วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

10 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก (ที่เราไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่)

เรียงจาก 10-1

10. Banaue Rice Terraces

บันไดข้าวที่บานาเวนั้นเป็นการเกาะสลักภูเขาทั้งลูกในการอยู่ในจังหวัดอี ฟูเกา ประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อใช้ในการปลูกข้าว จากประวัตินั้นมันมีอายุกว่าพันปี สมัยก่อนนั้นการทำนาจะต้องใช้พื้นที่ราบ หากแต่พื้นที่ภูมิประเทศนี้เต็มไปด้วยเขาสูงมีที่ราบน้อย น้ำและเนื้อที่ในการทำการเกษตรจึงเป็นปัญหา ด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน จึงได้คิดวิธีทำนาแบบขั้นบันไดขึ้นตามไหล่เขา โดยสกัดไหล่เขาให้เป็นชั้น ๆ ลดหลั่นลงมาเป็นขั้นบันได เพื่อช่วยเพิ่มเนื้อที่ในการเพาะปลูก เป็นการรักษาหน้าดินไม่ให้ถูกชะล้างไป อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาเรื่องน้ำทั้งในแง่การชลประทานโดยการเก็บกักน้ำฝน และยังช่วยป้องกันน้ำท่วมอีกด้วย โดยนาข้าวที่บานาเวนั้นเป็นภูเขาสูงอยู่เหนือน้ำทะเล 5,000 ฟุต นาข้าวแต่ละแห่งมีเนื้อที่ 10,360 ตารางกิโลเมตร และในปี ค.ศ.1985 องค์การยูเนสโกได้จัดสถานที่นี้เป็นมรดกของโลก

9. Sigiriya

คีริยา เป็นเมืองใหญ่โบราณมหึมาของศรีลังกา สร้างขึ้นโดยพระเจ้ากัสสัปปะ ประมาณ ค.ศ. 470 โดยพระองค์ได้สร้างเมืองนี้ขึ้นอยากให้มันเป็นโลกศักดิ์สิทธ์ของพระองค์ เป็นสวรรค์ตนเองอยู่บนตำแหน่งสูงสุด และมันก็เป็นไปตามนั้นจริงๆ เพราะมันที่ใหญ่อลังการมาก ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,300,000 ตารางเมตร มีถนน มีระบบชลประทาน และสถานที่เกี่ยวกับศาสนามากมาก หนึ่งในนั้นนั่นก็คือถ้ำที่พระองค์ทรงสร้างเพื่อมอบแก่พุทธสาวกได้ปฏิบัติ ธรรม0 แต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์ที่สุดก็คือที่ใจกลางเมือง มีภูผาหินขนาดยักษ์ ที่เป็นที่ตั้งของพระราชวังกับป้อมปราการอันน่าเกรงขามและทิวทัศน์ตระการตา สวยงาม ฐานของป้อมที่ก่อด้วยอิฐ มีอายุมากกว่า 1,500 ปี ฮินดู และเป็นหนึ่งในมรดกโลกของศรีลังกา

8. Torun


เมืองทอรูน เป็นเมืองทางเหนือในประเทศโปแลนด์ ที่ยังคงสภาพเป็นเมืองเก่าสมันกลางไว้ได้ ที่นี้เป็นบ้านเกิดของนิโคเลาส์ โคเปอร์นิคัส( Nicolaus Copernicus)นักดาราศาสตร์ที่เสนอทฤษฏีว่าโลกเป็นจุดศูนย์กลาง โดยอายุของเมืองนี้มีมาอย่างยาวนานถึง 1,100 ปี ซึ่งเป็นที่ตั้งถิ่นฐานเก่าของโปแลนด์ โดดเด่นคือเป็นเมืองศูนย์กลางค้าและสถานที่เก่าแก่มากมาย และไม่เปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยแต่อย่างใด

