นบูลิเมียมีโอกาสถ่ายทอดไปถึงลูกสาวได้ และระดับของสารเคมีในเซลล์สมอง พบว่าผู้ป่วยที่มีระดับของฮอร์โมนซีโรโทนินในสมองต่ำกว่าคนปกติ อาจทำให้สูญเสียประสิทธิภาพควบคุมการกินอาหาร

ผู้ ป่วยบูลิเมีย มักอยากกินอาหารในทันทีแบบที่บังคับตัวเองไม่ได้ ทำให้กินมากเกินไป แล้วจึงกินยาถ่ายหรือล้วงคอให้อาเจียนเพราะกลัวอ้วน ก่อให้เกิดอันตรายทั้งร่างกายและจิตใจ เช่น ความดันโลหิตต่ำ ประจำเดือนไม่มา เครียดกังวล ซึมเศร้า อีกทั้งการใช้ยาระบายและทำให้อาเจียนเป็นประจำ ทำ ให้เกิดความผิดปกติกับไต กระเพาะปัสสาวะ อาการขาดน้ำและปัญหาการไหลเวียนของเลือด แต่ผู้มีความผิดปกติในการกินมักไม่ยอมรับว่าตัวเองมีปัญหา ไม่สนใจอาการที่เกิดขึ้นและมักพยายามหาทางปิดบังผู้อื่นเกี่ยวกับความผิด ปกติของตน การรักษาด้วยตัวเองจึงไม่ได้ผล ต้องอาศัยบุคคลใกล้ชิดช่วยดูแลและสร้างแรงจูงใจ

ส่วน อนอเร็กเซีย หรือ อนอเร็กเซีย เนอโวซ่า (Anorexia Nervosa) เป็น โรคของความผิดปกติในการกินเช่นเดียวกัน ผู้ป่วยจะมีปัญหาทางด้านจิตใจ มักรู้สึกว่าหากควบคุมการกินอาหารของตัวเองได้ ก็จะสามารถควบคุมชีวิตของตัวเองได้ ทำ ให้ร่างกายผ่ายผอมมากเนื่องจากพยายามลดอาหารและออกกำลังมากเกินไป มักเกิดในวัยรุ่นผู้หญิงอีกเช่นกัน อาการที่เด่นชัดคือพยายามอดอาหารหรือกินให้น้อยที่สุด เพราะรู้สึกมีปมด้อย ไม่พึงพอใจเรื่องรูปร่างของตนเอง

อาการของโรคในช่วงแรก คือ เด็ก ผู้หญิงมักประจำเดือนขาด ชอบชั่งน้ำหนักตัวบ่อยๆ วิตกกังวลเรื่องน้ำหนักตัวเกินเหตุ เลือกกินมากขึ้น ชอบคะยั้นคะยอให้คนอื่นกินแทน น้ำหนัก ตัวลดลงอย่างฮวบฮาบ และหมกมุ่นอยู่กับการออกกำลังกายให้มากที่สุดแต่กินให้น้อยที่สุด บางรายพยายามล้วงคออาเจียนเอาอาหารที่กินเข้าไปออกมา บังคับตัวเองให้อดอาหารน้ำหนักลดลงมาเรื่อยๆ จนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ระบบต่างๆ ในร่างกายแปรปรวน การเจริญเติบโตชะงักงัน ภาวะการเจริญพันธุ์ลดลง และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้




หากคุณค้นพบว่า ตัวเองเริ่มมีแนวโน้มความผิดปกติเรื่องการกินอาหาร พึงปฏิบัติดังนี้

กินเป็นมื้อและกินให้อิ่ม หาความสุขระหว่างมื้ออาหาร ด้วยการผ่อนคลายในบรรยากาศสบายกับเพื่อนฝูง ครอบครัว

อย่า ปล่อยให้ตัวเองว่าง ความเบื่อหน่ายและความเหงา เมื่ออยู่คนเดียวอาจทำให้คุณหยิบอะไรใส่ปากโดยไม่รู้สึกหิว และหมกมุ่นกับตัวเองมากเกินไป

