ราศี เมษ (21 มีนาคม - 19 เมษายน)
อาการปวดศีรษะและ โรคไมเกรน เป็นโรคที่ชาวเมษควรระวัง เพราะตามการเดินทางของดวงดาวจะมีอิทธิพลปกคลุมร่างกายส่วนศีรษะทั้งหมด ยิ่งประกอบกับความที่เป็นคนคิดมาก เครียดจัด ไม่ยอมทานอาหารตรงตามเวลา อาการปวดหัวจึงมักจะมาเยี่ยมเยียนอยู่เป็นประจำ
โรคหวัดและไซนัสอักเสบ ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาสุขภาพของชาวเมษ จึงควรดื่มน้ำหัวบีต แครอท และชาสมุนไพรคาโมมายล์เป็นประจำ
ราศี พฤษภ (20 เมษายน - 20 พฤษภาคม)
ด้วยความที่เป็นคน ทานเก่ง ชอบกินจุบจิบตลอดเวลาทำให้ปัญหาใหญ่เป็นเรื่องรูปร่าง ซึ่งพอคิดจะลดก็มักตบะแตก ไม่เคยสำเร็จสักที เพราะฉะนั้นจึงควรนำความมุ่งมั่น ความดันทุรังที่เป็นนิสัยพื้นฐานประจำตัว ก็นำมาปรับใช้ให้เป็นประโยชน์กับการลดน้ำหนัก ซึ่งถ้าทำได้เชื่อว่า คราวหน้าส่องกระจกคุณอาจจะตะลึงคิดว่านางฟ้าแปลงกายมาอยู่ตรงหน้า
ปัญหาเรื่องคอ เป็นอีกปัญหาสำคัญของชาวพฤษภ ยิ่งเมื่ออยู่ในที่เย็นหรือเกิดอาการเครียดจัดจะปวดเมื่อยตามคอได้ง่าย ซึ่งวิธีแก้คือใช้มือนวดเบาๆใต้ติ่งหู ต่อมไทรอยด์ทำงานไม่ปกติ ก็เป็นอีกโรคที่มักมาก่อกวนชาวราศีนี้ทำให้ระบบการเผาผลาญของร่างกายทำงาน ไม่ปกติ ควรทานปลาหรืออาหารที่มีไอโอดีนเยอะ ๆ
ราศี เมถุน (21 พฤษภาคม - 22 มิถุนายน)
ชาวราศีเมถุนมี จุดอ่อนอยู่ที่หลังและไหล่ ทำให้มักเกิดอาการตึงเส้นเอ็นบริเวณข้อมือบ่อยๆ ยิ่งถ้าต้องนั่งทำงานหรืออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ เพราะฉะนั้นจึงควรหาอุปกรณ์เสริม เช่น หาเบาะนิ่มๆมารองข้อมือเวลาใช้คอมพิวเตอร์ หรือเก้าอี้ที่นั่งสบายมีพนักตรงปรับระดับอย่างพอเหมาะกับโต๊ะทำงาน นอนไม่หลับ ถือเป็นโรคที่รุนแรงสำหรับชาวราศีนี้ เพราะไม่ใช่แค่หลับ ๆตื่นๆ แต่จะถึงขั้นตาค้าง สมองทำงานตลอดเวลา จนร่างกายทรุดโทรมอ่อนเพลีย
วิธีแก้คือลด ละ เลิก เครื่องดื่มกระตุ้นร่างกายทั้งหลาย โรคหลอดลมอักเสบ หวัดลงปอด หืด ปอดอักเสบ ถุงลมโป่งพองและโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอากาศบริสุทธิ์และการออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยสร้างเกราะป้องกันได้
ราศี กรกฎ (23 มิถุนายน - 22 กรกฎาคม)
อาการต่างๆ ก่อนมีประจำเดือน ไม่ว่าจะเป็นปวดท้อง อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย เป็นโรคที่มักเกิดกับชาวกรกฎ ด้วยสาเหตุที่ดาวเคราะห์ประจำราศีเป็นดวงจันทร์ และร่างกายมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง ส่งผลให้หน้าอก เต้านมและต่อมน้ำนมมักเกิดอาการผิดปกติ จึงควรทานวิตามินและอาหารเสริมเป็นประจำ
