วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

โคลนมาสก์หน้า ดียังไง

ผิวเราในแต่ละวันต้องเผชิญกับมลภาวะมากมาย ทั้งฝุ่นควัน ฝุ่นละออง และคราบไขมันที่ขับออกมาตามธรรมชาติของผิว แม้จะเป็นเรื่องปกติ แต่หากเราทำความสะอาดไม่ดีพอ คราบเหล่านี้จะสะสมและก่อให้เกิดแบคทีเรีย เป็นสาเหตุของสิว หรือการระคายเคืองในรูปแบบต่างๆ ได้

โคลนมาสก์หน้าเป็นเครื่องสำอางธรรมชาติที่เป็นที่นิยมชนิดหนึ่ง ในการนำมาดีท็อกซ์คราบสกปรกบนใบหน้า เพราะมีคุณสมบัติในการดูดซับ และถูกชำระล้างผ่านการล้างออกไปในที่สุด โคลนที่นำมาใช้บ่อยๆ ในวงการเครื่องสำอาง นั่นคือโคลนคาโอลิน (Kaolin) หรือโคลนขาว (คล้ายดินสอพองในบ้านเรา) ที่เหมาะกับผิวทุกสภาพผิว รวมทั้งผิวแพ้ง่าย นอกจากนี้ยังมีโคลนไชน่า ที่จัดว่าเป็นโคลนที่มีความอ่อนโยนมากที่สุดในบรรดาโคลนพอกหน้าทั้งหลาย ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเช่นกัน

คุณสมบัติที่น่าสนใจของโคลนก็คือ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนภายใน เป็นตัวช่วยในการดูดซับน้ำมัน และสิ่งสกปรกบนผิวชั้นนอกให้ออกไปได้อย่างอ่อนโยน บางครั้งที่เราจะรู้สึกได้ว่า ผิวรู้สึกเหมือนเต้นได้ หรือเหมือนโคลนกำลังดูดอะไรอยู่ นั่นคือการทำงานตามปกติของโคลน ที่จะแห้งตัวลงพร้อมกับดูดซับสิ่งรอบตัวเข้าไปในตัวเอง (คล้ายฟองน้ำ) ไขมันบนชั้นผิวที่ไม่ต้องการจึงถูกดูดซับด้วยเหตุนี้ หลังล้างออกจึงพบว่า ผิวหน้าสะอาด ดูเรียบเนียน และรูขุมขนดูกระชับมากขึ้นจากการบีบรัดรูขุมขนให้หดเล็กลงขณะที่โคลนแห้งตัว

เพราะฉะนั้น จึงกล่าวได้ว่า โคลนมาสก์หน้ามีประโยชน์สองทิศทาง นั่นคือการให้คุณค่าแร่ธาตุและส่วนผสมธรรมชาติอื่นๆ (เช่นในมาสก์นั้นๆ มีสมุนไพรอื่นๆ ผสมอยู่ด้วย) ลงสู่ผิว ในทางตรงกันข้ามก็คือ การดูดคราบสกปรกหรือดีท็อกซ์ผิวไปด้วยในตัว ผิวจึงรู้สึกดีหลังมาสก์

โคลนกับข้อสงสัย
สำหรับคนผิวมัน โคลนมีข้อดีในการดูดซับความมันออกไปอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยลดปัญหาสิวได้ ส่วนคนผิวแห้ง มีการกล่าวถึงไม่น้อย ว่าไม่เหมาะกับคนผิวแห้ง และอาจทำให้ผิวแห้งขึ้น ซึ่งข้อเท็จจริงก็คือ โคลนทำงานเฉพาะผิวชั้นนอก ในขณะที่ปัญหาของผิวแห้งคือต่อมไขมันผลิตไขมันน้อยกว่าปกติ และผิวเก็บกักความชุ่มชื่นได้ไม่ดีพอ แต่โคลนไม่สามารถลงลึกไปดูดซับได้ถึงผิวชั้นใน จึงไม่อาจกล่าวได้ว่าผิวแห้งไม่เหมาะกับโคลน ในทางตรงกัน โคลนสามารถกระตุ้นการไหลเวียนผิวชั้นนอกได้เป้นอย่างดี นอกเหนือจากการดูดซับสิ่งที่ผิวขจัดออกมา โคลนจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการดีท็อกซ์ผิวไม่น้อย ซึ่งเหมาะกับทุกสภาพผิวรวมทั้งผิวแพ้ง่าย (แต่เน้นว่าควรเป็นเครื่องสำอางที่เป็นสูตรธรรมชาติ และใช้โคลนและสารสกัดอื่นๆ ที่มีคุณภาพด้วย)

