ช่วง นี้กระแสรถยนต์ใหม่นั้นกำลังมาแรงหลังจากที่ ทุกค่ายรถยนต์ต่างเห็นทางสว่างในการทำกำไรเข้ากระเป๋า ทำให้ในช่วงนี้ที่ถือว่าเป็นโค้งสุดท้ายของบรรดารถยนต์ทุกกลุ่ม ต่างเร่งเครื่องเดินหน้าเต็มที่ หวังไล่บี้คู่แข่งเพื่อชิงความเป็นจ้าวตลาดในรถยนต์แต่ละกลุ่ม
แม้ทุกวันนี้รถยนต์ในประเทศไทยจะมีมากมายหลากหลายนับ 10 ยี่ห้อ ที่วิ่งกันเกลื่อบนถนน แต่ทว่าหากมองย้อนไปในตลาดรถยนต์ที่วางจำหน่ายตามโชว์รูม เมื่อเทียบกับบรรดารถยนต์รุ่นต่างๆในตลาดต่างประเทศ ยังถือว่าบ้านเรายังมีตัวเลือกลูกค้าที่น้อยมาก ซึ่งการมองตลาดทางด้านการบริโภคของคนไทยจากค่ายรถ บางครั้งก็ทำให้เราเสียโอกาส ที่จะมีรถยนต์รุ่นที่น่าสนใจมากกว่าที่ค่ายรถเหล่านี้หยิบยื่นมาให้เป็นตัว เลือก
Nissan Sentra
เมื่อพูดถึงรถยนต์รุ่นต่างๆ และในกระแสตอนนี้ที่ในกลุ่มเก๋งคอมแพ็คกำลังมาแรงพอสมควร ทำให้เรานึกถึงรถยนต์รุ่นหนึ่งจากค่าย Nissan ที่ในอดีตรถรุ่นนี้ก็เคยเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นในบ้านเราก่อนที่จะมีการยกเลิกการผลิตมาจำหน่ายไปเมื่อช่วงปี 2000
Nissan Sentra เป็นรถเก๋งคอมแพ็คที่ถือว่าเป็นจุดแข็งอีกรุ่นหนึ่งของค่ายรถยนต์ Nissan ที่ถือกำเนิดขึ้นมานานหลายรุ่นแล้ว และก็เคยติดอันดับได้รับความนิยมในประเทศไทยด้วย Nissan sentra โฉมปัจจุบันนั้นเป็นรถรุ่นที่เริ่มวางตลาดครั้งแรกเมื่อช่วงปี 2007 ในรหัสตัวถัง B16 ที่มาพร้อมรูปลักษณ์สไตล์โฉบเฉี่ยวออกแนวสปอร์ตตั้งแต่ใบหน้าจรดบั้นท้าย
เรื่องขุมพลัง Nissan sentra ในปัจจุบันถูกจัดวางให้มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รหัส MR20DE ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ร่วมพัฒนาระหว่างนิสสันและเรโนลต์ พันธมิตรจากแดนน้ำหอม ที่มาพร้อมกำลังกว่า 136 แรงม้า ซึ่งเพียงพอแล้วสำหรับรถยนต์ขนาดนี้
ไม่เพียงเท่านั้น Sentra ยังมีถูกปรับแต่งและจัดทำออกมาในเวอร์ชั่นพิเศษ SE-R Spec V ที่ถูกสลับสับเปลี่ยนขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร ในรหัส QR25DE เครื่องสปอร์ตพันธุ์แรงที่มีม้าให้ทะยานกว่า 200 แรงม้า มาพร้อมระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และในรุ่นธรรมดาจะเป็นเกียร์อัตโนมัติ CVT และเกียร์ธรรมดาให้เลือกตามใจชอบ
Mazda 6
แม้รถยนต์รุ่นที่เรากำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้มันจะเป็นรถเก๋งซีดาน ที่ถือว่าเป็นพี่เบิ้มของทางค่าย Mazda และ หลายครั้งหลายคราวเหมือนจะเปิดเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ทว่ามาจนถึงวันนี้มาสด้าก็ยังไม่มีแผนนำมันเข้ามาจำหน่าย นอกจากพูดกันเล่นๆว่า เมื่อเอา มาสด้า3มาจอดกัน 2 คัน มันก็จะกลายเป็นมาสด้า 6 (คิดได้ไง)
มาสด้า 6 เป็นรถยนต์นั่งในขนาดกลาง ที่ได้รับความนิยมอย่างมากจนนิตยสาร Popular Mechenic ของประเทศสหรัฐอเมริกา จัดให้รถยนต์รุ่นนี้ติดอันดับ Top pick หรือได้รับความนิยมในการเลือกซื้อไปใช้งานมากที่สุดนั่นเอง
ภายนอกมาสด้า 6 นับ ว่าเป็นรถยนต์รุ่นเดียวในกลุ่มที่ได้รับการออกแบบให้มันออกมาด้วยเส้นสายที่ ผสมผสานระหว่างความโฉบเฉี่ยว ความสปอร์ต และความทันสมัยที่เมื่อวิศวกรตีกรอบออกแบบมาให้มันเป็นคันจริงเพื่อการ จำหน่ายแล้ว กลับกลายเป็นว่า มันเป็นเก๋งซีดานที่ดูดีที่สุดในกลุ่มรถยนต์ประเภทนี้