อีกทั้งโรคกระเพาะ ลำไส้อักเสบและโรคที่เกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร จึงควรใส่ใจในพฤติกรรมการทานให้มาก
ราศี สิงห์ (23 กรกฎาคม-22 สิงหาคม)
ปวดเมื่อยตามกล้าม เนื้อหลังและส่วนต่างๆ ของร่างกาย เนื่องจากนิสัยดื้อรั้น ชอบทำทุกอย่างด้วยตนเอง ไม่ยอมยืดหยุ่น ทำให้ร่างกายเมื่อยล้าและเคล็ดขัดยอกอยู่บ่อยๆ
ชาวราศีสิงห์มักมีน้ำหนักตัวมากเกินพอดี เพราะพอเครียดก็มักระบายออกกับมันฝรั่ง ไอศกรีม หรือขนมหวานทั้งหลาย ทำให้เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือดตีบ ซึ่งหากยังเลิกการทานเพื่อระบายความเครียดไม่ได้ควรเปลี่ยนมาทานผัก ผลไม้ หรือมันฝรั่งทอดปราศจากเกลือและไขมันต่ำแทน
ราศี กันย์ (23 สิงหาคม-20 กันยายน)
ด้วยความที่เป็นคน ร่าเริง ชอบทำกิจกรรม ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ ทำให้โรคต่างไม่ค่อยมารุมเร้ากวนใจคุณมากนัก
แต่สำหรับโรคนอนไม่หลับถือเป็นกรณียกเว้น คุณมักจะตื่นกลางดึกแล้วนอนไม่หลับอยู่บ่อยๆ ลองอาบน้ำอุ่นจัดก่อนนอน หลีกเลี่ยงอาหารมื้อหนักหลังสี่โมงเย็น หรือดื่มนมและน้ำผึ้งอุ่นๆ ก่อนนอน
ราศี ตุลย์ (21 กันยายน-22 ตุลาคม)
จากนิสัยที่คุณเป็น คนชอบทานของหวานและอาหารมันๆ เป็นประจำแต่ไม่ยอมออกกำลังกาย ส่งผลให้ไตทำงานหนักมากกว่าปกติ จึงควรดูแลไตเป็นพิเศษ โดยดื่มน้ำวันละ6-8แก้ว หลีกเลี่ยงอาหารพวกเนื้อ ปลา เป็ด ไก่ แล้วแทนที่ด้วยผักผลไม้สีเขียวและสีเหลือง รับรองถ้าทำตามไตคุณจะยิ้มระรื่นเลยทีเดียว
เนื่องจากผิวหนัง และไตของชาวราศีนี้อยู่ใต้อิทธิพลของดาวศุกร์ จึงมักส่งผลให้ไขมันและส่วนเกินที่ถูกขับออกมาจากไตถูกปลดปล่อยทางร่างกาย ผิวหนังเป็นเหงื่อและสิว การดูแลใบหน้าให้สะอาดจึงเป็นสิ่งที่ชาวตุลควรใส่ใจให้มากเป็นพิเศษ
ราศี พิจิก (23 ตุลาคม-22 พฤศจิกายน)
ชาวราศีพิจิกมี นิสัยชอบกลั้นการขับถ่ายๆ ไว้นานๆ แถมยังชอบอาหารที่มีไขมันสูง แบบที่เห็นเป็นไม่ได้ต้องวิ่งเข้าหาทันที ทำให้โรคท้องผูกมักมาเยือนบ่อยๆ จนบางครั้งอาจเรื้อรั้งไปถึงริดสีดวงทวาร ทางที่ดีควรปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวัน และทำระบบขับถ่ายให้เป็นกิจวัตร
ราศี ธนู (23 พฤศจิกายน-20 ธันวาคม)