น้ำผึ้ง แก้สิว ผิวก็สวย

มหัศจรรย์ธรรมชาติจริงๆ ที่น้ำหวานๆ แสนอร่อยจากผึ้งยังสามารถดูแลผิวให้สวยใส ไร้สิวได้ด้วย นี่ล่ะคุณสมบัติจากธรรมชาติ ที่เราคาดไม่ถึงทีเดียว

น้ำผึ้งเป็นสมุนไพรไทยอย่างหนึ่งที่เราเอาใช้ประโยชน์เรื่องผิวพรรณได้ ด้วยนะ ไม่ว่าจะนำมามาสก์หน้า หรือเอาไปผสมกับผลไม้อื่นๆ แล้วนำมามาสก์หน้า หลังล้างออกเราจะพบได้เลยว่าหน้านุ่ม ชุ่มชื่น นั่นเพราะมีแร่ธาตุ และวิตามินมากมายที่ดีกับผิว แถมยังใช้ได้กับทุกสภาพผิวทีเดียว

ดูแลสิว ผิวใส
สาวๆ ยุคก่อนนำน้ำผึ้งมาใช้ทั้งกินทั้งทา เพราะดีทั้งต่อสุขภาพและผิวพรรณ แต่สิ่งที่สาวโบราณอาจจะยังไม่รู้ ว่าทำไมนะ หลังการมาสก์หน้าด้วยน้ำผึ้งนั้น ผิวถึงได้ใส นุ่ม และยังไม่มีสิวมากวนใจด้วย เรื่องของเรื่องก็คือ ในน้ำผึ้งมีแร่ธาตุ เอนไซม์ และวิตามินมากมายที่มากับเกสรดอกไม้ ไม่ว่า แร่ธาตุแคลเซียม แมกนีเซียม โปตัสเซียม ฟอสฟอรัส หรือวิตามินไรโบเฟลวิน หรือไนอะซิน นอกจากนี้ยังมีกรดอ่อนๆ ที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าออกไป ทำให้ผิวใสขึ้น

ที่สำคัญ ในน้ำผึ้งยังมีสารตัวหนึ่งที่ช่วยทำลายแบคทีเรีย สาเหตุหนึ่งของปัญหาสิวได้ด้วย นั่นคือไปสร้างเอนไซม์ที่ทำให้เกิดสารไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์ อย่างอ่อนๆ ซึ่งจะปล่อยออกซิเจนและน้ำออกมา ผลก็คือทำให้แบคทีเรียไม่สามารถเติบโตได้นั่นเอง สิวจึงค่อยๆ ยุบตัวลงตามธรรมชาติ โดยที่ไม่ทำให้ผิวอักเสบ แถมยังได้อาหารผิวซึมซาบลงสู่ผิวพร้อมกันไปด้วย

สูตรสวยด้วยน้ำผึ้ง
1.น้ำผึ้ง + มะขาม
สูตรขาวใส แบบธรรมชาติจริงๆ แค่นำมะขามเปียกมามาบดด้วยช้อนให้ละเอียด แล้วเติมน้ำผึ้งลงไปในสัดส่วน 1:2 (ถ้าผิวแพ้ง่ายควรทดสอบก่อน เพราะอาจแพ้กรดผลไม้ได้) หรือในสัดส่วนที่เหมาะกับผิวของเรา (ยิ่งบอบบางยิ่งให้น้ำผึ้งมีมากกว่า) ผสมให้เข้ากัน แล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้สัก 5 นาที จากนั้นล้างออก ผิวจะหอม ขาวใส นุ่มนวล

2.น้ำผึ้ง + กล้วย
สูตรนี้ช่วยเรื่องสิวได้ดี และยังนุ่มน่าจับ แค่นำกล้วยน้ำว้าสุกบดผสมกับน้ำผึ้งในสัดส่วน 2:1 จากนั้นนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 5 - 10 นาที แล้วล้างออก

3.น้ำผึ้ง + แตงกวา
สูตรนี้ให้นำแตงกวา 1 ลูกมาคั้นเอาแต่น้ำ จากนั้นผสมกับน้ำผึ้ง 2 ช้อนชาแล้วทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้สัก 5 - 10 นาที แล้วล้างออก ตามด้วยการบำรุงด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ สามารถทำเป็นโทนเนอร์เช็ดหน้าได้ทุกวัน

