วันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2553

BlackBerry 9670 จอใหญ่ดีไซน์“ฝาพับ“

หลังจากที่มีการเปิดเผยภาพของ BlackBerry 9670 ที่มีดีไซน์ไม่เหมือนรุ่นก่อนหน้านี้ ตรงที่มันออกแบบเป็น"ฝาพับ"จอใหญ่ทั้งในและนอก ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS 6 ล่าสุดได้มีการปล่อยคลิปวิดีโอของแบลคเบอรี่รุ่นดังกล่าวออกมาให้ได้เห็นราย ละเอียดกันมากขึ้นแล้ว ดูกะทัดรัดน่าใช้ไม่เบาเลยทีเดียว
BlackBerry 9670

ในส่วนของรายละเอียดเบื้องต้น BlackBerry 9670 ยังคงมาพร้อมกับคีย์บอร์ด QWERTY สมบูรณ์แบบ กล้อง 5 ล้านพิกเซล หน้าจอแสดงผลด้านในฝาพับทำงานด้วยระบบสัมผัส ความละเอียด 480 x 360 พิกเซล หน่วยความจำภายใน 512MB ในขณะที่ด้านหน้าฝาพับก็จะมีจอแสดงผลขนาดใหญ่ให้ด้วย กลไกควบคุมเมนูยังเป็นแทรคแพดแบบออปติคัล ระบบปฎิบัติการ BlackBerry OS 6.0 พอร์ต microUSB และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำ microSD เชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi และ Bluetooth ส่วนเรื่องราคาของมันยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดออกมาแต่อย่างใด หวังว่า คงจะไม่แพงเกินไป



5 ขั้น รักตัวเองให้เป็นเสียที




คุณรักตัวเองเป็นไหม? คำถามง่ายๆ ที่อาจทำให้คุณ ต้องกะพริบตาปริบๆ ก่อนนิ่งไป พักใหญ่ ไม่ใช่เรื่องแปลกหากคุณไม่แน่ใจ เพราะการรักตัวเอง 'เป็น' กับสัญชาตญาณรัก แบบเห็นแก่ตัวนั้น มีความหมายใกล้ กันแค่คืบ


ความสัมพันธ์ที่เรียกว่า 'ฉันรักเขา' ดูจะเป็นตัวบ่งบอกได้ชัดเจนที่สุด ถ้าคุณอยากจะวัดปริมาณความรักที่ คุณมีต่อตัวเอง คุณสามารถ เอาเรื่องรักกุ๊กกิ๊กระหว่างเขาและคุณมาเป็นข้อชี้ชัดได้ ถ้าคุณกำลังเข้าข่ายหน้ามืด ตามัว มองว่าหนุ่มของคุณคือพ่อเทพบุตรมาโปรด กรณีนี้ขอให้คุณจงรับรู้เอาไว้ ว่าคุณกำลังเข้าข่ายไม่ซื่อ (สัตย์) กับตัวเองเสียแล้ว หรืออีกนัยหนึ่งคุณกำลังละทิ้งหน้าที่สำคัญที่ควรทำเป็นที่สุด นั่นคือการ 'รักตัวเอง' ซึ่งมีค่ามากกว่าสิ่งไหน

บทความนี้จะเป็นเพียงข้อชี้แนะ เล็กๆ เพื่อให้คุณได้ค้นพบว่า เมื่อคุณมอบ 'ความรัก' ให้ใครสักคน ทัศนคติที่คุณมีต่อเขาจะต้องเปลี่ยน ไปด้วย แน่นอนว่าไม่ใช่เพื่อใคร...ก็เพื่อตัวคุณเองนั่นแหละ