ควรหาคนพูดคุยระบายความ รู้สึก การเก็บกดอารมณ์โกรธและความคับข้องใจเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้คุณกินเกินพอดี

ควรให้รางวัลตัวเองด้วยการ กินของโปรดประเภทช็อกโกแลต ขนมหวาน เป็นครั้งคราว เพื่อไม่ให้รู้สึกเก็บกดกับของต้องห้ามเหล่านี้จนเกินไป

ไม่ควรตุนของกินเล่นที่มี แคลอรี่สูงไว้ที่บ้าน

ไม่ควรกินของเล่นระหว่าง มื้ออาหาร

ไม่ควรใช้ยาระบาย หรือล้วงคอให้อาเจียน การกินตามตามใจปากมากเกินไป มีผลร้ายน้อยกว่าการอาเจียนและการใช้ยาระบาย





อันตรายจากบูลิเมีย

  • ขาดสารอาหาร เนื่องจากคนที่เป็นบูลิเมียจะอดอาหาร ทำให้ขาดสารอาหารไปโดยปริยาย
  • หัวใจวาย กล้ามเนื้อหัวใจไม่ทำงานเพราะขาดการเกลือแร่ โปแทสเซียม และฟอสฟอรัส
  • เยื่อบุอาหารถูกทำลาย เพราะกรดที่ไหลย้อนขึ้นมาจากกระเพาะอาหาร
  • หลอด อาหารฉีกขาด เพราะแรงดันที่ผิดปกติเวลาที่ต้องอาเจียนบ่อย ๆ และหลอดอาหารจะอยู่ช่วงทรวงอก เกิดการติดเชื้อในส่วนที่ติดกับปอดและหัวใจได้
  • กล่องเสียงจะเสีย เสียงจะแหบเพราะกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาเวลาที่อาเจียน ร้ายแรงมาก ๆ อาจจะเป็นมะเร็งที่กล่องเสียงได้
  • ประจำเดือนผิดปกติ เมื่อขาดสารอาหาร ระบบฮอร์โมนก็จะแปรปรวน
  • กระดูกพรุน จำนวนมากกว่าครึ่งของคนที่เป็นบูลิเมีย จะเป็นโรคกระดูกพรุนเพราะระบบฮอร์โมนที่ผิดปกติ
  • ขาดความเคารพตัวเอง(self-esteem) สูญเสียความมั่นใจในตนเอง จนถึงเกลียดตัวเองและรู้สึกตัวเองไม่มีค่า.. ถึงขั้นฆ่าตัวตายได้


ขอบ คุณบทความดีดีจาก
@cloud

วิ่งตามอะไรกันในชีวิต





วิ่งตามอะไรกันในชีวิต

มี เรื่องเล่าว่า... มีพระองค์หนึ่ง...ชอบทำอะไรแปลกๆ...
วันหนึ่ง...พวก กรุงเทพฯ...เอากฐินไปทอดที่วัด...


จัด งานกันใหญ่โต...มีหนัง...มีลิเก...มีดนตรี...ผู้คนแห่กันมามืดฟ้ามัวดิน...
ก่อน ทอดกฐิน..ผู้คนมารวมกันเต็มศาลา...
หลวงพ่อเรียกเด็กวัดมา...
บอก ให้ไปเอาเนื้อจากโรงครัวมาก้อนหนึ่ง...แล้วเอาเชือกมาด้วย...
หลวงพ่อ จัดการ...เอาเนื้อ...ผูกติดกับหลังหมา...

ผูก เสร็จ...ก็ปล่อยหมา ...
หมาเห็นเนื้ออยู่บนหลัง...ก็ไล่งับ...
พอ หัวโดดงับ...ตัวก็ขยับหนี...
เพราะหมามันกัดหลังตัวเองไม่ถึง...
ยิ่ง โดดงับเร็ว...ก้อนเนื้อก็หนีเร็ว...
โดดไม่หยุด...เนื้อก็หนีไม่หยุด... น่าสงสารหมามาก...