7. Tower of Hercules

10  สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

ประภาคารเฮอร์คิวลิส เป็นประภาคารและสถานที่ทางเข้าของ 'ลา คอรุญญา' ท่าเรือสำคัญ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสเปน เมืองแห่งนี้สร้างขึ้นโดยชาวโรมันมาถึงบริเวณเมืองนี้ในศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล ผู้อาศัยในนิคมนี้ได้สร้างตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ไว้ และในไม่ช้าเมืองนี้ก็มีความสำคัญขึ้นในการค้าทะเล และหอหอเฮอร์คิวลิส เป็นประภาคารที่เปิดทำการต่อเนื่องมาเป็นเวลาเกือบ 1,900 ปี ซึ่งในบริเวณเดียวกันมีสวนประติมากรรม หินแกะสลักจากเหล็กและสุสานมุสลิม ในยุคที่อาณาจักรโรมันยังเรืองอำนาจ ถือเป็นลักษณะเฉพาะตัวที่บ่งบอกถึงประภาคารโบราณสมัยกรีก-โรมัน ซึ่งยังคงให้เห็นความสมบูรณ์แบบของรังวัดในโครงสร้างและการทำหน้าที่แต่ละ ส่วนสอดคล้องต่อเนื่อง

6. Ajanta Caves

10  สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

ถ้ำอชันตา ได้ชื่อว่าเป็นวัดถ้ำในพุทธศาสนาที่งดงามและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาสลับซับซ้อน ในบริเวณฝั่งตะวันตกของที่ราบสูงเดกกัน โดยวิธีการสร้างนั้นเป็นขุดเจาะเข้าไปในหินบาซอลต์ (แกรนิตแข็ง) โดยขุดจากหินก้อนเดียวจนเป็นวิหารขนาดใหญ่โดยใช้สิวและค้อนเท่านั้น ระยะเวลาการเจาะทั้งหมด 800 ปี เริ่มเจาะตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 3 จนกลายเป็นถ้ำมากกว่า 30 ถ้ำ เรียงตัวต่อเนื่องกันยาวหลายร้อยเมตรบนเชิงเขาสูงวงโค้งรูปพระจันทร์เสี้ยว ภายในมีวิหารขนาดใหญ่ภายในเต็มไปด้วยงานแกะสลักหิน เป็นเจดีย์ เป็นพระพุทธรูป เป็นเรื่องราวต่างๆ ในพุทธประวัติและชาดกเต็มไปหมด โดยไม่ผุพังตามกาลเวลาแม้แต่น้อย โดยสถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่ของสงฆ์เพื่ออยู่อย่างสันโดษ แต่แล้วสถานที่แห่งหนึ่งก็เริ่มหมดความสำคัญลง เมื่อพระพุทธศาสนาเสื่อม ขาดการดูแล และถูกทิ้งร้างไปในที่สุด และได้เลือนหายไปจากความทรงจำของชาวอินเดีย จนมาถูกค้นพบโดยกองทหารอังกฤษ นำโดยร้อยเอกจอห์น สมิธ เมื่อ 1819

5. Valley of Flowers


เป็นสถานที่มาท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อยู่ในเทือกเขาหิมาลัย ในรัฐ Uttaranchal ซึ่งอยู่ทางเหนือของอินเดีย ประเทศอินเดีย ที่ถูกยอมรับว่าเป็นสถานที่มีชื่อเสียง สวยงามอย่างกับสวรรค์บนดินจนถูกนำมาบรรยายในวรรณคดีมาหลายศตวรรษและปรากฏใน ศาสนาฮินดูมาช้านานเพราะที่นั้นมีทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์เฮ็มกุน (Hemkund Sahib)ที่พวกพราหมณ์ชอบนำน้ำในแม่น้ำนี้มาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาประจำ(ใคร เคยดูสารคดีตามรอยพระพุทธเจ้าอาจคุ้นๆ) อีกทั้งนักพฤษศาสตร์ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะที่นั้นเต็มไปด้วยพรรณไม้ ดอกไม้นานาพันธุ์ และสถานที่แห่งนี้ได้ถูกประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติในปี 1982 และเป็นมรดกโลก

4. Metéora

10  สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

เมทิโอร่า ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศกรีซ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชมเป็นจำนวนมา ด้วยความเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างอยู่บนก้อนหินใหญ่สูงสง่า โดยอดีตสถานที่แห่งนึ้ถูกใช้เป็นที่พํานักของนักบวชคริสตนิกายออร์โธด็อก ซ ซึ่งไดสร้างอารามไว้บนยอดเขาด้วยมีความเชื่อที่ว่า จะได้ใกล้ชิดกับสวรรค และเป็นการง่ายต่อการป้องกันศาสนาอื่นมารุกรานอีกด้วย ด้วยความโดดเด่นของการสร้างสรรค์ของศิลปะแบบไบแซนไทน์ เมทิโอร่า จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก้ใน ปี 1988