01 ปรับทัศนคติ คิดเชิงบวกให้มากๆ

ข้อนี้สำคัญมาก ถือว่าเป็นพื้นฐานในการที่คุณจะรักตัวเอง การปรับทัศนคติย่อมส่งผลให้ตัวคุณเป็นผู้หญิง ที่มองอะไรกว้างขึ้น เพราะการคิดในเชิงบวกคือการหว่านพืชทางด้านความคิด มองอะไรเป็นเหตุเป็นผล แต่ ก่อนอื่นคุณต้องยินดีที่จะทำการเปลี่ยนแปลงด้วย ในกรณีนี้คุณอาจเริ่มต้นด้วยมองชายหนุ่มของคุณเป็นเพียง ผู้ชายคนหนึ่ง ที่เขามีความรักให้กับคุณและคุณ ก็มีความรักให้กับเขา (ในระดับเท่าๆ กัน) อย่าได้เผลอคิดไป ว่า คุณรักเขาเหลือเกิน (พยายามอย่าคิดว่าความรักเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต) เพราะนั่นเป็นเพียงจิตใต้สำนึก ที่กำลังออกคำสั่ง ให้คุณทำตามเท่านั้น การคิดเชิงบวกยังรวมถึงการไม่คิดเข้าข้างตัวเอง เพราะการคิดเช่นนั้น จะ ทำให้คุณคิดเองเออเองไปเสียทุกอย่าง และถ้าไม่ได้เป็นไปอย่างที่คุณคิด คุณก็อาจจะเจ็บตัวเจ็บใจเอาได้ ง่ายๆ


02 เลิกมองตัวเองในแง่ร้าย

หลังจากที่คุณปรับความคิดในเรื่องของความรักแล้ว สิ่งที่คุณควรกระทำต่อมาคือการหยุดมองตัวเองใน แง่ร้าย ขั้นตอนนี้เราสังเกตได้ง่ายมาก เช่น ถ้าคุณกำลังวิตกว่าคุณดูอ้วนไป ผอมไป หรืออะไรก็ตามแต่ความคิด ที่จะตามมาก็คือ 'แล้วเขาจะรักฉันไหม?' ลองละทิ้งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในหัวของคุณเสียหน่อยดีกว่า เพราะอย่าง น้อยๆ อาจจะทำให้คุณได้หยุดมองตัวเองอย่างที่คุณเป็น และไม่ดูถูกตัวเอง จากสถิติที่ผ่านมาผู้หญิง ถึงร้อยละ เก้าสิบคิดเอาเองก่อนทั้งนั้น ว่าเราต้องสวยเขาถึงจะรัก ทางแก้ของการมองตัวเองในแง่ร้ายก็คือ ต้องวางเป้า หมายของเราให้ชัดเจน อย่างเช่น ถ้าคุณอ้วนไปและจะลด น้ำหนักก็เพื่อสุขภาพของตัวเอง ที่สำคัญที่ สุดคือ อย่าหวาดหวั่นกับคำพูดใดๆ และต้องเชื่อในคุณค่าของตัวเองอยู่เสมอ


03 จัดรูปแบบของความรัก

การจัดรูปแบบความรักที่ดีจะส่งผลให้คุณรู้คุณค่าของความ รักรวมถึงตัวคุณเอง ซึ่งอาจจะคล้ายๆ กับการ วางแผนชีวิต เหตุผลทั้งหมดคือ เพื่อป้องกันตัวเอง และทำให้คุณเห็นค่าตัวเองมากขึ้น คุณอาจจะทำข้อตกลง กับตัวเอง โดยการแบ่งหัวใจของคุณเป็นวงกลม แล้วแบ่งวงกลมนั้นเป็นสี่ส่วนเท่าๆ กัน จากนั้นให้คุณจับจอง อัตราสามในสี่ ส่วนเป็นของคุณ และหนึ่งส่วนที่เหลือคือ พื้นที่ของเขา สิ่งสุดท้ายคือการเขียนข้อตกลงของตัว คุณเอง เช่น ถ้าเราทะเลาะกันฉันจะไม่เสียใจ หรือฉันจะพูดกับเขาด้วยเหตุผลในทุกๆ ครั้ง การจัดรูปแบบจะ ทำให้คุณไม่ลดค่าตัวเองลง ซึ่งคุณจะรู้เองว่าเมื่อคุณทำตามนั้นได้จริง คุณจะดูมีค่ามากแค่ไหน