แต่หากสาวๆคนไหน มองว่ายุ่งยากในการตระเตรียม เอาเป็นว่าใครอยากมีผิวใสๆ ก็ลองมองหาสารสกัดจากธรรมชาติอย่างน้ำผึ้งเป็นส่วนผสมหนึ่งในเครื่องสำอาง ผิวเราจะได้ลดการพึ่งสารเคมี และยังเป็นทางลัดของปัญหาสิวได้อีกด้วย

เคล็ดลับดีๆ สำหรับแต่งกายให้เข้ากับรูปร่าง

สาวๆ ทั้งหลายที่เคยกลุ้มอกกลุ้มใจเรื่องรูปร่างของตัวเองคงหมดห่วงกันแล้ว เพราะเรามีเคล็ดลับวิธีแต่งกายให้เข้ากับหุ่นของคุณ เพื่อที่คุณจะได้ดูสวย ดูดีได้ ไม่ว่าจะมีรูปร่างทรวดทรงอย่างไร เพียงแค่รู้จักแต่งรู้จักเสริม รู้จักเน้นความสำคัญให้ถูกจุด วิธีง่ายๆ ที่จะเลือกสไตล์เสื้อผ้าให้เหมาะกับรูปร่างมีดังนี้ค่ะ


สาวหุ่นสามเหลี่ยมเหมือนโคนไอศกรีม (Cornet) สาวหุ่นแบบนี้เหมือนเป็นผู้หญิงที่ยังโตไม่เต็มวัย เพราะสรีระคุณเธอเหมือนเด็กสาววัยแรกรุ่นหรือทอมบอย ที่จะมีไหล่ค่อนข้างกว้าง แต่สะโพกจะแคบ ไม่มีก้น ดังนั้นเสื้อผ้าที่ใส่แล้วจะดูสวยควรเป็นกางเกงขาเดฟหรือขากระบอกเพื่อโชว์ ส่วนล่างหรือสะโพก หรือจะเลือกเป็นเดรสแขนกุด แขนสั้น ความยาวชุดเลยเข่าก็ทำให้คุณดูดีทีเดียว


สาวหุ่นเข็มหมุด (Lollipop) สาวหุ่นแบบนี้ถือเป็นสุดยอดหุ่นที่สาวๆ รุ่นใหม่ใฝ่ฝันที่จะมี เพราะนั่นหมายถึงว่าคุณเธอจะใส่เสื้อผ้าได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเอวสั้น เอวลอย ขาสั้น ขายาว เดรสสั้น เดรสยาว เธอสามารถใส่ได้หมด แถมใส่ได้สวยสุดๆ และเพื่อเป็นการเสริมความสนใจมากยิ่งขึ้นก็คือการเลือกเสื้อหรือเดรสที่มุ่ง จุดสนใจไปที่หน้าอกจะเป็นการเพิ่มเสน่ห์ได้เป็นอย่างดี บวกด้วยการหารองเท้าส้นเข็มสวยๆ อีกสักคู่ เริ่ดค่ะเริ่ด


สาวหุ่นระฆัง (Bell) สาวๆ คนไหนที่เกิดมีหุ่นแบบนี้แล้วทำเอากลุ้มใจ เพราะช่วงเอวที่หนาและสะโพกที่กว้างจนดูเหมือนมีห่วงยางประจำตัวที่ไปไหนมา ไหนด้วยตลอดเวลา แต่ใช่ว่าจะไม่มีทางแก้ให้กลับมาดูดี ดูสวยเหมือนใครเขา เพียงแค่เลือกเสื้อผ้าสีเข้มๆ เข้าไว้ จะเป็นเดรสหรือกระโปรงทรงไหนก็ไม่ว่ากัน เพียงแต่ว่าต้องหาตัวที่ไม่เข้ารูปเท่านั้นมาใส่คุณก็สามารถเฉิดฉายได้ไม่ อายใครเรื่องห่วงยางอีกต่อไป