ด้วยความที่เป็น คนทุ่มเทเต็มที่กับเรื่องกิน เรื่องดื่มเป็นพิเศษ ทำให้ชาวราศีนี้มีโอกาสเป็นโรคตับอักเสบ โรคตับแข็งและโรคพิษสุราเรื้อรังมากกว่าชาวราศีอื่น เพราะฉะนั้นเลิกดื่มซะเถอะ
ราศีธนูหมายถึงร่างกายส่วนตับและถุงน้ำดี ทำให้ชาวราศีธนูมีโอกาสเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีสูง ซึ่งโรคนี้มักทำให้คุณเกิดอาการปวดท้องประมาณ 15 นาทีถึง 1 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหารเสร็จ ถ้าอยากให้อาการดีขึ้นลองทานอาหารประเภทโปรตีน คาร์โบไฮเดรต หรือวิตามินเสริมที่ช่วยให้เกิดการดูดย่อยไขมันได้ดี
ราศี มังกร (21 ธันวาคม - 19 มกราคม)
ลักษณะและบุคลิก ที่ดูก้าวร้าวของคนราศีนี้ มักส่งผลมาจากลักษณะทางกายภาพของส่วนกระดูกและข้อต่อที่ไม่ค่อยมีความ ยืดหยุ่น ทำให้เมื่อยิ่งแก่ตัว หรือเริ่มเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของชีวิต จะเป็นโรคเกี่ยวกับข้อต่อและกระดูก ทางที่ดีควรบริโภคแคลเซียม วิตามินดีและออกกำลังกายเป็นประจำ แต่จะให้เจ๋งกว่าควรรีบทำก่อนอายุ 35 ไม่งั้นจะสายเกินแก้
โรคข้ออักเสบ เป็นโรคที่ก่อให้เกิดความอ่อนเพลีย ทรมานและเจ็บปวดมากที่สุดโรคหนึ่งสำหรับชาวราศีมังกร เพราะไม่สามารถรักษาได้โดยตรง ทำได้เพียงให้ยาลดอักเสบและบวมตามข้อเท่านั้น ดังนั้นการเลือกอาหารบริโภค ฝึกโยคะ ทำสมาธิ สร้างจินตนาการจะเป็นตัวช่วยในการบรรเทาปวดอีกวิธีที่ยอดเยี่ยมทีเดียว
ราศี กุมภ์ (20 มกราคม - 18 กุมภาพันธ์)
โรคข้อเท้าบวม ข้อเท้าเคล็ด หลอดเลือด (ดำ) ขอด จากทิศทางของดวงดาวทำให้ชาวราศีกุมภ์ มักมีอาการบวมที่ข้อเท้า หรือบริเวณต่ำกว่าหัวเข่าลงมา
ดังนั้นจึงควรนวดขาทุกวัน ตั้งแต่นิ้วเท้าจนถึงต้นขาด้วยน้ำมันวิตามินอี หรือน้ำมันหอมระเหยมะนาวผสมกับลาเวนเดอร์ เพื่อบริหารให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
ราศี มีน (19 กุมภาพันธ์ - 20 มีนาคม)
ชาวราศีมีนมัก มีระบบต่อมน้ำเหลืองทำหน้าที่หลักในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้มีโอกาสเป็นโรคเกี่ยวกับระบบต่อมน้ำเหลือง ได้มาก แต่ทางแก้ไม่ยาก แค่ดื่มน้ำ สมุนไพร ชาและเครื่องดื่มบำรุงร่างกาย จากการที่โหมงานหนัก ชอบคิดมากในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ทำให้ชาวราศีมีนจะรู้สึกเหนื่อยอ่อนและเวียนศีรษะอยู่บ่อยๆซึ่งเป็นส่วน หนึ่งของภาวะเลือดจางและขาดธาตุเหล็ก แต่เพียงแค่รับประทานอาหารทดแทนธาตุเหล็ก เสริมสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงก็จะบำบัดได้มาก