04 อย่าเอา 'ความรัก' นำทาง
ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณกำลังเลิฟอยู่กับหนุ่ม A และเขาก็ดูรักคุณอย่างเหลือกำลัง พร้อมมี ดอกไม้ช่อใหญ่ให้ คุณในทุกๆ เช้า คุณสามารถตอบรับกับสิ่งที่หนุ่ม A ทำให้กับคุณได้ด้วยการแสดงออกแต่พองาม เช่น การ ส่งการ์ดขอบคุณให้เขา ด้วยข้อความที่ว่า 'ขอบคุณสำหรับดอกไม้ค่ะ' หรืออะไรสั้นๆ ทำนองนี้ จะทำให้เขา รู้ว่าคุณก็สนใจเขา แต่ก็ไม่ถึงกับคลั่งไคล้จนเกินเหตุ อย่าลืมว่าถ้าคุณมัวแต่หลงระเริงกับความสุขที่ได้จนมาก เกินไป นั่นอาจจะทำให้คุณอ่อนแอที่สุด และเมื่อคุณยับยั้งไม่ให้ความรักมาอยู่เหนือใจตัวเองแล้ว ทุกสิ่งทุก อย่างจะดูเป็นเรื่องปกติ ทั้งยังทำให้คุณดูดี ไม่เป็นที่ตำหนิในสายตาคนอื่นๆ อีกด้วย


05 หนักแน่นเข้าไว้

ถ้าคุณเชื่อมั่นในตัวเองและได้ผ่านกระบวนการทั้งสี่ข้อที่ ว่ามาแล้ว ความหนักแน่นจะเกิดกับคุณ ไม่ว่าจะ เรื่องราวใดๆ ที่ทำให้คุณผิดหวังหรือทำให้คุณเสียใจ คุณจะผ่านมันไปได้อย่างที่คุณอาจจะแปลกใจ ต้องมั่น ใจด้วยว่าไม่ว่าเรื่องอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม คุณจะเผชิญกับปัญหา นั้นไหว ความหนักแน่นเท่านั้นที่จะสามารถ ทำให้คุณยืนแล้วสู้กับทุกสิ่งได้


เมื่อใดก็ตามที่สติของคุณเริ่มไม่อยู่กับตัว จำเอาไว้ว่า ความสามารถของการรักตัวเอง ก็จะลดลงไปด้วย ทางที่ดีคุณควรรักษาความซื่อสัตย์ที่เกิดกับตัวเอง และควบคุมเหตุผลให้ อยู่เหนืออารมณ์ให้ได้ในทุกๆ วินาที เพียงแค่นี้คุณก็จะรักตัวเองและเข้าใจตัวเอง อย่างที่ คุณก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเกิดกับคุณได้

10 สิ่งอันตรายที่ธรรมชาติสร้างขึ้น

อันดับ 10 ฮันนี่แบ็ตเจอร์(Honey Badger)


ฮันนี่แบ็ตเจอร์เป็นสัตว์ที่ร้ายกาจที่สุดอาศัยอยู่ในแอฟริกาและ เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ มันอาศัยอยู่ใต้ดินโพลงๆ อยู่กันเป็นครอบครัวด้วยนะ ตั้ง 20 ตัวแนะอบอุ่นจังเลย มันว่องไว ฉลาด(ประดิษฐ์เครื่องมือต่างๆ ได้ เช่น บันได) มีเขี้ยวแหลมคม หนังหนา ทำให้มันจึงกลายเป็นสัตว์ใจกล้า(ไม่หน้าด้านนะ) ทำให้อาหารของมันมีเล็กจนถึงใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น พวกสัตว์เล็กๆ พวกปลวก, กระต่าย, เม่น,งู(พิษไม่พิษกินหมด), แมงป่อง, กวาง, วิลเดอบิส(รูปร่างคล้ายวัว) สรุปคือสัตว์ทุกชนิดมันกินหมด(แต่มันชอบน้ำผึ้งมากกว่า) จนได้รับฉายาว่า "สัตว์ที่ไม่กลัวอะไรเลย" ชื่อของมันลงกินเนสบุ๊ค ปี 2002 มันเคยชนะจระเข้ด้วยนะ และมีรายงานว่ามันฆ่าสิงโต เสือดาว ด้วย




อันดับ 9 ยุง(Mosguito)