หมาโดดอยู่นาน...งับเท่าไหร่...เนื้อก็ไม่เข้าปากสัก ที...
ผู้คนบนศาลา...พากันหัวเราะชอบใจ...
หัวเราะเยาะหมา...ว่า ทำไมมันถึงโง่ยังงี้...
ไล่งับ...จะกินเนื้อ...ที่ตัวเองไม่มีทางไล่ตาม ทัน ตลอดชีวิต...


หลวงพ่อ...มองดูด้วยความสนุกสนานจนหนำใจแล้ว...
ก็แก้ เชือกออกมากหลังหมา...
แล้วหันมาพูดกับญาติโยมว่า...



มนุษย์เรา...มีความรู้สึกว่า...ตัวเองพร่อง...ตัว เองยังไม่เต็ม...
ต้องเติมตลอดเวลา...เติมไม่หยุด...เพื่อให้ตัวเอง เต็ม...


อยากสวย...อยากทันสมัย...
ไป หาซื้อเสื้อผ้าที่สวยที่สุด...ทันสมัยที่สุดใส่...
ดีใจได้เดือน เดียว...มีรุ่นใหม่ออกมาอีกแล้ว...สวยกว่า...ทันสมัยกว่า...
อยากได้ โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่...
ซื้อเสร็จ ๓ เดือน...รุ่นใหม่ก็โผล่มาอีกแล้ว...


ซื้อคอมพิวเตอร์ทันสมัยที่สุด...
๒ เดือนต่อมา...มีรุ่นใหม่กว่าออกมา...ของเราตกรุ่น...

ซื้อรถ เบนซ์...ทันสมัยที่สุด...แพงมาก...
ขับได้ ๖ เดือน...มีรุ่นใหม่ออกมาอีกแล้ว...
ทันสมัยกว่า...แพงกว่า...ของเรากลาย เป็นเชย...


เราต้องก้มหน้าก้มตา...ทำงานทั้งวัน ทั้งคืน...หาเงินมา...
เพื่อ มาทำให้ตัวเองทันสมัย...
ซื้อเสื้อผ้าใหม่...มือถือใหม่...คอมพิวเตอร์ ใหม่...รถยนต์คันใหม่...
เหน็ดเหนื่อยแสนสาหัส...
เพื่อไม่ให้ตัว เองตกรุ่น...


ปัจจุบัน...
เรา กำลังไล่งับความทันสมัย...เหมือนหมาที่ไล่งับเนื้อบนหลังของมัน...
ทั้ง ที่รู้ว่า...ต่อให้ไล่งับทั้งชีวิต...ก็ไม่มีทางตามทัน...
น่าสงสารไหม โยม
...

คนเต็ม ศาลา...เมื่อกี้หัวเราะครึกครื้น...
ด่าว่า...หมามันโง่...
ตอนนี้ เงียบสนิท...เหมือนไม่มีคนอยู่...


ไม่รู้ว่า...กำลังสงสาร หมา...
หรือ...กำลังทบทวนความโง่...ตัวเอง


ขอบคุณบทความจากทำดีดอทเน็ต

ชีวิตคุณยังคงมีค่าอยู่หรือเปล่า





นักพูดที่เป็นที่รู้จักกันดีท่านหนึ่ง
ได้เริ่มหยุดการสัมมนาของเขาโดย การ หยิบแบงค์ 20 ดอลลาร์ขึ้นมา

ในห้องมีผู้เข้าร่วมประชุม 200 ท่าน
แล้วเขาก็พูดว่า "ใครอยากได้แบงค์ 20 นี้บ้าง"

มือ ได้ถูกยกขึ้นเป็นจำนวนมาก และเขาก็พูดต่อว่า
"ฉันจะให้แบงค์ 20 นี้กับหนึ่งในพวกท่าน แต่ครั้งแรกนี้ฉันจะทำอย่างนี้"

เขาเริ่มที่จะขยำๆ เงินนั้นแล้วเขาก็ถามอีกว่า "ใครจะยัง ต้องการมันอีก"
ยังคงมีมือที่ ยกขึ้นอีก "ดี" เขาตอบ