ทางด้านสมรถนะมาสด้า 6 ก็ไม่ได้มีจุดอ่อนด้อยไปกว่ารถยนต์รุ่นอื่นในตลาด ยกเว้นเพียงตัวเลือกที่มีน้อยกว่าคู่แข้งกับเครื่องยนต์ใต้ฝากระโปรงแบบ 4 สูบแถวเรียงขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลัง 170 แรงม้า และ V6 3.7ลิตรให้พลัง 272 แรงม้า ที่มาพร้อมระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติสปอร์ตทรอนิคส์ 5 สปีด ถือว่าไม่ได้มีกำลังน้อยกว่ารถรุ่นอื่นๆในตลาดเลย
อย่างไรก็ดี ถึงแม้มาสด้าบ้านเราจะยังไม่มีแผนที่จะนำรถ มาสด้า 6 เข้า มาออกตัวจำหน่าย ซึ่งน่าจะให้ผลตอบรับดีพอสมควร หากนำเข้ามาจริง แต่ที่บริษัทแม่มาสด้าที่ตั้งอยู่แถวศูนย์สิริกิตินั้นก็มีรถ มาสด้า 6 เป็นรถผู้บริหาร และเราจะพบทุกครั้งที่ไปงานแถลงข่าวของค่ายนี้
Honda Crosstour
รถรุ่นนี้ท่าทางจะเป็นอะไรที่ยากมากๆ หากเข้ามาในประเทศไทยคงต้องมีไชโยโห่ร้องกันบ้าง แต่ทว่าที่ทางฝั่งอเมริกานั้นรถยนต์ที่เป็นลักษณะของรถเก๋งผสมผสานกับรถ SUV กำลังได้รับความนิยม และ Honda ก็เป็นรถยนต์จากแดนซามูไรเจ้าแรกที่กระโดดลงมาเล่นในตลาดกลุ่มนี้
Honda Crosstour อาจจะเป็นรถรุ่นที่ในประเทศไม่มีใครเคยได้ยินชื่อมาก่อน แต่ด้วยการออกแบบให้มันรถยนต์นั่งแวนครอสโอเวอร์ขนาดกลาง และเป็นรถรุ่นที่ 2 รองมาจาก BMW X6 ทำให้Crosstour ได้รับความสนใจจากคนจำนวนมาก
ภายนอก Crosstour แชร์โครงสร้างบางอย่างกับ Honda Accord แต่ทางด้านบั้นท้ายของรถนั้นถูกทำให้เป็นในลักษณะ Hatchback ทำ ให้มีการเปิดเก็บสัมภาระได้สะดวก โดยมีการออกแบบให้รถรุ่นนี้ค่อนข้างมีดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว สปอร์ต และบึกบึนมากกว่ารุ่นอื่นๆทำให้ลงตัวอย่างมาก
ด้านเครื่องยนต์ Crosstour มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตร พร้อมระบบ i-Vtec ให้กำลังสูงสุด 271 แรงม้า ขับเคลื่อนผ่านระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ grade Logic 5 สปีด ที่ทำงานพร้อมกับการขับเคลื่อนแบบ Real time 4 Wheel drive ให้รถมีสมรถนะการตะลุยมากยิ่งขึ้นยามต้องการ
ภายในห้องโดยสาร Crosstour นั้นถูกบวกด้วยสารพัดเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบาย ตั้งแต่ระบบแอร์อัตโนมัติแยกได้ ซ้าย-ขวา บลูทธ ช่องต่อ Usb และที่สำคัญยังจุสัมภาระได้เยอะกว่าในรุ่น Accord ซึ่งเมื่อพูดถึงราคา รถรุ่นนี้มีราคาขายอยู่ที่ 29,670 ดอลล่าร์ หรือ 919,700 บาท (ไม่รวมภาษีนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งหากเทียบกับราคา Accord ในรุ่น V6 3.5 แล้วถือว่าแพงขึ้นไม่มาก จึงเป็นน่าสนใจอย่างมากสำหรับชาวอเมริกา
นี่เป็นเพียงรถ 3 รุ่น ที่น่าสนใจในต่างประเทศ ซึ่งค่ายรถยนต์บ้านเรายังไม่มีแผนในการนำพวกมันเข้ามาทำตลาด อย่างไรก็ดี ไม่แน่ในอนาคตอาจจะมีความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น หลังจากที่ปีนี้ตลาดรถยนต์ส่อเค้าดีขึ้นและเริ่มมีอนาคตสดใส
ภาพประกอบจาก Wikipedia.com
Sanook Auto Comment
เป้นที่น่าเสียดายอย่างสำหรับรถยนต์บางรุ่น ที่คนไทยเราไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้สัมผัส ทั้งที่จริงก็มีความเป็นไปได้ที่จะทำยอดจำหน่ายได้ดี หากนำเข้ามาขาย แต่ทั้งนี้มันก็ขึ้นอยู่กับกึ๋นของค่ายรถยนต์ทั้งหลายด้วย ว่าเดินไปแนวทางไหน เพราะทุกวันตลาดเป็นของค่ายรถยนต์ ไม่ใช่ของผู้บริโภคเสียแล้ว