ยุง เป็นแมลงที่พบได้ทั่วโลก จากหลักฐานฟอสซิลพบว่ามันมีมาตั้งแต่สมัยยุคดึกดำบรรพ์ 38-54 ล้านปีมาแล้ว ยุงขึ้นชื่อว่าเป็นแมลงที่ร้ายกาจที่สุด โดยเฉพาะตัวเมียที่กินเลือดของสัตว์เป็นอาหาร อีกทั้งยังเป็นพาหนะของโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ไข้เลือดออก มาเลเรีย โรคเท้าช้าง เคยเกิดโรคระบาดอย่างไข้เลือดออกในประเทศไทยทำให้เด็กตายหลายคนมาแล้ว และนอกจากนี้จะกำจัดยังไงก็ไม่สูญพันธุ์และมันยังคงอยู่คู่โลกใบนี้ต่อไปอีก นานเท่านาน




อันดับ 8 โรคนอนไม่หลับมรณะ(Fatal Familial Insomnia)

เรียก ได้ว่าเป็นอาการของโรคที่เลวร้ายที่สุด เป็นโรคที่หายาก และไม่ทราบสาเหตุของมันแน่ชัดแต่คาดว่าน่าจะเกิดจากพันธุกรรม มีสถิตการเกิดโรคนี้ประมาณ 28 ครอบครัวทั่วโลก เป็นโรคที่รักษาไม่หาย เป็นแล้วตายแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อเกิดโรคจะมีความทรมานยิ่งกว่ามะเร็งและเอดส์เสียอีก คืออาการแรกเริ่มก็คือนอนไม่หลับ ไม่ใช่ไม่หลับแค่ 2- 3 วันน่ะ แต่ไม่หลับตลอด 7-36 เดือนตั้งแต่เกิดโรคไปจนตายเลย(36 เดือนตาย แสดงว่าชีวิตคุณคงอยู่ได้ประมาณ 3 ปี โดยนอนไม่หลับ) และในระหว่างนั้นยังมีโรคอื่นๆ แทรกซ้อนอีก เช่น

1.คนไข้นอนไม่หลับ ทำให้เกิดอาการทางจิตกลัวอะไรต่างๆ มากมาย หวาดระแวง หวาดกลัว อาการเหล่านี้จะต่อเนื่องสี่เดือน

2.คนไข้เริ่มมีอาการระบบประสาทเห็นภาพหลอน ตื่นตระหนก อาการเหล่านี้จะต่อเนื่องห้าเดือน

3.ร่าง กายอ่อนแอ น้ำหนักลดลง เกิดอาการแพ้ต่างๆ อาการเหล่านี้จะต่อเนื่องสามเดือน

4.วิตก กังวล ความจำเสื่อม และช่วงท้ายๆ ของโรคจะไม่ตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่างๆ อาการเหล่านี้จะต่อเนื่องหกเดือน และเป็นอาการสุดท้ายของโลก คุณจะเป็นแบบนี้จนกระทั้งคุณตายลงอย่างทรมาน




อันดับ 7 มดวัว(Bull Ant)

มด ที่อาศัยในป่าออสเตรเลียตะวันออก เป็นมดโบราณ มีนิสัยแตกต่างจากมดชนิดอื่นๆ ตรงที่มันชอบฉายเดี่ยวล่าเหยื่อ(ตัวมันใหญ่นี้น่า) นอกจากกัดแล้วมันยังต่อยได้อีก เพราะมันมีเหล็กในที่ก้น(เป็นญาติห่างๆ ผึ่ง ต่อ แตน หรือเปล่าเนี้ย) นอกจากนั้นยังมีสายตามองไกลถึง 2 เมตร เรียกได้ว่าน่ากลัวจริงๆ แต่กระนั้นมันก็มีจุดอ่อนคือมันไม่สามารถรับกลิ่นต่างๆ ได้ดีเท่ามดทั่วไปดังนั้นมันจึงอาศัยด้วยตาแทน และแม้มันจะกัดจะต่อยคนไม่ถึงตายเพราะพิษไม่รุนแรง แต่กระนั้นความเจ็บของมันนั้นเรียกได้ว่าเจ็บที่สุดในบรรดาสัตว์ที่กัดมาทุก ชนิดบนโลกใบนี้ เพราะอาการที่มดนี้กัด มีทั้ง แสบร้อน ปวดตุ้บๆ และอาการเหล่านี้มีฤทธิ์นานหลายวันทีเดียว เคยมีรายงานคนตายเพราะมันด้วยนะ