"แล้วถ้าฉันทำอย่างนี้ล่ะ" และเขาก็ ทิ้งมันลงที่พื้น
และเริ่มเหยียบย่ำมันด้วยรองเท้าของเขา
แล้วเขาก็เก็บขึ้นมา ขณะนี้มันทั้งยับยู่ยี่และสกปรก
"ตอนนี้ ใครยังต้องการมันอีก" ก็ยังคงมีคนยกมืออีก

"เพื่อนๆ คุณได้เรียนรู้บทเรียนที่มีคุณค่ามากที่สุดบทหนึ่งแล้วว่า
ไม่ว่าฉันจะทำอะไรกับเงิน คุณก็ยังต้องการมันอยู่
เพราะ ว่ามันไม่ได้ลดคุณค่าในตัวมันลงเลย
มันก็ยังคงมีค่า 20 ดอลล์ อยู่นั่นเอง

เหมือนกับหลายๆ ครั้งในชีวิตของเรา
ที่ถูกทิ้ง, ถูกเหยียบย่ำ และถูกทำให้สกปรกโดยสิ่งที่เราตัดสินใจทำมัน
และสภาพแวดล้อมที่เราเจอ ทำให้เรารู้สึกว่าคุณค่าของเราลดน้อยลง
แต่ไม่ว่าอะไรที่ได้เกิดขึ้น หรืออะไรที่จะเกิดขึ้นคุณไม่เคยสูญเสียคุณค่าของคุณ
คุณเป็นคนพิเศษ -- อย่าลืมมันตลอดไป

"อย่า นำความผิดหวังของเมื่อวานมาบดบังความฝันในวันพรุ่งนี้"

♣ 10 อันดับภาษาที่เรียนรู้ยากที่สุด ♣

Swahili
Swahili

อันดับ 10 Swahili


ภาษา สวาฮีลี (หรือ คิสวาฮีลี) เป็นภาษากลุ่มแบนตูที่พูดอย่างกว้างขวางในแอฟริกาตะวันออก ไม่ว่าจะเป็น แทนซาเนีย เคนยา ยูกันดา รวันดา บุรุนดี คองโก-กินชาซา โซมาเลีย คอโมโรส (รวมมายอต) โมซัมบิก และมาลาวี ภาษาสวาฮีลีเป็นภาษาแม่ของ ชาวสวาฮีลี ซึ่งอาศัยอยู่แถบชายฝั่งของแอฟริกาตะวันออกระหว่างประเทศโซมาเลียตอนใต้ ประเทศโมแซมบิกตอนเหนือ มีคนพูดเป็นภาษาแม่ประมาณ 5 ล้านคนและคนพูดเป็นภาษาที่สองประมาณ 30-50 ล้านคน ภาษาสวาฮีลีได้กลายเป็นภาษาที่ใช้โดยทั่วไปในแอฟริกาตะวันออกและพื้นที่รอบ ๆ ว่ากันว่า การเรียนภาษาสวาฮิลีเป็นสิ่งท้าทายที่สุด


English
English

อันดับ 9 English


ภาษา อังกฤษ เป็นภาษาตระกูลเจอร์เมนิกตะวันตก มีต้นตระกูลมาจากอังกฤษ เป็นภาษาที่มีคนพูดเป็นภาษาแรกมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ภาษาอังกฤษถือเป็นภาษากลาง (lingua franca) เนื่อง จากอิทธิพลทางทหาร เศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ การเมือง และวัฒนธรรมของสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่นักศึกษาทุกคนจำเป็นต้องเรียนรู้ภาษาอังกฤษ เพราะว่าภาษาอังกฤษนั้นได้เข้ามามีบทบาทอย่างยิ่งต่อผู้คนในหลากหลายอาชีพ ซึ่งบางอาชีพต้องการผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านภาษาอังกฤษมาช่วยประสานงาน ทำให้งานทุกอย่างนั้นง่ายราบรื่นและสำเร็จลงไปได้ด้วยดี สาเหตุที่ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ยากโดยรวมเนื่องจาก เป็นภาษาที่ใช้อักษรละตินเป็นอักษรหลักในการเขียน และการสะกดคำหลายคำจะไม่ตรงกับการอ่านออกเสียง ซึ่งทำให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ยากภาษาหนึ่งในการเรียน