สาวหุ่นช่วงแก้วไวน์ (Globlet) สาวช่วงบน (หน้าอก) ใหญ่แบบนี้ไม่ต้องเสียความมั่นใจไป เพราะการมีหน้าอกที่ใหญ่แบบนี้ถือเป็นจุดเด่นที่สาวอกไข่ดาวเป็นต้องอิจฉา แต่กระนั้นไม่ต้องหนักอกหนักใจไป เพราะเพียงแค่คุณสาวๆ หาเสื้อคอวีลึกสักครึ่งอก กับกระโปรงเหนือเข่า รองเท้าส้นสูงมาช่วยขับเรียวขาเรียวงามของคุณ เท่านี้คุณก็งามเลิศไม่แพ้ใครในปฐพีแล้ว


สาวหุ่นเชลโล่ (Cello) ใครนึกไม่ออกว่าสาวหุ่นนี้ เธอมีจุดบกพร่องตรงไหน ก็ลองนึกถึงเครื่องดนตรีประเภทสีอย่างไวโอลินก็ได้ เพราะเชลโล่เขาก็อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ดังนั้นสาวหุ่นนี้จึงมีช่วงสะโพกใหญ่นั่นเอง และเพื่อเป็นการพรางสะโพกดินระเบิดให้อยู่หมัดก็แค่หากระโปรงเข้ารูปที่มี การเย็บครึ่งสะโพก กับการหาเสื้อที่เน้นช่วงบนให้เป็นจุดเด่นอย่างเสื้อคอวีก็ทำให้คุณดีมี เสน่ห์ต่อสายตาคนรอบตัวแล้ว


สาวหุ่นก้อนอิฐ (Brick) ประเด็นในการแก้รูปร่างที่ตรงทื่อ เอวหาย ไหล่กว้างเหมือนนักกีฬาว่ายน้ำก็ไม่ปานของสาวๆ เหล่านี้คือ การหาเสื้อเข้ารูป กระโปรงพลีต หรือชุดเดรสที่มีการจับจีบช่วงสะโพกและมีการปล่อยชายเป็นหางปลาก็ทำให้คุณดู สวยสะดุดตาแล้ว เพิ่มเติมด้วยการนำรองเท้าส้นสูงสวยๆ สักคู่หนึ่งก็เป๊ค่ะเป๊ะ



คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราก็สามารถเลือกที่จะเป็น จะสวยได้ไม่อายใครด้วยการรู้จักนำโน่น นั่น นี่ มามิกซ์แอนด์แม็ตช์ค่ะ

วิกฤตขาดเลือด สภากาชาติไทยเร่งขอบริจาคเลือดสำรอง

วิกฤตขาดเลือด สภากาชาติไทยสภากาชาติไทยกำลังประสบปัญหาวิกฤตขาดเลือดสำรองทุกกรุ๊ป เพราะมีการใช้เลือดมาก และคนบริจากเลือดลดน้อยลง ยอดการบริจากวันละไม่ถึง 1,000 ยูนิตรพ.จุฬา 17 พ.ค. - เลขาธิการสภากาชาดไทย เผยยอดบริจาคโลหิต สภากาชาดไทย ต่ำกว่าเป้าครึ่งหนึ่งจากเหตุผู้บริจาคเดินทางลำบาก แต่ต้องเตรียมความพร้อมโลหิตสำรองไว้ในสถานการณ์ปัจจุบัน จึงปรับจุดรับบริจาค

นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เดินทางมายังโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. เพื่อสอบถามถึงความพร้อมของเจ้าหน้าที่และตรวจสอบว่าขาดเหลือสิ่งใด สำหรับทีมแพทย์ และ พยาบาล ในการปฏิบัติหน้าที่ และยังกล่าวอีกว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นห่วงการทำงานของเจ้าหน้าที่ และวันนี้จะมีผู้แทนพระองค์นำเครื่องทำน้ำแข็งมามอบให้ที่โรงพยาบาล ทั้งนี้สภากาชาดไทย ต้องเตรียมความพร้อมโลหิตสำรองไว้ในสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะโลหิตต้องใช้ทุกวันเป็นปกติ แต่ก็ยังต้องการจำนวนโลหิตต่อเนื่อง เพื่อสำรองไว้ใช้ แต่การเดินทางมาบริจาคโลหิตยังสภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์ เป็นไปด้วยความลำบาก และประชาชนอาจไม่รู้สึกปลอดภัย ทางสภากาชาดไทยจึงกระจายจุดรับบริจาคไปยังห้างสรรพสินค้า

