เวลานี้ต้องบอกว่า สังคมกำลังอุดมความเครียดอย่างเต็มพิกัด ซ้ายก็เครียด ขวาก็อึดอัด เดินหน้าไม่ดี ถอยหลังก็ไม่ได้ เป็นภาวะที่บีบคั้นหัวใจเป็นอย่างมาก
ดังนั้นในสภาวการณ์แบบนี้ หัวจิตหัวใจที่มั่นคง คือ พลังที่จะทำให้ผู้คนก้าวพ้นจากภาวะเช่นนี้ไปได้
พลังจากจิตที่แม้กระทั่งยอดอัจฉริยะอย่างไอสไตน์ยังเชื่อว่า มีพลังและมีอำนาจมากที่สุด แม้กระทั่งระเบิดปรมาณูที่เขาคิดค้นขึ้นยังสู้ไม่ได้ และจะดีแค่ไหน หากเรารู้จักที่จะใช้พลังอันทรงอานุภาพนี้มาช่วยสยบความร้อนรุ่ม และวิธีที่ว่านี้ต้องใช้เรื่องของการ ′ คิดบวก′ เข้ามาช่วย
แต่จะคิดบวกได้อย่างไร ลองดูวิธีเหล่านี้
′ทำสมาธิ′ ควรตั้งสติ และนั่งสมาธิให้ได้ทุกวัน วันละ 12 นาที เพื่อให้สมองเข้าสู่คลื่นผ่อนคลายสุด ๆ จะทำให้มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ เมื่อมีสมาธิ จิตที่คิดบวกจะเข้าไปกระตุ้นต่อมพิทูอิตารีให้หลั่งฮอร์โมนดีมีประโยชน์ต่อ ร่างกายได้อีกด้วย
′หายใจลึก′ สมองจะต้องใช้ ออกซิเจน ที่เข้าสู่ร่างกายมากถึง 20-25% หรือ 1 ใน 4 ของการใช้ออกซิเจนทั้งหมด การหายใจลึก ๆ ควรนั่งหลังตรง เพื่อให้ออกซิเจน เข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น จะ ช่วยส่งพลังไปถึงสมองได้ดียิ่งขึ้น
′ หัวเราะหรือยิ้มบ่อย ๆ′ จะช่วยไปกระตุ้นทำให้สารแห่งความสุขหลั่งออกมา ช่วยให้มองโลกแง่ดี เกิดความรักและหวังดีต่อผู้อื่น
′ บันทึกสิ่งดี ๆ′ ฝึกเขียนขอบคุณกับเรื่อง ราวดี ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน จะทำให้สมองคิดบวก จะช่วยทำให้นอนหลับ มี สมาธิ และมีความคิดสร้างสรรค์
วิธีเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างอัจฉริยะของ ′หนูดี′ วนิษา เรซ นำมาใช้
หรืออาจจะใช้วิธีดี ๆ ของพระอาจารย์ ′ว.วชิรเมธี′ แนะว่า ให้ใช้การ ′มองโลก′ อย่างเป็นจริง และ ′ ยอมรับ′ พร้อมกับเปลี่ยนมุมมองวิธีคิดให้ไม่ทำร้ายตัวเอง อย่างเช่น...
เวลาเจอ....ปัญหาซับซ้อน บอกตัวเองว่า นี่คือบทเรียนที่จะสร้างปัญญาได้อย่างวิเศษเวลาเจอ...ทุกข์หนัก...บอกตัวเองว่า นี่ คือแบบฝึกหัดที่จะช่วยสร้างทักษะในการดำเนินชีวิตเวลาเจอ...คนเลว บอกตัวเองว่า นี่ คือตัวอย่างของชีวิตที่ไม่พึงประสงค์เวลา เจอ...วิกฤต บอกตัวเองว่า นี่คือ บทพิสูจน์ว่า ในวิกฤตย่อมมีโอกาส ฯลฯและนี่คือโอกาสในวิกฤตที่จะได้ฝึกจิต คิดเป็นบวกเสียที