วันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ความรักของ ชอล์ก กับ กระดานดำ



...แต่เดิม ชอล์ก กับ กระดานดำ ก็รักกันดี เอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ต่างคนต่างชอบและเชื่อมั่นในสิ่งที่อีกคนเป็น

แต่ อยู่มาวันหนึ่งชอล์กก็บังเอิญได้ไปเจอกับไวท์บอร์ด จึงติดใจหลงรักในความขาวสะอาด

ในที่สุด...ชอล์กก็ตัดสินใจบอกเลิก กับกระดานดำ กระดานดำเสียใจมาก


เธอทำผิดอะไร ทำไมชอล์กจึงเปลี่ยนแปลง

เพราะเธอดำอย่างงั้นใช่ไหม? เมื่อคิดได้อย่างนี้ กระดานดำจึงไปหาครีมไวท์เทนนิ่งต่างๆ มาใช้

ทาง ฝ่ายชอล์ก หลังจากบอกเลิกกระดานดำแล้ว ก็ไปคบหากับไวท์บอร์ด แต่ไม่นานเท่าไหร่

ชอล์กก็ได้เรียนรู้ว่าตัวเองกับไวท์บอร์ดนั้น เข้ากันไม่ได้เลย ชอล์กเขียนไวท์บอร์ดไม่ติด

ไวท์บอร์ดไม่รักชอล์ก แม้แต่นิด


ชอล์กผิดหวังกับไวท์บอร์ดมาก จึงพาหัวใจช้ำๆ กลับไปหากระดานดำ

แต่ ...กระดานดำเปลี่ยนไปแล้ว เธอไม่ดำเหมือนก่อนแล้ว

และหัวใจของเธอก็เปลี่ยนไปแล้วด้วยเช่นกัน


อ ย่ า ทำ ร้ า ย ค น ที่ ใ ช่…….ด้ ว ย ค ว า ม โ ล เ ล

ช่างเป็น เรื่องเศร้า!!! แต่ก็เป็นเรื่องที่ทำให้เราคิดได้ว่า ถ้ารักใคร ก็ต้องรักที่หัวใจของเขา

ไม่ใช่ที่หน้าตา ไม่ใช่เสื้อผ้าที่เขาใส่ ไม่ใช่เพราะนามสกุลเขาดัง และไม่ใช่เพราะบ้านเขารวย

การรักคนที่ เปลือก และการตั้งสเป็กว่าถ้ามีแฟน แฟนฉันต้องเพอร์เฟ็คต์สุด

แต่ ต้องเป็นได้ในทุกสิ่งที่ฉันหวังนั้น



เป็นการรักที่เหมือน ดอกไม้ ทันทีที่บาน ไม่นานก็จะแห้งเหี่ยวลง

เพราะไม่มีใครที่เพอร์ เฟ็คต์ทุกด้านและยอมเปลี่ยนตัวเองได้เพื่อคนอื่นขนาด นั้น

ชีวิตของ เขาหรือของเราก็เหมือนเส้นวงกลมที่วาดด้วยมือ

จึงไม่มีเส้นเส้นไหน หรอกที่จะสมบูรณ์แบบ เหมือนใช้วงเวียนวาด


หากจะรัก จึงควรยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น และบอกให้เขาเปลี่ยนเฉพาะ "บางสิ่ง" ที่ไม่ดี

รวมถึงตัวเราเองก็ ต้องยอมเปลี่ยนในบางสิ่งที่ไม่ดีด้วยเช่นกัน

ซึ่งถ้าต่างคนต่าง เปลี่ยนแบบนี้ ก็จะเรียกว่า "การปรับตัวเข้าหากัน"

เพื่อจะรักกัน ได้อย่างไม่ไร้ความเข้าใจ




และ...อย่าให้ความรักของเธอโลเล เปลี่ยนใจง่ายเหมือนความรักของ "ชอล์ก"

รั ก แ ล้ ว ต้ อ ง มั่ น ค ง......เ มื่ อ เ ธ อ ก็ มี ค น ที่ ใ ช่ อ ยู่ ใ ก ล้ ตั ว

แล้วจะ เหนื่อยกับการวิ่งไล่ตามคนที่ไกลตัวไปทำไม?