ด้านนาวาโทหญิง พญ.อุบลวัณณ์ จรูญเรืองฤทธิ์ รองผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ในช่วงเวลาปกติ สภากาชาดไทย จำเป็นต้องหาโลหิตให้ได้วันละ 1,500 ยูนิต แต่เมื่อวานนี้ (16 พ.ค.) มียอดบริจาคโลหิต 870 ยูนิต ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเป้าครึ่งหนึ่ง เนื่องจากผู้บริจาคโลหิตไม่สามารถเดินทางเข้ามาบริจาคได้ ที่สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์ สภากาชาดไทยจึงกระจายจุดรับบริจาคโลหิตไปยังห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ดังนี้

ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาแจ้งวัฒนะ หน้าโรงภาพยนตร์ ชั้น 7 เวลา 11.00-15.30 น.,

สาขาบางนา รถเคลื่อนที่ จอดหน้าร้านเคเอฟซี เวลา 11.00-15.30 น.,

สาขาพระราม 2 ที่ห้องโถงลิฟแก้วชั้น G เวลา 11.00-15.30 น.,

ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขารามคำแหง ชั้น 3 ฝั่ง มอลล์3 เวลา 11.00-15.30 น.,

สาขาท่าพระ ที่ศูนย์ฝึกอบรมชั้น7 เวลา 11.30-15.30 น.,

สาขาบางแค ที่ห้องรับบริจาคโลหิตชั้น P เวลา 12.00-18.00 น.,

ห้างท๊อปมาร์เก็ต อุดมสุข รถเคลื่อนที่จอดหน้าหน้า เวลา 11.30-15.30 น.,

ห้างสรรพสินค้าโรงบินสัน รัตนาธิเบศร์ รถเคลื่อนที่จอดหน้าห้าง เวลา 11.30-15.30 น.,

และ บริษัท ทีวีไดเรค ซอยวัชระพล เวลา 9.00-15.00 น.

นอกจากนี้ยังสามารถ โทรศัพท์สอบถามได้ที่หมายเลข 02-2564300

แวมไพร์ ทไวไลท์ 3

แวมไพร์ ทไวไลท์ 3

The Twilight  saga eclipse

The Twilight saga: eclipse แวมไพร์ ทไวไลท์ 3 อิคลิปส์

The Twilight  saga eclipse

The Twilight saga: eclipse แวมไพร์ ทไวไลท์ 3 อิคลิปส์

The Twilight  saga eclipse

The Twilight saga: eclipse แวมไพร์ ทไวไลท์ 3 อิคลิปส์

The Twilight  saga eclipse

The Twilight saga: eclipse แวมไพร์ ทไวไลท์ 3 อิคลิปส์

The Twilight  saga eclipse

The Twilight saga: eclipse แวมไพร์ ทไวไลท์ 3 อิคลิปส์

The Twilight  saga eclipse

The Twilight saga: eclipse แวมไพร์ ทไวไลท์ 3 อิคลิปส์



เดวิด สเลด เนรมิตฉากแอ็คชั่นสุดมันส์ ใน The Twilight saga: eclipse แวมไพร์ ทไวไลท์ 3 อิคลิปส์ (มงคลเมเจอร์)

เพราะภาคใหม่ของหนังทำเงินอย่าง Twilight กับ The Twilight saga : eclipse : แวมไพร์ ทไวไลท์ 3 อิคลิปส์ ถือเป็นภาคที่มีความเข้มข้นถึงขีดสุด มากกว่าทั้งสองภาคที่ผ่านมา ทางผู้สร้างจึงยอมทุ่มทุนสร้างถึง 2300 ล้านบาทในการเนรมิตฉากแอคชั่นระหว่างแวมไพร์และทีมหมาป่าขึ้นมา โดย เรื่องราวในภาคนี้ใกล้ถึงจุดคลี่คลายระหว่างเรื่องราวรัก 3 เส้าของ เบลล่า เอ็ดเวิร์ดหรือเจคอบ รวมไปถึงศึกรอบด้านที่ต้องผจญทั้งจากกลุ่มโวลตูรี ที่ต้องการตรวจสอบว่าเบลล่าได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้หรือไม่ รวมถึงกองทัพแวมไพร์เกิดใหม่โดย วิคตอเรีย ที่มาตามล้างแค้นให้เจมส์คนรักที่ถูกเอ็ดเวิร์ดฆ่า ด้วยการตามล่าเบลล่า ด้วยความยิ่งใหญ่และความยากของแต่ละฉากที่จะต้องถ่ายทำ ทีมงานจึงต้องเฟ้นหาผู้กำกับคนใหม่ที่เหมาะจะมากำกับเรื่องนี้ ในที่สุดการกำกับเรื่องนี้ก็ตกไปอยู่ในมือของผู้กำกับมากฝีมือ อย่าง เดวิด สเลด ผู้กำกับหนังแวมไพร์เลือดสาด 30 Days of Night จากความคุ้นเคยกับหนังแวมไพร์ รวมถึงประสบกาณ์ในการถ่ายทอดฉากแอ็คชั่น จึงทำให้เป็นผู้กำกับที่ลงตัวที่สุดกับภาคนี้ ภาคนี้จึงเป็นภาคที่คนดูจะได้ตื่นเต้นกับความแปลกใหม่ของฉากแอ็คชั่น ที่เป็นจุดเด่นของภาคนี้ ผสมผสานอย่างลงตัวกับเรื่องราวความรักที่เป็นแก่นของเรื่องมาตลอด