3.Bagan

10  สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

พุกาม เป็นเมืองในประเทศพม่า เคยเป็นที่ตั้งอาณาจักรโบราณพุกาม (1044 - 1287) เป็นอาณาจักรแห่งแรกในประวัติศาสตร์พม่า ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตมัณฑะเลย์ (Mandalay Division) อยู่ห่างประมาณ 90 ไมล์ หรือ 145 กิโลเมตร ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของมัณฑะเลย์ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ เขตเมืองเก่า (เขตที่ตั้งอาณาจักรพุกาม) เขตเมืองใหม่ (เขตที่อยู่อาศัยปัจจุบัน) และยองอู (เขตพาณิชยกรรมและเศรษฐกิจ) มีสนามบินชื่อ สนามบินยองอู เป็นสนามบินประจำเมือง รายได้หลักของเมืองคือ การท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาเยือนที่นี่เสมอทุกช่วงปี โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากแถบเอเชียด้วยกัน เนื่องจากพุกามได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งทะเลเจดีย์ที่สวยงามและมีคุณค่า หรือ ดินแดนแห่งเจดีย์สี่พันองค์ เพราะในสมัยรุ่งเรืองเคยมีเจดีย์มากมายถึง 4,446 องค์ ปัจจุบันเหลือแค่เพียง 2,217 องค์ น่าเสียดายตอนนี้พุกามเป็นเมืองที่ยังไม่ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นมรดกโลก ทั้ง ๆ ที่มีคุณสมบัติเต็มพร้อม ปัจจุบันรัฐบาลทหารพม่ากำลังพยายามเร่งเสนอชื่อและเตรียมความพร้อมให้เป็น มรดกโลกทางศิลปวัฒนธรรมแห่งต่อไป

2. Leptis Magna

10  สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

เมืองเลปติส เมกนา ตั้งอยู่ทางตะวันออกของกรุงทริโปลีในประเทศลิเบียถูกขนาม นามว่าเป็น อาณาจักรโรมันที่มีชื่อเสียงและงดงามมากที่สุดในแอฟริกา ซึ่งปัจจุบันยังคงสภาพ ความรุ่งโรจน์ ด้วยเพราะอาณาจักรถูกสร้างโดยหินปูน จึงทำให้ทนต่อการเกิดแผ่นดินไหวนับครั้ง ไม่ถ้วน จุดเด่นของเมืองมิใช่เพียงแค่ความงาม เท่านั้น แต่ผังเมืองที่ถูกออกแบบมาอย่างดี ไม่ว่า จะเป็นถนน, อาคารซึ่งถูกประดับตกแต่งอย่างงดงาม, โรงอาบน้ำโรมัน ซึ่งถูกวางผังไว้ในตำแหน่ง เหมาะสม, สภาประชุม, หอประชุมสำหรับขุนนาง หรือไม่ว่าจะเป็น โรงละคร หรือคอมเพล็กซ์

สำหรับการพักผ่อนเพลิดเพลินของประชาชน แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองที่สุดของอาณาจักร เล ปติส เมกนา ในช่วงเวลา ปี 111 ก่อนคริสต์กาล จนถึงช่วงที่รุ่งเรืองที่สุด ปี ค.ศ. 211 โดยกษัตริย์ Septimus Severus อาณาจักรเริ่มเสื่อมสลายในช่วงศตวรรษที่ 4 และท้ายที่สุดโดนทรายแห่ง อาหรับลบเลือนไปจากโลกภายนอกปัจจุบัน อาณาจักรเลปติส เมกนา ถูกค้นพบอีกครั้งโดยนัก โบราณคดีชาวยุโรป และยังคงสภาพสมบูรณ์ไว้อย่างชัดเจน จน องค์การยูเนสโก้ประกาศเป็น มรดกโลกในปี ค.ศ.1982