บทความดีดี จาก tamdee.net

ดื่มน้ำกระเจี๊ยบช่วยลดไขมัน




สาวๆ หลายคนที่อยากผอมสวยสุขภาพดีด้วยวิธีธรรมชาติ "น้ำกระเจี๊ยบ" นางเอกของสมุนไพรที่ช่วยลดไขมันส่วนเกินได้อย่างเหลือเชื่อ

จาก การศึกษาทางวิทยาศาสตร์
พบว่า ในกระเจี๊ยบแดงมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่าง "สารแอนโธไซยานินส์" ในปริมาณมากซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกันกับที่พบในบลูเบอร์รี่ เชอร์รี่ และแครนเบอร์รี่ มีคุณสมบัติในการป้องกันมะเร็ง และชะลอแก่ นอกจากนี้ยังพบว่า กระเจี๊ยบแดงมีคุณสมบัติในการลดคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ และไขมันชนิดเลว (LDL) ในร่างกายของเราได้อย่างดีด้วย

การเลือกดื่มน้ำกระเจี๊ยบ

อย่างแรก ควรเลือกน้ำกระเจี๊ยบที่ยังใหม่อยู่ โดยดูได้จากสีที่ต้องแดง ไม่คล้ำเพราะหมายถึงคุณประโยชน์ที่ยังคงอยู่ แต่สำหรับสาวๆ อย่างเราที่ต้องการผอมเพรียวนั้นก็ควรเลี่ยงน้ำตาลด้วยนะคะ เพราะฉะนั้นต้องเลือกน้ำกระเจี๊ยบที่มีน้ำตาลน้อยและดื่มให้ได้อย่างน้อยวัน ละ 1-2 แก้ว จึงจะได้ผลดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งดื่มก่อนอาหาร เพราะจะทำให้เรารับประทานอาหารได้น้อยลง




ข้อสำคัญ หุ่นสวยอย่างเดียวไม่พอ ต้องสุขภาพดีด้วยนะคะ เพราะฉะนั้นอย่าลืมรับประทานผักผลไม้ให้เยอะๆ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

● นับหนึ่งใหม่ ... ถ้าใจติดลบ ●



ล้มทั้งยืน..ดี กว่าล้มไม่เป็น



อย่าคิดว่าสูญเสีย
แล้วชีวิตจะต้องเป็นศูนย์
เรานับหนึ่ง ใหม่ได้เสมอ
หากเราคิดจะนับซะอย่าง


ถ้า สิ่งที่เราคาดหวัง...ไม่เป็นดั่งหวัง
ถ้าสิ่งที่เราพยายามทุ่มเททำสุดแรง กายแรงใจ
ไม่ประสบผลสำเร็จ
ถ้าสิ่งที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิด ขึ้น
มันก็เกิดขึ้นและได้สร้างความบอบช้ำ
จนทำให้เราต้องจมอยู่กับ ความทุกข์

เรากำลังก้าวสู่ "ชีวิต ที่เป็นจริง" แล้วหล่ะ เพราะความเป็นจริงของชีวิต จะสอนให้เรารู้จักยอมรับความพ่ายแพ้สอนให้เรารู้จักสูญเสียน้ตา เพื่อที่จะได้รอยยิ้มคืน กลับมาเป็นรางวัลตอบแทน แต่มันก็ไม่เคยทำให้ใครหมดสิ้นความหวัง หมดสิ้นพลังและกำลังใจไปกับความพ่ายแพ้ เพียงแค่ความเป็นจริงสอนให้พวกเราทุกคนรู้ว่า

........... อย่าเพียรสร้างความหวัง
แต่ให้เชื่อมั่นใความหวัง............