เดวิด สเลด ก็ได้เล่าถึงการเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้กำกับว่า " ผมชอบสิ่งที่ Twilight ทั้งสองภาคได้นำเสนอ แต่ขอบอกตามตรงว่ามันยังไม่ใช่แนวทางของผม จนในที่สุดผมก็คิดว่าตัวเองเหมาะสมที่สุดแล้ว เมื่อเรื่องราวเดินทางมาถึง Eclipse ซึ่งผมคิดว่ามีความอึมครึมจนมืดหม่นยิ่งกว่าที่ผ่านมา ผมมั่นใจว่าพวกหนุ่ม ๆ คงจะชอบความตื่นเต้นลุ้นระทึกของฉากสงครามแวมไพร์ ในขณะเดียวกันเรื่องราวรักโรแมนติกหวานๆ ก็ยังคงอยู่ นี่คือภาพยนตร์ที่ผมทุ่มทั้งแรงกายและแรงใจไปมากที่สุดแล้ว"

"เทพบุตรแวมไพร์" และ "นักรบหมาป่า" สองเผ่าพันธุ์ จะผนึกกำลังคุ้มครองหนึ่งหัวใจ การต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งทไวไลท์กำลังจะระอุ

เปลี่ยนรัตติกาลให้เป็นปรากฏการณ์ 1 กรกฎาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

อาหารอารมณ์ดี


ปกติคนที่ซึมเศร้าอาจต้องไปพบจิตแพทย์ แต่งานวิจัยชั้นนำหลายชิ้นชี้ว่า อาหาร เช่น ปลาทะเลน้ำลึก กล้วย องุ่น ช่วยแก้ความหม่นหมองได้ อาหาร 7 อันดับ ที่กินแล้วช่วยให้อารมณ์ดี

1. "ปลาทะเลน้ำลึก" ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมทะเลมักจะดู มีความสุขมากกว่าคนที่อาศัยลึกเข้ามาในแผ่นดิน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะอากาศทะเลที่สดชื่นช่วยให้จิตใจปลอดโปร่ง แต่อีกส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะชาวบ้านกลุ่มนี้ได้บริโภคปลาทะเลน้ำลึกจำนวนมาก งานวิจัยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา พบว่า กรดโอเมก้า 3 ในปลาทะเลน้ำลึก ทำหน้าที่เสมือนยาแก้อาการซึมเศร้า ช่วยให้ประสาทสงบและเพิ่มการหลั่งของสารเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์ดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้น สำหรับปลาทะเลน้ำลึก ได้แก่ แซลมอน เฮอร์ริ่ง แม็กเคอเรล ทูน่า ฯลฯ

2. "กล้วย" ผู้ที่มีอาการซึมเศร้าหลายคนรู้สึกดีขึ้นเมื่อกินกล้วย เพราะกล้วยมีส่วนประกอบทริปโตฟาน (Tryptophan) โปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายจะเปลี่ยนให้เป็น เซโรโทนิน นอกจากนี้ กล้วยยังมีส่วนประกอบของวิตามินบี 6 ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ซึ่งมีผลไปถึงอารมณ์ ผู้หญิงที่มีอาการ PMS (Premenstrual Syndrome) หรือช่วงอารมณ์ไม่ดีก่อนมีประจำเดือนควรกินกล้วยจะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น