Korean
Korean

อันดับ 8 Korean


ภาษา เกาหลี เป็นภาษาที่ส่วนใหญ่พูดใน ประเทศเกาหลีใต้ และ ประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งใช้เป็นภาษาราชการ และมีคนชนเผ่าเกาหลีที่อาศัยอยู่ในสาธารณรัฐประชาชนจีนพูดโดยทั่วไป(ใน จังหวัดเหยียนเปียน มณฑลจื๋อหลิน ซึ่งมีพรมแดนติดกับเกาหลี) ทั่วโลกมีคนพูดภาษาเกาหลี 78 ล้านคน รวมถึงกลุ่มคนในอดีตสหภาพโซเวียต สหรัฐอเมริกา แคนาดา บราซิล ญี่ปุ่น และเมื่อเร็วๆ นี้ก็มีผู้พูดใน ฟิลิปปินส์ ด้วย การจัดตระกูลของภาษาเกาหลีไม่เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป แต่คนส่วนมากมักจะถือเป็นภาษาเอกเทศ นักภาษาศาสตร์บางคนได้จัดกลุ่มให้อยู่ใน ภาษาตระกูลอัลไตอิกด้วย ทั้งนี้เนื่องจากภาษาเกาหลีมีวจีวิภาคแบบภาษาคำติดต่อ ส่วนวากยสัมพันธ์หรือโครงสร้างประโยคนั้น เป็นแบบประธาน-กรรม-กริยา (SOV) แม้ว่าภาษาเกาหลีจะมีตัวอักษร กับสระเพียงไม่กี่ตัวที่ต้องจำ(อักษร 19 + สระ 21) หากแต่ว่าไวยกรณ์ของเกาหลียากมาก ต้องจำกฎสารพัด กว่าจะเข้าใจและสามารถเขียนและอ่านได้


German
German

อันดับ 7 German


ภาษาเยอรมัน หรือด๊อยช์ เป็นภาษากลุ่มเจอร์เมนิกด้านตะวันตก และเป็นภาษาที่มีคนพูดเป็นภาษาแม่มากที่สุดในสหภาพยุโรป ส่วนใหญ่พูดในประเทศเยอรมนี ออสเตรีย ลิกเตนสไตน์ ส่วนมากของสวิตเซอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก แคว้นปกครองตนเองเตรนตีโน-อัลโตอาดีเจในอิตาลี แคว้นทางตะวันออกของเบลเยียม บางส่วนของโรมาเนีย แคว้นอัลซาซและบางส่วนของแคว้นลอร์แรนใน ฝรั่งเศส นอกจากนี้ อาณานิคมเดิมของประเทศเหล่านี้ เช่น นามิเบีย มีประชากรที่พูดภาษาเยอรมันได้พอประมาณ และยังมีชนกลุ่มน้อยที่พูดภาษาเยอรมันในหลายประเทศทางยุโรปตะวันออก เช่น รัสเซีย ฮังการี และสโลวีเนีย รวมถึงอเมริกาเหนือ (โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา) รวมถึงบางประเทศในละตินอเมริกา เช่น อาร์เจนตินา และในบราซิล ภาษาเยอรมัน จะว่ายาก..มันก็ยาก เพราะมีการแบ่งเพศในคำนามสิ่งของที่มีอยู่ในโลกนี้ 3 เพศ เช่น เวลา หรือ นาฬิกา นั้นเป็นเพศหญิง เครื่องดื่มที่เป็นแอลกฮอลล์ทุกชนิด ยกเว้นเบียร์ ถือว่าเป็นเพศกลาง เป็นต้น(มันคิดได้ไงว่ะเนี้ย) นอกจากนี้ยังยากตรงไวยากรณ์ เพราะมีข้อยกเว้นมาก และยากที่จะพูดให้คล่องโดยถูกหลักไวยากรณ์ เพราะคำกริยาบางทีก็อยู่ข้างหลังประโยค นอกจากนี้คำกริยาและคุณศัพท์ยังต้องผันตามเพศของคำนามอีก