เพราะความ เชื่อมั่นจะนำพาเราไปพบกับ
"หนทางสู่ความสำเร็จ"
แม้ ว่าจะต้องฝ่าฟันอะไรอีกมากมายกว่าจะถึงวันนั้น
แม้ว่าจะต้องล้มลงอีกสัก กี่ครั้ง
แม้ว่าจะต้องผิดหวังอย่างแรงอีกสักกี่หนก็ตาม




ปล่อย ให้ชีวิตผิดพลาดเสียบ้าง ปล่อยให้ความคาดหวังได้เจอกับความผิดหวัง ปล่อยให้ความฝันกลายเป็นฝันค้างลอยกลางอากาศ ปล่อยให้อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด แม้ว่าเกิดขึ้นแล้วจะเลวร้ายกับชีวิตก็ตามที เพราะทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้น จะช่วยสอนและช่วยเป็นบทเรียนอันล้ำค่าให้แก่ชีวิต ที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วบนโลกใบนี้

คุณ บอย โกสิยพงศ์ เคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสารเล่มหนึ่ง เขาพูดให้แง่คิดที่ดีเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งมันอาจจะสร้างบาดแผลให้กับใครหลายๆ คนมาบ่อยครั้ง คุณบอยพูดไว้ว่า...

ไม่มีอะไรที่อยู่กับเราตลอดชีวิต
ทุกอย่างมันก็รอเวลา จากเราไปทั้งนั้น


เชื่อว่าถ้า ชีวิตคนเราไม่ยึดติด ไม่ต้องแขวนชีวิตไว้กับความคาดหวัง เวลาที่เราสูญเสีย หรือเวลาที่เราต้องเจอกับความล้มเหลว เราคงมีภูมิต้านทานมากพอที่จะเอาไว้ต่อสู้กับความท้อแท้ อย่าคิดว่าสูญเสียแล้วชีวิตจะต้องเป็นศูนย์ เพราะว่าเรานับหนึ่งใหม่ได้เสมอหากเราคิดที่จะนับซะอย่าง ไม่มีอะไรบนโลกที่น่ากลัว และไม่จำเป็นต้องกลัวกับความเป็นจรองของชีวิต

"มีพบก็ต้องมีจาก มีได้ก็ต้องมีเสีย
และมีสุขก็ต้องมี ทุกข์เป็นสัจธรรม"


เมือ่ไรที่เราได้รู้จักสัมผัส และได้เรียนรู้กับชีวิตทั้งสองด้าน เมื่อนั้นเราจะไม่รู้สึกเสียดายหากเราได้มีโอกาสล้มทั้งยืน แต่เราจะเสียใจไปตลอดชีวิตหากเราไม่สามารถก้าวข้ามความล้มเหลวที่ผ่านเข้ามา ได้



มีคนเคยบอกเอาไว้ว่า...


การตั้งความ หวัง
คือการเสี่ยงกับความเจ็บปวด
การพยายาม คือการเสี่ยงกับความล้มเหลว


แต่ยังไงก็ ต้องเสี่ยง


เพราะในสิ่ง ที่อันตรายที่สุดในชีวิตก็คือ


การไม่เสี่ยง อะไรเลย



ล้มลงสักกี่ครั้ง ผิดหวังมาสักกี่หน ลุกขึ้นยืนให้ไกด้ แล้วสักวันเราจะเจอความสุข เพราะความสุขไม่ได้หนีจากเราไปไหนหรอก มันอยู่ใกล้เราแค่เพียงเอื้อมมือจริงๆ ถ้าหากเราไม่ได้ไปตัดสินว่า โลกมันควรเป็นอย่างที่เราอยากให้เป็น และไม่ได้ตั้งกฎเกณฑ์ให้กับตัวเองมากจนเกินไป เวลาคิดหรือทำอะไรสักอย่างแล้วมีข้อบังคับ มีกรอบ และสร้างมโนภาพความสำเร็จไว้ล่วงหน้า เมื่ออะไรๆ ไม่เป็นไปตามกฎของเรา เราก็ทุกข์ เราก็เสียใจ และเราก็ใจเสียเอาได้ง่ายๆ