3. "องุ่น" อุดมด้วยวิตามินซี ช่วยปรับปรุงระบบภูมิต้านทานโรคของร่างกาย ช่วยให้ความหนาแน่นของเซลล์เม็ดเลือดแดงคงที่ กินแล้วช่วยคลายเครียด ยิ่งไปกว่านั้นวิตามินซียังเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการสร้างโดปามีน (dopamine) และอะดรีนาลิน (adrenalin) ซึ่งสารเคมีทั้งสองตัวช่วยในการกระตุ้นความกระฉับกระเฉงตื่นตัว

4. ขนมปัง ขนมปังและข้าวทุกชนิด คือแหล่งคาร์โบไฮเดรต ซึ่งมีส่วนในการกระตุ้นให้สมองหลั่ง สารเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งช่วยให้เกิดความสงบ งานวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตต์ สหรัฐ อเมริกา แนะนำให้กินขนมปังเพื่อต่อต้านอาการซึมเศร้า

5. ผักโขม อุดมด้วย กรดโฟลิก (Folic acid) กรดดังกล่าวช่วยสร้างเซลล์ใหม่และช่วยให้เซลล์ใหม่แข็งแรงสมบูรณ์ สำคัญมากต่อหญิงตั้งครรภ์ ที่สำคัญการขาดโฟลิกนำไปสู่การลดการหลั่งของฮอร์โมนเซโรโทนินโดยตรงซึ่งก่อ ให้เกิดภาวะซึมเศร้า

6. เชอร์รี่ แพทย์ตะวันตกเรียกเชอร์รี่ว่าเป็น "แอสไพรินธรรมชาติ" เนื่องจากผลไม้ชนิดนี้มีสารที่ชื่อว่า แอนโธไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งเป็นเม็ดสีในเชอร์รี่ ทำให้เชอร์รี่มีสีสันสวยสดใส แต่สรรพคุณสำคัญ คือ ทำให้คนกินมีความสุข งานวิจัยมหาวิทยาลัยมิชิแกน สหรัฐอเมริกา ชี้ว่า การกินเชอร์รี่ 20 ผล ช่วยลดอาการซึมเศร้าได้มากกว่าการกินยาเสียอีก

7. กระเทียม อุดมด้วย สารเซเลเนียม (Selenium) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้น คนเราควรได้รับเซเลเนียม อย่างน้อยวันละ 50 ไมโครกรัม แต่เซเลเนียมในกระเทียมนั้นปริมาณไม่แน่นอน กระเทียมหนัก 1 ขีด อาจมีเซเลเนียมตั้งแต่ 3-25 ไมโครกรัม นักวิจัยเยอรมันแนะว่า การกินกระเทียมวันละ 2 กลีบน่าจะเหมาะสม นอกจากนี้ กระเทียมยังมีสรรพคุณช่วยลดระดับไขมันในเลือดและรักษาโรคความดันโลหิตสูงด้ว

HTC Wildfire เครื่องแอนดรอยด์ราคาประหยัดจะออกอีกไม่นานนี้แล้วนะ




เมื่อปีที่แล้วในช่วงปลายปีซึ่งเป็นช่วงที่ ระบบปฎิบัติการ แอนดรอยด์ ของ HTC เริ่มหัดเดินนั้นทาง HTC เองได้เปิดตัว PDA Phone ของตนเองสำหรับตลาดผู้ใช้เริ่มต้น หรือตลาดสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประหยัดงบประมาณในการเลือกซื้อ โดยทาง HTC ได้ส่ง HTC Tattoo เข้าสู่ตลาดในราคาเครื่องที่ไม่แพงมากนัก แต่สำหรับในปี 2010 ทาง HTC เองก็เลือกที่จะเปิดตัว HTC Legend และ HTC Desire ซึ่งเป็นเครื่องในระดับกลางจนถึงบนก่อน โดยคาดว่าในช่วงไตรมาสที่สาม น่าจะส่งเครื่องในระดับเริ่มต้นเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง ซึ่งในปีนี้เครื่องที่ว่าก็น่าจะเป็นเครื่องรุ่น HTC Wildfire รุ่นที่นำมาให้ชมกันในวันนี้นั่นแหละครับ โดยตัวเครื่องมีหน้าตาออกจะคล้ายไปทาง HTC Desire และ Nexus One ของ Google แต่ภายในตัวเครื่องจะมี Spec ที่ต่ำกว่าสองรุ่นที่กล่าวมา