1.The Library of Celsus

10  สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

ห้องสมุดเซลซุสตั้ง เมืองเอเฟซุส ประเทศตุรกี ซึ่งเมืองเอเฟซุสเป็นถิ่นที่อยู่ของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยปลายยุคโลหะ ในราวศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสตกาล ภายใต้การปกครองของอาณาจักรลิเดีย เอเฟซุสเป็นเมืองที่รุ่งเรืองและมั่งคั่งที่สุดในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และรุ่งเรืองถึงขีดสุดอีกครั้งภายใต้การปกครองของโรมัน เป็นเมืองใหญ่ที่สุด 1 ใน 5 ของจักรวรรดิโรมัน และใหญ่ที่สุดในเขตเอเชีย... และห้องสมุดเซสซุสก็เป็นหนึ่งในโบราณสถานที่หลงเหลืออยู่ในอาณาจักรแห่งนี้ ปัจจุบันเหลือเฉพาะด้านหน้าของอาคารเท่านั้น ห้องสมุดเซลซุส เป็นอาคาร 2 ชั้น สร้างในปี ค.ศ.114-117 โดย ดิเบริอุส จูลิอุส อาควิลา เพื่ออุทิศให้กับ 'ดิเบริอุส จูลิอุส เซลซุส' ผู้เป็นบิดา โดยฝังโลงศพหินเอาไว้ที่ใต้หอสมุดและใช้เป็นแหล่งรวบรวมความรู้ แสดงให้เห็นความยิ่งใหญ่ในอดีต ห้องสมุดแห่งนี้มีทางเข้า 3 ทาง โดยบริเวณประตูทางเข้ามีรูปแกะสลักเทพี 4 องค์ประดับอยู่ ได้แก่ เทพีแห่งปัญญา เทพีแห่งคุณธรรม เทพีแห่งความเฉลียวฉลาด และเทพีแห่งความรู้ รูปแกะสลักเทพีทั้ง 4 องค์นี้เป็นของจำลอง ส่วนของจริงนักโบราณคดีชาวออสเตรียได้นำกลับไปออสเตรีย และตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กรุงเวียนนา

10 พฤติกรรมที่ทำให้ร่างกายเสียสมดุล




บางครั้งสิ่งต่างๆ ที่เราทำเป็นประจำทุกวันก็ทำร้ายโครงสร้างของร่างกายให้เสียมสมดุลโดยที่เรา ไม่รู้ตัว ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเป็นพฤติกรรมของคนทำงานแทบทั้งสิ้น เรามาดูกันค่ะว่าพฤติกรรมที่ว่านั้นมีอะไรบ้าง แล้วลองตรวจเช็คดูนะคะว่าคุณทำในสิ่งเหล่านี้กี่ข้อ

1. ใส่รองเท้าส้นสูงเกิน 1 นิ้วครึ่ง สาวๆที่นิยมใส่รองเท้าส้นสูงเกินกว่า 1 นิ้วครึ่งคงต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสียใหม่แล้วล่ะค่ะเพราะการสวมรองเท้า ส้นสูงๆ จะทำให้แนวกระดูกสันหลังช่วงล่างแอ่นมากกว่าปกติ ทำให้โครงสร้างของร่างกายผิดปกติและทำให้มีอาการปวดหลังตามมา


2. นั่งไขว่ห้า นี่ก็เป็นอีกพฤติกรรมที่มีคนนิยมทำกันมาก แต่ทราบไหมคะว่าการนั่งไขว่ห้างเป็นการทิ้งน้ำหนักตัวลงที่ก้นข้างใดข้าง หนึ่ง ซึ่งจะส่งผลให้กระดูกคดอย่างแน่นอนค่ะ


3. นั่งกอดอก
เวลาที่รู้สึกว่ามือไม้เกะกะ ไม่รู้จะจัดการอย่างไรดี การกอดอกไว้เป็นวิธีที่นิยมใช้กันมาก ซึ่งการกอดอกจะทำให้หลังช่วงบนสะบัก และ หัวไหล่ ถูกยืดออก หลังช่วงบนจะค่อมและงุ้มไปด้านหน้าทำให้กระดูกคอยื่นไปด้านหน้า ซึ่งมีผลต่อเส้นประสาทที่ไปหล่อเลี้ยงแขน จึงอาจทำให้มืออ่อนแรง หรือมีอาการชาได้ นอกจากนี้ยังมีผลต่อหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองด้วย เพราะถ้ากระดูกคอผิดรูปไปก็จะทำให้กล้ามเนื้อคอเกร็ง การไหลเวียนของเลือดที่ไปเลี้ยงสมองจึงถูกจำกัด ซึ่งจะนำไปสู่อาการปวดศรีษะ หรืออาจทำให้เป็นไมเกรนเรื้อรังได้