มีคนเคยบอกไว้ว่า


สิ่งที่เกิด ขึ้นกับคุณ


ไม่ใช่สิ่งที่ จะกำหนดความสุขของคุณ


แต่มันเป็น ความคิดของคุณเองต่างหาก


ความคดที่มี ต่อสิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับคุณนั่นเอง



จะสุขหรือจะทุกข์ก็ขึ้นอยู่ที่เราทั้งนั้นเป็นคนกำหนด ล้มทั้งยืนเสียบ้างก็คงไม่เสียหายไร แต่ล้มไม่เป็นเลยนี่สิ...



ลองคิดดูเล่นๆ ซิว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตต่อไป............ห ลั ง จ า ก นี้



ข้อมูลจาก หนังสือ นับหนึ่งใหม่ถ้าใจติดลบ

บอกลาขอบตาคล้ำ .. ด้วยการนวด

-->

เคย มั้ยไม่ว่าจะพยายามเข้านอนเร็วแค่ไหน เพื่อพยายามชดเชยความอ่อนเพลียของร่างกาย แต่ไม่ว่าจะชดเชยไปเท่าไหร่ รอยคล้ำตายตา คลับคล้ายคลับคลาอาหมวยที่สวนสัตว์เชียงใหม่ก็ไม่หากซะที จะแต่งหน้าแต่ละที ก็ไม่มั่นใจ ต้องคอยเอาแป้งมาเปาะกลบรอยคล้ำ

หาก คุณเป็นสาวๆคนหนึ่งที่หนีไม่พ้นวังวน
ขอบตาคล้ำหล่ะก็ วันนี้ มีเทคนิคการนวดเพื่อลดเลือนรอย คล้ำใต้ตาแบบง่ายๆ เพียง 5 ขั้นตอน จากเอต์ตูเซ่ส์มาฝาก

เริ่มจาก ขั้นตอนแรก คือ ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับถนอมดวงตาของคุณ หยดลงบนปลายนิ้วของคุณ แล้วแตะบนเปลือกตาบน และล่าง

ขั้นที่ 2 ให้กดจุดดังภาพด้วยน้ำหนักบางเบาจากนั้นลูบไล้เบาๆ รอบดวงตา 6 ครั้ง ระวังหลีกเลี่ยงให้พ้นขอบเปลือกตาดังภาพ



ขั้นที่ 3 คือ ใช้นิ้วนางนวดทางด้านบนโดยเริ่มจากมุมด้ายในตรงหัวตาออกไปสู่บริเวณขมับใน ลักษณะยกขึ้นอย่างเบาๆ ทำซ้ำในท่าเดิม 6 ครั้ง

ขั้นที่4 ใช้นิ้วชี้ นิ้วกลางและนิ้วนางตบเบาๆบริเวณใต้ตา


ขั้นสุดท้าย คือ ใช้นิ้วกลางกดจุดทั้งเจ็ดดังภาพ


เพียงเท่านี้ดวงตาคู่ สวยจะไปไหนไกลมอบ ความรักของคุณให้แก่ดวงตาตั้งแต่วันนี้ รอยคล้ำใต้ตาแลดูจางหายในทันที สวยโดดเด่นจนใครๆก็ร้องทัก

ข้อมูลจาก ไทยรัฐออนไลน์

วิธีรับมือกับความโสด !!!