แม้ ว่าเครื่องรุ่นนี้ถูกมอบหมายหน้าที่ให้เป็นเครื่องรุ่นเล็กสำหรับตลาดกลุ่ม เริ่มต้น แต่ Spec ก็มีการพัฒนาให้ดีกว่า HTC Tattoo ในรุ่นเมื่อปีที่ผ่านมา สิ่งที่แตกต่างจาก HTC Tattoo ก็คือ หน้าจอเปลี่ยนจากการใช้หน้าจอแบบ resistive มาใช้หน้าจอแบบ capacitive มีกล้องขนาด 5 ล้านพิกเซล พร้อมออโต้โฟกัส และแฟลช ให้มาด้วย แต่หากเทียบกับ HTC Desire รุ่นใหญ่ และ HCT Legend รุ่นกลางจะพบว่ามันมีสิ่งที่แตกต่างกันหลักๆดังนี้

สิ่งที่ แตกต่างจาก HTC Desire / HTC Legend

1.จอขนาด 3.2 เท่ากับเครื่องรุ่น Legend แม้ว่าชนิดหน้าจอจะเป็น Capacitive แบบเครื่องรุ่นพี่แต่ความละอียดจอของ HTC Wildfire อยู่ในระดับเพียง QVGA ซึ่งแสดงผลได้ที่ 240x320 พิกเซล ในขณะที่ HTC Desire และ Legend จะใช้หน้าจอแบบ WVGA และ HVGA ตามลำดับ

2. CPU มีความเร็วที่ 528MHz ในขณะที่ HTC Desire ใช้ความเร็ว 1GHz และ Lengend ความเร็ว 600 MHz แต่อย่างไรก็ตาม HTC Wildfire จะใช้ Sense UI เวอร์ชั่นล่าสุดเช่นเดียวกันวึ่งจะมีส่วนของ Friend Stream และ the multitouch Leap homescreen viewer

3.ใช้ Android 2.1 เหมือน Desire และ Legend

4.มีหลายสีให้เลือก

สิ่งที่ทำให้เครื่องรุ่นนี้ สามารถประหยัด cost ไปได้และทำให้เครื่องรุ่นนี้น่าจะมีราคาไม่แพงก็น่าจะเป็นสาเหตุมาจากเรื่อง ของหน้าจอเป็นหลัก เพราะหน้าจอ HTC Wildfire เป็นแค่เพียง QVGA ส่วนเรื่องของหน่วยความจำนั้นเรียกได้ว่าไม่น้อยหน้าเครื่องรุ่นพี่เท่าไร นัก เพราะเค้าให้ ROM มาที่ 512 MB และ RAM อีก 384 MB แถมเรื่องกล้องก็ถือว่าสอบผ่าน ใส่ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยก็ถือว่าใช้ได้ครับ เพราะมันมีทั้ง G sensor กลับหน้าจออัตโนมัติ และที่ขาดไม่ได้ก็คือ FM radio รวมทั้ง Light sensor ให้มาครบ รวมถึง Optical joystick อีกต่างหาก

หากดูกันโดยรวมๆแล้วไม่ ได้คำนึงถึงเรื่องหน้าจอว่าเป็นการแสดงผลแค่ QVGA หละก็เครื่องรุ่นนี้ความสามารถไม่น่าจะแพ้เครื่องรุ่นใหญ่เท่าไรนัก เพราะ CPU ก็ความเร็วมาตรฐาน เพราะ 528 MHz นั้นใช้กันมาตั้งแต่รุ่น Magic / Hero/ Tattoo เพิ่งจะมาขยับเพิ่มขึ้นก็ตอน Legend ออกนี่หละครับ สำหรับเรื่องของราคาของ HTC Wildfire ยังไม่เคาะออกมาว่าจะเป็นเท่าไร แต่ที่แน่ๆก็คือมันได้รับการยืนยันแล้วว่าออก Q3 แน่นอนทั้งตลาด เอเซีย และตลาดยุโรป ซึ่งก็ทำให้หลายๆคนยังพอมีเวลาหยอดกระปุกรอกันไปก่อน เพราะหุ่นและหน้าตาแบบนี้ผมว่า โดนใจหลายๆคนเลยทีเดียว





+++ Hamster +++

+++ Playlist +++


MusicPlaylistRingtones
Create a playlist at MixPod.com

+++ coming soon +++