4. นั่งเก้าอี้ไม่เต็มก้น
หลายคนคงจะเคยมีพฤติกรรมแบบนี้มาแล้ว การนั่งเก้าอี้ไม่เต็มก้นจะทำให้กล้ามเนื้อหลังต้อทำงานหนัก เพราะฐานในการรับน้ำหนักตัวแคบ ในทางตรงข้าม ถ้านั่งเก้าอี้ให้เต็มก้นคือเลื่อนก้นให้เข้าไปถึงด้านในสุดจนติดพนักพิง จะทำให้กล้ามเนื้อหลังทำงานน้อยลง และเกิดการรองรับน้ำหนักตัวได้เต็มที่


5. นั่งหลังงอ
บางครั้งเราไม่ได้ตั้งใจที่นั่งหลังงอแต่พอนั่งไปนานๆ เราก็ค่อยๆ งอหลังลงโดยที่ไม่รู้ตัว การนั่งทำงานหลังงอหรือนั่งกลังค่อมเป็นเวลานานจะทำให้กล้ามเนื้อเกร็งค้าง เกิดการคั่งของกรดแลกติค ทำให้มีอาการเมื่อยล้า ปวด และมีปัญหาเรื่องกระดูกผิดรูปตามมา


6. สะพายกระเป๋าหนักๆ ด้วยไหล่ข้างเดียว
มักจะเป็นกลุ่มคุณผู้หญิงเสียเป็นส่วนใหญ่ เพราะมีของจุกจิกใส่ไว้ในกระเป๋ามากมาย การสะพายกระเป๋าหนักๆ ด้วยไหล่ข้างเดียวนานๆ จะทำให้ร่างกายต้องทำงานหนักเพียงซีกเดียว ซึ่งจะส่งผลให้กระดูกคดได้ ทางที่ดีควรสลับข้างกันสะพายบ้างหรือเปลี่ยนมาใช้วิธีถือแทนการสะพายพยายาม ทำให้ร่างกายทั้งสองซีกมีความสมดุล และถ้าเป็นไปได้ก็ไม่ควรสะพายหรือหิ้วของหนักๆ นานๆ


7. หิ้วของหนักๆ ด้วยนิ้ว
โดยเฉพาะคนที่ชอบใช้เพียงบางนิ้วในการหิ้วของ การใช้นิ้วหิ้วของหนักบ่อยๆ จะทำให้เกิดพังผืดยึดตามข้อนิ้วมือ เพราะจริงๆ แล้วกล้ามเนื้อมือและนิ้วเป็นกล้ามเนื้อมัดเล็กมีหน้าที่หลักคือ ใช้หยิบ, จับของเบาๆ หากต้องใช้จับหรือหิ้วของหนักๆ จะทำให้เส้นเอ็นมีการเสียดสีและเกิดพังผืดขึ้นในที่สุด ถ้าหิ้วของหนักมากๆ จะทำให้กล้ามเนื้อมัดอื่นๆ ถูกรั้ง และเกี่ยวโยงไปถึงกระดูกคอ ทำให้กล้ามเนื้อเกร็งมากกว่าปกติ ซึ่งจะมีผลต่อการทรุดของกระดูกและกดทับเส้นประสาทได้


8. ยืนหลังแอ่น และ ยืนหลังค่อม
จำทำให้แนวกระดูกช่วงล่างแอ่นและทำให้เกิดอาการปวดหลังตามมา การยืนที่ถูกต้องคือ ยืนหลังตรง แขม่วท้องเล็กน้อย รวมถึงขณะเดินและนั่งก็ให้แขม่วท้องเล็กน้อยอยู่ตลอดเวลา เพื่อเป็นการักษาแนวกระดูกช่วงล่างไม่ให้แอ่นและทำให้ไม่ปวดหลัง


9. ยืนพักขา
เป็นการยืนโดยทิ้งน้ำหนักตัวลงไปที่ขาข้างใดข้างหนึ่งเพียงข้างเดียว ทำให้กล้ามเนื้อขาข้างนั้นๆ ต้องแบกรับน้ำหนักมากเกินไป และทำให้กระดูกเชิงกรานบิดเบี้ยว ส่งผลให้กระดูกสันหลังคดได้การยืนที่ถูกต้องคือต้องลงน้ำหนักที่ขาทั้ง 2 ข้างเท่าๆ กัน โดยยืนให้ขากว้างเท่าสะโพก จะทำให้เกิดความสมดุลของโครงสร้างร่างกายกล้ามเนื้อขาทั้งสองข้างจะไดรับ น้ำหนักเท่าๆ กัน