ว่า กันไปถึงเรื่องข้อดีของสาวโสดแล้ว บางครั้งก็รู้สึกว่าชีวิตการเป็นโสดนี่ย่ำแย่เหมือนกันน่ะ มาลองใช้เวลา อยู่กับความโสดของตัวเองให้เป็นสุข ดูบ้างกันดีไม๊คะ...จะรู้ว่าไม่เลวเลย

ทำใจให้ได้กับการอยู่ตัวคนเดียว สำหรับสาวโสดมือใหม่ ช่วงแรกอาจจะทำใจยากซะหน่อย อาจจะไม่คุ้นกับเวลาว่าง ที่มีมากขึ้นอย่างไม่เคยมี ไม่เคยดูหนังคนเดียวก็ฝึกไว้ซะ ทานข้าวคนเดียวก็อิ่มได้เหมือนกันล่ะน่ะ

หัดแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ทุกครั้งอาจจะมีคนช่วยคิด แต่เมื่อต้องคิดเอง ทำเอง ก็รู้เถอะว่า ไม่มีอะไรที่ยากเกินกว่า ที่คนเราจะทำได้หรอก ค่อย ๆ คิดทีละขั้น อะไรที่เราทำได้ แล้วอะไรที่เราต้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่น

ดึงความสามารถของตัวเองออกมาใช้ ความคิดพื้นฐานคือ "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" ทำทุกอย่างด้วยตัวเองให้เต็มที่ก่อน อย่าทำตัวเป็นเด็ก เพราะเพื่อน ๆ คงไม่ค่อยจะว่างให้เราได้อ้อนซะเท่าไร อะไรที่ทำด้วยตัวเองได้ให้ทำ อะไรที่จ้างคนอื่นหรือใช้บริการต่าง ๆ ได้ จัดการซะ

มีความสุขกับทุกวันและทุกอย่างรอบตัว ไม่มีประโยชน์ที่จะมานั่งเศร้ากับชีวิตตัวคนเดียว แต่ใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีความสุข ตื่นขึ้นมากับความสดชื่น ลืมตาก็คิดว่าวันนี้ เราจะทำอะไรที่เราชอบ วันนี้ฉันจะทำให้ใครยิ้มได้บ้างนะ ความสุขทุกอย่างเกิดขึ้น ได้จากใจของเรา มองทุกอย่างด้วยรอยยิ้ม... แล้วโลกจะยิ้มกลับมาให้เรา

อย่าสูญเสียความมั่นใจในตัวเอง อย่าเสียความเคารพตัวเอง การเป็นโสดไม่ได้หมายความว่าเราเป็นคนผิดปกติ ถึงคนเราจะไม่มีใครที่ดีเลิศไปทุกอย่าง แต่เราก็เป็นคนหนึ่งที่มีความน่ารักอยู่บ้าง เรายังมีเพื่อน มีพี่น้องที่รักเรา และรอความรักจากเราอยู่เสมอ มองตัวเองด้วยความรักอยู่เสมอ จะอ้วน จะดำ จะขี้เหร่แค่ไหน ก็บอกตัวเองว่าคนนี้ล่ะ ที่ยังทำประโยชน์ให้กับคนอื่นได้

ใช้เวลากับคนรอบข้าง เพื่อน ๆ และคนอื่น ๆ ให้เต็มที่ เราไม่รู้หรอกว่าเราจะเป็นโสดอีกนานเท่าไร ถ้าจู่ ๆ พรุ่งนี้ได้เจอใครสักคนที่ใช่ จะเสียดายว่าเรายังไม่ได้เม้าท์ข้ามวัน กับเพื่อนเลย ตอนนี้ล่ะชวนเพื่อนจัดเป้เที่ยวตะลุย ตั้งแต่เหนือจรดใต้ หรือจะไปทัวร์ต่างแดนก็ไม่มีใครว่า

ได้เวลาลองทำสิ่งที่ไม่เคยทำ...หรือ ไม่เคยกล้าทำ ช่วงเป็นโสดนี่ล่ะ เป็นช่วงที่อะครีนาลีน พลุ่งพล่านดีเหลือเกิน หากิจกรรมที่มันๆ ได้ ทำให้รู้กันไปซะเลย เมื่อก่อนต้องรอการตัดสินใจจากอีกคนหนึ่ง ซึ่งบางทีก็ขี้เกียจ บางทีก็ไม่กล้า คราวนี้ล่ะชีวิตฉัน..เป็นของฉันเองแล้ว จะกระโดดโลดเต้นแค่ไหน ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาขัด

อย่ามองโลกในแง่ร้าย..เปิด โอกาสให้กับตัวเองอยู่เสมอ ถ้าต้องการมีคู่ ไม่อยากอยู่เป็นโสดทั้งชีวิต ก็อย่าเถียง ความจริงไม่ต้องป่าวประกาศกับใคร ๆ ว่าฉันอยู่คนเดียวได้ ทั้งที่ใจไม่ต้องการ ให้โอกาสกับตัวเองได้เรียนรู้สิ่งใหม่ และคนใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตอยู่เสมอ ความเชื่อในความรักจะทำให้คนโสดคนนั้นมีความน่ารักอยู่เสมอ...

25 วิธีมีความสุขกับสิ่งรอบตัว

ชีวิตเป็นอนิจจัง ไม่เที่ยง มีขึ้นมีลง หากอยากมีความสุข คุณต้องรู้จักซึมซับความรู้สึกอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นความโศกเศร้าหรือความโกรธที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน รวมทั้งยอมรับในสิ่งที่คุณมี และสถานภาพที่คุณเป็น เพื่อจะได้มีความสุขกับชีวิตมากที่สุดที่จะทำได้ ถ้าคุณไม่รู้จักความทุกข์ แล้วคุณจะรู้จักความสุขได้อย่างไร คนเราไม่อาจมีความสุขได้ตลอดเวลา เราต้องไขว่คว้า แสวงหาและชื่นชมจึงจะได้มาซึ่งความสุข มีคนเคยกล่าวว่า “ความ สุขหาได้ ความทุกข์ไม่ต้องหา...มาเอง” ดังนั้นเรามาลองดูวิธีการสร้างสุขกันดีกว่า

25 วิธีมีความสุขกับสิ่งรอบตัว เก็บมาฝากค่ะ เพราะอยากให้ทุกคนมีความสุข

1. คิดใหม่ใช้ชีวิตราวกับว่าวันนี้เป็นวันสุดท้าย คนที่ป่วยหนักใกล้ตาย จะไม่ปล่อยเวลาให้สายเกินไปอีกแล้ว จะท่องเที่ยวไปในโลกกว้าง หรือติดต่อพบปะเพื่อนฝูง เราทุก คนก็ควรตระหนักว่าอาจไม่มี “พรุ่งนี้ ” ก็ได้

2. จดบันทึก เขียนเล่าเรื่องถึงสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นกับคุณทุกวัน การจดบันทึกช่วย แก้ปัญหาและขจัดเรื่องไม่ดีที่ รกสมองออกไปได้ด้วย

3. มองในแง่มุมอื่นบ้าง ลองคิดว่าคุณอยากให้คนอื่นจดจำคุณในด้านใดหรือหากวันหนึ่งต้องเล่า เรื่องชีวิตตนเองให้หลาน ๆ ฟังคุณจะเล่าอะไร แล้วคุณพลาดการนัดกับเพื่อน เพื่อไปดูหนัง ตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อมองย้อนกลับไป

4. อย่าให้เรื่องเล็กน้อยกวนใจ ไม่คุ้มหรอกที่จะหัวเสียกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง หากคนขับรถข้าง ๆ ไม่ยอมให้คุณเบียดเข้าเลน ก็ยิ้มและโบกมือให้เขาไปเลย

5. ทำงานยากให้เสร็จ ลงมือได้แล้ว อย่าผัดวันประกันพรุ่ง โอ้เอ้ไปก็มีแต่ทำให้ หนักใจเหนื่อยกาย ไหน ๆ งานนี้ก็ต้องทำโดยไม่มีทางหลีกเลี่ยง ก็น่าจะทำให้เสร็จ ๆ ไปเลย

6. เลิกทำตัวจำเจ ชีวิตคงน่าเบื่อหากทำอะไรซ้ำซากทุกวันทุกสัปดาห์ เราน่าจะมีเรื่องแปลก ใหม่มาทำให้หัวใจกระชุ่มกระช่วยบ้าง เปลี่ยนแปลงตัวเองด้านการแต่งกาย ทรงผม ทานอาหารรสชาดใหม่ ๆ