Russian
Russian

อันดับ 6 Russian


ภาษา รัสเซีย เป็นภาษากลุ่มสลาวิกที่ใช้เป็นภาษาพูดอย่างกว้างขวางที่สุด ภาษารัสเซียจัดอยู่ในกลุ่มอินโด-ยูโรเปียน ดังนั้นจึงมีความสัมพันธ์กับภาษาสันสกฤต ภาษากรีก และภาษาละติน รวมไปถึงภาษาในกลุ่มเจอร์เมนิก โรมานซ์ และเคลติก (หรือเซลติก) ยุคใหม่ ตัวอย่างของภาษาทั้งสามกลุ่มนี้ได้แก่ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส และภาษาไอริชตามลำดับ ส่วนภาษาเขียนนั้นมีหลักฐานยืนยันปรากฏอยู่เริ่มจากคริสต์ศตวรรษที่ 10ในปัจจุบัน ภาษารัสเซียเป็นภาษาที่มีการใช้นอกประเทศรัสเซียด้วย มีเอกสารทางวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งตีพิมพ์เป็นภาษารัสเซีย รวมทั้งความรู้ในระดับมหาวิทยาลัยจำนวนหนึ่ง ภาษารัสเซียเป็นภาษาที่มีความสำคัญทางการเมืองในยุคที่สหภาพโซเวียตเรือง อำนาจและยังเป็นภาษาราชการภาษาหนึ่งของสหประชาชาติ และเป็นหนึ่งในภาษาที่ยากต่อการทำความเข้าใจ สับสน วุ่นวาย ไม่ว่าจะเป็นเขียนหรือการอ่านออกเสียง


Japanese
Japanese

อันดับ 5 Japanese


ภาษา ญี่ปุ่น เป็นภาษาทางการ ของประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันมีผู้ใช้ทั่วโลกราว 130 ล้านคน นอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่นแล้ว รัฐอังกาอูร์ สาธารณรัฐปาเลา ได้กำหนดให้ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาทางการภาษาหนึ่ง นอกจากนี้ภาษาญี่ปุ่นยังถูกใช้ในหมู่ชาวญี่ปุ่นที่ย้ายไปอยู่นอกประเทศ นักวิจัยญี่ปุ่น และนักธุรกิจต่าง ๆ คำภาษาญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลมาจากภาษาต่างประเทศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะภาษาจีน ที่ได้นำมาเผยแพร่มาในประเทศญี่ปุ่นเมื่อกว่า 1,500 ปีที่แล้ว และตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา ก็ได้มีการยืมคำจากภาษาต่างประเทศที่ไม่ใช่ภาษาจีนมาใช้อีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะภาษากลุ่มอินโด-ยูโรเปียน เช่นคำที่มาจากภาษาดัตช์ สาเหตุที่ภาษานี้มีความยากจนเรียกได้ว่าถึงขั้นพิสดารอันเนื่องมาจากคน ญี่ปุ่นเป็นชาติที่มีพิธีรีตองมาก ดังนั้นคำภาษาญี่ปุ่นจึงอักษรถึง3แบบ แบ่งคำศัพท์สำหรับใช้กับเพื่อน คนในครอบครัว อาจารย์เป็นต้น บางตัวไม่สามารถอธิบายได้ต้องจำเอาเอง ถือว่าเป็นภาษาที่ละเอียดอ่อนและมีความซับซ้อน ยิ่งเป็นอักษรคันจิยิ่งไปใหญ่ ขนาดคนญี่ปุ่นด้วยกันเองก็แทบแย่เหมือนกัน