10. นอนขดตัว หรือ นอนตะแคง
จะทำให้กระดูกสันหลังไม่อยู่ในแนวตรง ท่านอนที่ถูกต้องที่สุดคือ ท่านอนหงาย โดยให้หน้าขนานกับเพดาน ไม่หงายไปด้านหลัง หรือ งอมาด้านหน้ามากเกินไป หมอนหนุนศรีษะก็ต้องไม่แข็งหรือนิ่มจนเกินไป ควรมีหมอนรองใต้เข่าเพื่อลดความแอ่นของกระดูกสันหลังช่วงล่าง หากจำเป็นต้องนอนตะแคง ให้หาหมอนข้างมาก่าย โดยก่ายให้ขาทั้งหมดอยู่บนหมอนข้างเพื่อรักษาแนวกระดูกให้อยู่ในแนวตรง

เป็น อย่างไรบ้างคะสำหรับพฤติกรรมทั้ง 10 ข้อนี้ คุณมีกี่ข้อคะยิ่งมีมากข้อเท่าไหร่ โครงสร้างของร่างกายก็เสียสมดุลมากเท่านั้นเพราะฉะนั้นมาปรับพฤติกรรมใน ชีวิตเสียใหม่ เพื่อสุขภาพที่ดีของร่างกาย



ที่มา
ผู้หญิงนะคะ

มองโลกในแง่ดี กายสดใส ใจเป็นสุข

ในสังคมปัจจุบันนี้มี สิ่งที่เข้ามากระทบชีวิต ความเป็นอยู่ ความรู้สึก นึกคิดของเราทุกวินาที หากเราสัมผัส รับเข้ามาแล้วเราไม่มีสติ ปรับเปลี่ยนไม่เป็น เราก็อาจจะเผลอตัว เผลอใจ เกิดปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งนั้นทันที การตอบสนองที่เป็นความดีนั้นก็น่าชื่นชม..แต่การตอบสนองที่ไม่ดีเป็นเรื่อง ที่เราควรระวังให้มาก เพราะทำไปแล้ว ตอบสนองไปแล้วเป็นเรื่องที่จะตามแก้ยาก แม้จะแก้ จะขอโทษไปแล้วแต่ก็มีร่องรอยแผลเป็นในใจของเขาไปตลอดชีวิต..หรือบางเรื่อง อาจจะบอกต่อ เป็นมรดกถ่ายทอดไปยังลูกหลานของเขาด้วย



วันนี้ เรามาฝึก สติ มาฝึกควบคุมปฏิกิริยาการตอบสนองกันหน่อยดีไหม โดยเริ่มจากการฝึกคิดในแง่ดี หรือ การคิดเชิงบวกต่อสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาหาเรา..ถ้าสิ่งที่เข้ามาหาเราแล้วเราไม่ชอบ เราโมโห เราโกรธ..เรามาลองฝึกควบคุมสติ ฝึกปรับเปลี่ยนความคิดของเราตามตัวอย่างต่อไปนี้


1.
เพื่อนนินทาเราในเรื่องที่ไม่จริง

เป็น โอกาสดีแล้วที่เพื่อนคนนั้นเป็นกระจกเงาส่องดูตัวเรา อย่างดี ว่าเราอาจจะมี หรือเผลอตัวไปทำอย่างที่เพื่อนคนนั้นว่าก็ได้ เราจะได้มีโอกาสปรับปรุงตัวเอง… หรือเป็นโอกาสดีที่เราจะได้มีโอกาสชี้แจงความจริงให้คนอื่นเข้าใจเรามากขึ้น ต้องขอบคุณเพื่อนที่สร้างงโอกาสนี้ให้ ถ้าเป็นเรื่องไม่จริง เพื่อนคนนั้นถ้าเขายังนินทาเราหรือคนอื่น ๆ ไม่หยุด คนอื่นจะไม่คบเขาอีกเลย เพราะกลัวถูกนินทา เขาจะเป็นคนที่น่าสงสารในวันข้างหน้า