7. อย่าเปรียบตัวเองกับคนอื่น ใครจะมีสระว่ายน้ำ บ้านหลังใหญ่ๆ รถหรูคันใหม่ไม่ต้องสนใจ หากดูให้ดี ๆ คุณอาจพบว่าพวกเขาเหล่านั้นต้องทำงานสัปดาห์ละเจ็ดวัน ไม่มีเวลาเจอคนในบ้านหรือเพื่อนฝูงหรืออาจต้องผ่อนหนี้สินไปอีกหลายสิบปี

8. กำจัดข้าวของรกบ้าน เสื้อผ้า ของเล่น หนังสือเก่า ที่ไม่ใช้แล้ว ยกไปบริจาคเถิดได้บุญกุศล

9. รู้จักเอ่ยคำว่า “ ไม่ ” ไม่ต้องลงมือทำเองทุกเรื่องเพราะชีวิตคุณก็วุ่นวายพออยู่แล้ว

10. รดน้ำต้นรัก รักคู่ครองของคุณอย่างที่เขาเป็นที่คุณคิดว่าเขาเปลี่ยนไปนั้นเป็นความจริง หรื อท ุกอย่างเมื่อใช้งานไปได้ระยะหนึ่งก็ต้องบำรุงรักษาเป็นของธรรมดา ความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาก็เช่นกัน ต้องมีการดูแลใจใส่กันบ้าง

11. อย่าให้ความคุ้นเคยกลายเป็นไม่ไว้หน้า หากคุณให้เกียรติเพื่อน หรือผู้อื่น คู่ครอง และคนในครอบครัว คุณก็ควรได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกัน

12. มอบความรักให้คู่ครอง ครอบครัว และเพื่อน ๆ อย่าเขินที่จะบอกคนเหล่านี้ว่า คุณ “ รัก ”พวกเขาตรงไหน เมื่อ เขาทำอะไรดี ๆ ก็กล่าวคำชื่นชมบ้าง คำชมเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่เคยทำร้ายใคร

13. อย่ารับปรับทุกข์ทุกเรื่อง หากปัญหาของเพื่อนเริ่มมีผลกระทบต่อตัวคุณก็ไม่ต้องฝืนทำตัวเป็นเสาหลักให้ เขา พิ งอยู่เรื่อยไป ให้เพื่อนหัดแก้ปัญหาและก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยตัวเอง

14. ติดต่อเพื่อนเก่า ยังไม่สายเกินไปที่จะโทรศัพท์ ส่งอีเมล์ หรือเขียนจดหมายถึงเขา ส่ง SMS

15. บำรุงอารมณ์ด้วยสีเขียว ตัดดอกไม้สดจากสวน หรือตื่นแต่เช้าไปตลาดซื้อดอกไม้ที่สดใสนำมาใส่แจกัน

16. ไปทะเลกันดีกว่า ทิวทัศน์กว้างไกล สายลม เกลียวคลื่น สองเท้าเปลือยเปล่าย่ำบนผืนทราย และแสงแดดลูบไล้แผ่นหลัง ไม่มีอะไรทำให้จิตใจเริงรื่นชื่นบานได้ดีกว่านี้อีกแล้ว

17. สร้างสรรค์ผลงาน จะเป็นภาพเขียน เย็บปักถักร้อย อบขนม จัดสวน หรืออะไรก็ได้

18. สูดอากาศบริสุทธิ์ ออกไปข้างนอกหรือเปิดหน้าต่างกว้าง ๆ สูดหายใจให้เต็มปอด คุณจะรู้สึกว่าอากาศเสียถูกขับออกจากตัว

19. ออกไปเดินเล่น การออกกำลังกายเบา ๆ จะช่วยเติมชีวิตชีวาให้คุณทั้งร่างกายและจิตใจ