อันดับ 6 เฟินน้ำซาลวิเนีย(Salvinia Molesta)

วัชพืช ที่ยุ่งยามที่สุด เป็นสิ่งมีชีวิตที่กำจัดยังไงก็ไม่มีวันหมด เป็นพืชชนิดหนึ่งอยู่ในกลุ่มเฟินน้ำ ลอยอยู่บนผิวน้ำ มันเติบโตเร็วมาก ใช้เวลาเพียง 2 วันก็เติบโตเต็มที่ นอกจากนั้นยังแพร่พันธุ์เป็นจำนวนมากมายมหาศาลในเวลาอันรวดเร็วด้วย ผลคือเต็มสระทะเลสาป บังสระมิดจนเกิดหายนะ จนทำให้พืชน้ำตายเพราะว่ามันแย่งแสงอาทิตย์ที่ส่องมา และเมื่อไม่มีพืชน้ำสัตว์น้ำก็จะตายเพราะขาดอาหารและออกซิเจนในที่สุด อีกทั้งพืชชนิดนี้กำจัดยังไงก็ไม่มีวันหมด ใน UN เคยเอารถปั่นจันขนมันไปทิ้งจนหมดสระ แต่ก็ไม่แก้ปัญหาได้ เพราะมันแพร่พันธุ์ได้ เพราะส่วนที่เหลือจากการตัดทิ้งสามารถเจริญเติบโตแพร่พันธุ์ท้ายสุด จนเป็นปัญหาต่อชาวบ้านอย่างมากสำหรับสิ่งมีชีวิตนี้




อันดับ 5 ดอกซากศพ(Corpse Flower)

ดอกนี้มีถิ่นกำเนิดที่เกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย มีดอกขนาดใหญ่ สูงเกิน 6 ฟุต กว่าดอกจะออกก็นานมากประมาณ 4- 5 ครั้ง เป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นเหม็นอย่างร้ายกาจ(แต่ที่สุดในโลกหรือเปล่านี้ไม่แน่ใจ ) กลิ่นของมันเหมือนซากศพ(ดังนั้นชื่อของมันเลยตั้งว่าซากศพ) ที่มีกลิ่นนั้นก็เพื่อล่อแมลงมาตอมดอกเพื่อเอาเกสรไปผสมพันธุ์ แม้กลิ่นมันจะเหม็นเพียงใดก็ตามแต่กรนะนั้นนักท่องเที่ยวหลายต่างพากันมาชม ความสวยงามของมัน




อันดับ 4 แมงมุมบราซิล(The Brazilian Wandering spider)

ชื่อก็บอกว่าอยู่บราซิล เป็นแมงมุมที่มีพิษที่ร้ายแรงที่สุดของโลก พิษของมันจะทำลายประสาท พิษของมันถ้าโดนกัดจะเจ็บปวดมาก ทำให้อวัยวะเพศควบคุมไม่ได้ และทำเสื่อมสมถรรณภาพทางเพศด้วย และถ้าไม่รักษาให้ทันเวลาละก็อาจตายได้ เป็นแมงมุมที่อันตรายมากที่สุด มีนิสัยชอบแอบอยู่ตามรองเท้า ตู้เสื้อผ้า แต่ส่วนใหญ่อยู่ป่ากล้วยอ่ะนะ(มันมีอีกชื่อหนึ่งว่า แมงมุมกล้วย บราซิลเป็นประเทศที่ปลูกกล้วยมากที่สุดในโลก)






อันดับ 3 ปลาแคนดิ รูด(Candiru)

หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ปลาไม้จิ้มฟัน พบในแม่น้ำอะเมซอน เป็นปลาที่มีขนาดเล็ก ใหญ่สุดก็ 5 นิ้ว แต่พิษสงนี้ร้ายกาจเกินรูปร่างเลยแหละ ชาวบ้านแถวๆ นั้นกลัวปลาชนิดนี้อย่างมาก มันมีนิสัยเป็นเกาะชาวบ้านกิน มันจะเกาะเหงือกของปลา แล้วก็กัดเหงือกดูดเลือดจากปลานั้นๆ เป็นอาหารจนพอใจ มันขึ้นชื่อว่าเป็นปลาที่สกปรกที่สุด เพราะมันมีนิสัยชอบกลิ่นของปัสสาวะ ถ้าชาวบ้านคนไหนที่เข้ามาว่ายน้ำและฉี่ใส่ลงในแม่น้ำ มันจะรีบว่ายตามกลิ่นยูเรียนั้น จากนั้นมันจะมุดตัวเองเข้าไปอยู่ในท่อปัสสาวะของคน คนที่โดนปลานี้เข้าไปในร่างกายจะเจ็บปวดทรมานมาก มีทางเดียวคือต้องผ่าตัดออก ไม่เช่นนั้นจะเน่าถึงขั้นตัดท่อปัสสาวะทิ้งเลยทีเดียว




อันดับ 2 มนุษย์(human)

มนุษย์ เป็นสัตว์ที่มีสมองและฉลาดที่สุดบนโลก เป็นจ้าวโลกด้วย แต่เพราะความมีสมองนี้เอง ทำให้กลายเป็นสัตว์ที่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมมากที่สุด พวกเขาทำให้น้ำและอากาศสกปรก พวกเขาทำลายป่า ทำลายภูเขา พวกเขามีจรวดปรมาณูที่ทำลายต่อโลก พวกเขามีส่วนทำให้เกิดโรคระบาดชนิดใหม่ๆ ทำลายสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ อีกทั้งมนุษย์ยังแพร่พันธุ์อย่างไม่สิ้นสุดจนเกือบจะล้นโลกใบนี้




อันดับ 1 บอทูลินัม ท็อกซิน(Botulinum Toxin)

ยังมีสิ่งที่ร้ายกว่ามนุษย์อีกเรอะ คำตอบก็คือมีสิ เพราะมันคือ อาวุธเชื้อโรคไงละ มันคือสิ่งมีชีวิตเดียวที่ทำให้มนุษย์สูญพันธุ์ได้ บอทูลินัม ท็อกซินเป็นอาวุธเชื้อโรคที่เกิดการสร้างขึ้นโดยแบคทีเรียที่ชื่อ คลอสตริเดียม บอทูลินัม(Clostridium botulinum เป็น แบคทีเรียที่ไม่พึ่งออกซิเจน มีรูปร่างตรงหรือโค้งเล็กน้อย เคลื่อนไหวได้ ความกว้าง 0.5-2.0 um ความยาว 1.6-22.0 um ความจริงเชื้อโรคพวกนี้สามารถพบได้ทั่วโลกในดินและแหล่งน้ำ ชนิดที่ร้ายแรงคือ types A, B และ E(types A นั้นสามารถมาดัดแปลงเป็นเครื่องสำอางได้ด้วย) มีฤทธิ์ทำให้คลื่นไส้ อาเจียน หมดแรง และเสียชีวิต อาการขึ้นอยู่กับรับเชื้อทางไหน แต่หากนำมาใช้ในสงครามแล้ว สารพิษจะออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว มีการคาดว่ากลุ่มก่อการร้ายทั่วโลกได้นำเชื้อนี้เป็นอาวุธชีวภาพสามารถใช้ สารพิษชนิดนี้พ่นเพียง 1 กรัม จะสามารถทำลายชีวิตมนุษย์ได้ถึง 1.5 ล้านคน!!

มีข้อมูลเสริมนิดหน่อยๆ แม้ว่าพิษนี้จะอันตรายแต่ก็มีประโยชน์การแพทย์เหมือนกัน เช่นใช้ในการผลิดเซรุ่มเป็นต้น(ยังจำข่าวหน่อไม้ปิ๊บจังหวัดน่านได้เปล่า ครับ นั้นแหละพิษของบอทูลินัม)

+++ Hamster +++

+++ Playlist +++


MusicPlaylistRingtones
Create a playlist at MixPod.com

+++ coming soon +++