Polish
Polish

อันดับ 4 Polish


ภาษาโปแลนด์ คือภาษาทางการของประเทศโปแลนด์ มีต้นกำเนิดมาจากพื้นที่ของโปแลนด์ ในปัจจุบันจากภาษาท้องถิ่นต่างๆ โดยเฉพาะที่พูดใน Greater Poland และ Lesser Poland ภาษาโปแลนด์เคยเป็นภาษากลาง ในพื้นที่ต่างๆ ของยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก เนื่องจากอิทธิพลทางการเมือง วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ และการทหารของเครือจักรภพโปแลนด์-ลิทัวเนีย ในปัจจุบันภาษาโปแลนด์ไม่ได้ใช้กันกว้างขวางเช่นนี้ เนื่องจากอิทธิพลของภาษารัสเซีย อย่างไรก็ดี ยังมีคนพูดหรือเข้าใจภาษาโปแลนด์ในพื้นที่ชายแดนทางตะวันตกของยูเครน เบลารุส และลิทัวเนีย เป็นภาษาที่สองและคนอพยพจากประเทศโปแลนด์ที่อาศัยในพื้นที่ในประเทศต่างๆ เช่น ฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อิสราเอล บราซิล แคนาดา สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น ส่วนความยากนักคงเป็นที่ตัวอักษรที่ยากต่อความเข้าใจและการนำไปใช้ที่ยุ่ง ยากพอสมควร


  Chinese
Chinese

อันดับ 3 Chinese

แน่ นอนว่าภาษาจีนเป็นอีกภาษาที่ยากที่สุดในโลก หากแต่กระนั้นมันมีความสำคัญต่อโลกเหมือนกันเพราะประชากรประมาณ 1/5 ของโลกพูดภาษาจีนแบบใดแบบหนึ่งเป็นภาษาแม่ ทำให้เป็นภาษาที่มีคนพูดเป็นภาษาแม่มากที่สุด (สำเนียงพูดที่ถือเป็นมาตรฐาน คือ สำเนียงปักกิ่ง ซึ่งอยู่ในกลุ่มภาษาแมนดาริน)และเป็นหนึ่งใน 6 ภาษาที่ใช้ในองค์การสหประชาชาติ (ร่วมกับ ภาษาอังกฤษ ภาษาอาหรับ ภาษาฝรั่งเศส ภาษารัสเซีย และภาษาสเปน) แน่นอนความยากของภาษาจีนนั้นก็คือออกเสียงยาก เขียนยากอีกทั้งมันมีหลายแบบ หลายสำเนียง เช่น จีนกลาง, จีนกวางตุ้ง แถมอักษรยังมีสองแบบคืออักษรจีนตัวเต็ม และ อักษรจีนตัวย่อ


Hungarian
Hungarian

อันดับ 2 Hungarian


ภาษา ฮังการีเป็นภาษากลุ่มฟินโน-อูกริกที่พูดในประเทศฮังการีและในประเทศเพื่อน บ้านคือ โรมาเนีย สโลวาเกีย ยูเครน เซอร์เบีย มอนเตเนโกร โครเอเชีย ออสเตรีย และสโลวีเนีย (ทั้งหมดเป็นประเทศที่ฮังการีได้สูญเสียดินแดนให้หลังสงครามโลกครั้งที่ 1) มีคนพูดภาษาฮังการีประมาณ 14.5 ล้านคน มี 10 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในฮังการี และมีชนพื้นเมืองฮังการี ประมาณ 1,434,377 คนที่อาศัยอยู่ในโรมาเนีย โดยมีประชากรชนกลุ่มน้อยมากที่สุดในพื้นที่ทรานซิลเวเนียของโรมาเนีย


Basque
Basque

อันดับ 1 Basque


ภาษา บาสก์เป็นภาษาที่พูดโดยชาวบาสก์ซึ่งอาศัยอยู่แถบเทือกเขาพีเรนีสในตอนกลาง ของภาคเหนือของประเทศสเปน รวมทั้งในบริเวณภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศสที่มีอาณาเขตติดต่อกัน หรือลึกลงไปกว่านั้นคือ ชาวบาสก์ได้ครอบครองแคว้นปกครองตนเองที่มีชื่อว่าแคว้นปกครองตนเองบาสก์ (Basque Country autonomous community) ซึ่งมีวัฒนธรรมและอิสระในการปกครองตนเองทางการเมือง นอกจากนี้ก็ยังมีชาวบาสก์ที่อยู่ในเขตนอร์เทิร์นบาสก์ในฝรั่งเศสและแคว้น ปกครองตนเองนาวาร์ในสเปนอีกด้วย ชื่อเรียกภาษาบาสก์อย่างเป็นทางการ (ในภาษาตนเอง) คือ เออุสการา (euskara) ส่วนในรูปภาษาถิ่นอื่น ๆ ได้แก่ เออุสเกรา (euskera) เอสกูอารา (eskuara) และ อุสการา (üskara) แม้ว่าในทางภูมิศาสตร์จะถูกล้อมรอบด้วยภาษาในตระกูลอินโด-ยูโรเปียน แต่ภาษาบาสก์กลับจัดเป็นภาษาโดดเดี่ยว (language isolate) ไม่ใช่ภาษาในตระกูลดังกล่าว