20. ดูหนังตลกและหัวเราะให้สบายใจ

21. ย้ายเครื่องเรือนและของแต่งบ้าน หรืออาจทาสีห้องและผนังใหม่ด้วย

22. รอคอยสิ่งดี ๆ เช่น วันหยุดพักร้อน ออกท่องราตรีกับเพื่อนฝูง ไปดูหนัง ฟังเพลง หาร้านอาหารอร่อย ๆ ที่ไม่เคยไป รอโทรศัพท์จากคนรู้ใจ

23. ชวนเพื่อน/ คนรู้จัก หรือใครก็ได้ มากินมื้อค่ำ จัดห้องโต๊ะอาหารที่บ้านให้แปลกไปจากเดิม เสริฟ์เครื่องดื่มค็อกเทล เปิดเพลงเสริมบรรยากาศ สนุกกับการเตรียมอาหาร ทุกคนจะปลาบปลื้มหากเห็นว่าคุณทุ่มสุดฝีมือแล้วค่ำ คืนนั้นก็จะครึกครื้น

24. ยิ้มไว้ ยิ้มเป็นโรคติดต่อ ไม่เชื่อลองยิ้มดูสิ

25. ทำให้คนอื่นมีความสุขบ้าง ทำเพื่อตัวเองมามากแล้วก็น่าจะทำเพื่อคนอื่นบ้าง อาสาช่วยงานกุศล บริจาค พากันไปท่องเที่ยวหาความสุข หรือช่วยทำอะไรก็ได้ที่ทำให้คนอื่นมีความสุข

ข้อมูล จาก : http://www.global-report.net
ที่มา : http://variety.teenee.com/foodforbrain/9428.html

เคล็ดลับถนอมริมฝีปากให้สวยอวบอิ่ม



1. ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 4-6 แก้ว เพื่อป้องกันการเกิด ร้อนใน ซึ่งถ้าหากเป็นร้อนในแล้วจะทำให้ปากแห้งหรือ แตกลอกเป็นขุยได้ง่าย

2. สำหรับหลาย ๆ คนที่เคยเข้าใจว่า เมื่อรู้สึกว่าริมฝีปากแห้งนั้น ก็ใช้ลิ้นเลียริมฝีปากบ่อย ๆนั้น ขอแนะนำให้คุณเปลี่ยนความคิดและเลิกทำไปได้เลย เพราะในน้ำลายจะมีเอนไซม์ที่ทำให้ริมฝีปากของคุณแห้งกว่าเดิม แถมยังทำให้ริมฝีปากมีสีคล้ำขึ้นอีก

3. ก่อนนอนควรทาลิปกลอส หรือ ลิปมันเป็นประจำ เพื่อเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้น และป้องกันริมฝีปากแตก หรือเป็นขุยได้

4. เวลาที่ริมฝีปากของคุณเป็นแผล ไม่ควรที่จะแกะสะเก็ดแผลเด็ดขาด เพราะนอกจากจะทำให้อาการของแผลแย่ลงแล้ว ยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อและทำให้ปากที่ลอกหายยากขึ้นอีกด้วย

5. เมื่อต้องออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง อย่าลืม !!.... ทาลิปสติกที่มีส่วนผสมป้องกันรังสียูวี

6. ระวัง!... ยางผลไม้บางชนิด เพราะเมื่อมันสัมผัสกับริมฝีปากของคุณแล้วจะทำให้ริมฝีปากมีสีคล้ำได้

7. หากมีปัญหาปากเป็นขุย หลังแปรงฟันเสร็จใหม่ ๆ ในขณะที่ริมฝีปากยังชุ่มชื้นด้วยน้ำอยู่ ให้ใช้แปรงสีฟันแปรงเบา ๆ ที่ริมฝีปากบนและล่าง เพื่อให้ขุยหรือสะเก็ดลอกออก จากนั้นจึงใช้ลิปมันทาบางๆ

+++ Hamster +++

+++ Playlist +++


MusicPlaylistRingtones
Create a playlist at MixPod.com

+++ coming soon +++