อ่านแล้ว .. ชอบมาก

มีผู้หญิงคนหนึ่งประสบอุบัติเหตุ
ทำให้ต้องตาบอดทั้งสองข้าง
และ เธอก็ทุกข์ทรมานกับการสูญเสียการมองเห็น

แต่สามีเธอก็พยายาม ปลอบใจ และให้กำลังใจเธอตลอด
พยายามสอนให้เธอใช้ ประสาทสัมผัสให้มากขึ้น

ที่ทำงานของเธอกับสามีอยู่คนละทาง
แต่เขาก็ขับรถไปส่ง และไปรับอยู่เสมอ

จนวันหนึ่งสามีเธอรู้สึกเหน็ดเหนื่อยมาก
เขาจึงพูดกับเธอว่าให้เธอ ลองพยายามขึ้นรถเมล์ไปทำงานเอง
โดยที่เขาไม่ต้องไปรับไปส่งได้ใหม

นาทีนั้น …..

เธอรู้สึกเหมือนโดดเดี่ยว และน้อยใจสามีเธอ
แต่เธอก็พยายามทำตามที่ เขาขอ
เธอพยายามขึ้นรถเมล์เอง พยายามไปทำงานด้วยตัวเอง

จนในที่สุดเธอก็สามารถทำได้
วันหนึ่งก่อนที่เธอจะลงรถไปทำงานตาม ปกติ
คนขับรถเมล์ก็เข้ามาจับแขนเธอและพูดกับเธอว่า

ผมช่างอิจฉาคุณผู้หญิงจริงๆ ครับ
เธอก็เลยถามว่า อิจฉาเธอเรื่องอะไร
คนขับรถเมล์ก็เลยบอกว่า

สามเดือนที่ผ่านมา

ผมจะเห็นสุภาพบุรุษคนหนึ่งเขาจะขึ้นรถเมล์ตอนเช้า
มานั่งตรงเบาะหลัง คุณ เฝ้ามองดูคุณด้วยความห่วงใย
และตามคุณลงรถไป
และเฝ้าดูคุณเดิน เข้าไปที่ทำงานอย่างห่วงใย
และตอนเย็นทุกๆเย็นเขาก็จะมาเฝ้ารอดูคุณขึ้น รถ
และคอยดูคุณจนคุณลงรถ

พอเธอได้ยินดังนั้น เธอก็นำตาไหลด้วยความตื้นตัน
เพราะตลอดเวลาที่ ผ่านมาเขาไม่เคยทิ้งเธอไปไหน

เขายังอยู่ดูแลเธออย่างใกล้ชิด
เขาเหนื่อยยิ่งกว่าตอนที่เขาต้องคอย มารับมาส่งเธอซะอีก

---------

หวังว่าทุกคนที่อ่านเรื่องนี้แล้ว
ช่วยกลับไปมองความรักของเราอีกที ว่า
ทุกวันนี้เรารักเขาหรือเธอแบบไหน
จงมองความรักด้วยความอ่อนโยน

----------

วันพรุ่งนี้ จะดี ร้าย ไม่สำคัญ
จงเก็บวันสุขสดใสในวันนี้
สร้าง พลังให้เข้มแข็งที่แรงมี
ขอวันนี้ เติมแรงใจ ให้แก่กัน

+++ Hamster +++

+++ Playlist +++


MusicPlaylistRingtones
Create a playlist at MixPod.com

+++ coming soon +++