2. เพื่อน ยืมเงินแล้วไม่คืน

ไม่ เป็นไร..ขอ กันกินมากกว่านี้ สงสัยชาติที่แล้วเรายืมเขามา ชาตินี้เขาจึงมาเอาคืน ว่าแล้วก็ไปทำบุญกรวดน้ำให้เขาเป็นสุข ให้เราได้บุญกุศล หมดกรรมซะ หากไม่มีเวรกรรมต่อกัน ก็แสดงว่าเขาก่อเวรเอง ชาติหน้าเขาต้องมาใช้เรา ถือว่าทำบุญไว้เผื่อชาติหน้าก็แล้วกัน …พฤติกรรมแบบนี้ถ้าเราไม่ชอบก็ถือเป็นบทเรียนว่าเราอย่ายืมใคร หรือ เราอย่าโกงใคร…คง ไม่มีใครหรอกที่จะไว้ใจคนที่หักหลัง คดโกงเพื่อนแบบนี้...คราวต่อไปอย่าให้ยืมอีก หรือถ้าจะช่วยเหลือคนอื่นก็ช่วยตามที่สมควร เราไม่เดือดร้อน เราไม่เสียใจภายหลัง

3. แฟน บอกเลิก

ก็ดีนะ ได้เรียนรู้ชีวิตนี่ เป็นการพิสูจน์สัจธรรมอีกครั้งว่า ไม่มีใครที่รักเราเท่าพ่อ แม่ของเรา ..เธอไปก็ดีแล้วหละเราจะได้ว่างเพื่อตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ที่รักเรา ที่เลี้ยงเรามา..เราเพิ่งจะรู้จักกันไม่กี่วันนี้เอง ไม่มีเขามาตั้งนานเรายังอยู่ได้ วันนี้ไม่มีเขาเราก็อยู่ของเราคนเดียวได้เหมือนเดิม .. เลิกกันวันนี้ก็ดีแล้ว ไม่ต้องเสียเงินแต่ง ไม่ต้องมีภาระเลี้ยงลูก เป็นโสด ไปไหน มาไหนได้สบายดี จะได้มีเวลาพัฒนาตนองให้ดีขึ้นกว่าเดิมเดี๋ยวก็มีคนที่ดีกว่าเธอมาชอบเราเอง แหละ ..ขอบคุณจริง ๆ ที่เลิกกับฉัน

4. รักเขา แต่เขาไม่รักเรา

ไม่ เป็นไร พระท่านว่า ความสุขอยู่ที่การให้ ถ้าเราให้ความรักเขาอย่างบริสุทธิ์ใจแล้ว เราก็มีความสุขแล้วไม่ใช่หรือ.. อย่าไปหวังอะไรจากเขาเลย เขาก็มีความรู้สึกรัก ไม่รักของเขาเอง บังคับเขาไม่ได้ เรารักเขา ทำความดีกับเขาอย่างสม่ำเสมอเราก็จะมีความสุขสม่ำเสมอแล้ว..ความรักไม่จำ เป็นต้องลงเอยด้วยการแต่งงานเสมอไปหรอกนะ...หรือหากเขาเห็นความดี เขาก็จะรักเราเอง หรือ ถ้าเขาไม่รัก ก็จะมีคนอื่นมารักความดีของเราเอง รักคนที่เขารักเราดีกว่านะ..

5. ช่วยเพื่อนทุกครั้ง แต่เพื่อนยังคิดร้ายกะเราอีก

ปลงซะเถอะโยม..คิดว่าช่วยหมาตกน้ำให้รอด ตายสักตัวก็แล้วกันหมาบางตัวไม่รู้คุณคน ก็ปล่อยมันไปเถอะอย่าไปเลี้ยงดู คบหากับมันอีก เจ้า เพื่อนคนนี้ก็เหมือนกัน เราช่วยแล้วก็แล้วไป ปล่อยเขาไปเถอะอย่านำเรื่องของเขามาคิดให้ใจเราขุ่นมัวเลย เราคิดใจเราก็ เศร้า ใจเรานี่แหละเป็นทุกข์เอง ตัวเพื่อนคนนั้นมันไปหัวเราะมีความสุขที่ไหนแล้วก็ไม่รู้ แล้วเราจะนำเรื่องของเขามาทุกข์ มาทำร้ายใจเราเองทำไม ถ้าคิดถึงเรื่องสุข ใจเราก็เป็นสุข เราเลือกที่จะคิด เลือกที่จะทำ ด้วยตัวเราเองได้นี่นา รักษาความสงบสุขในใจเราไว้ดีกว่านะ

6. เราสอนงานหลายครั้งแล้ว เพื่อนก็ยังทำงานผิดอีก

นี่แหละ พระเจ้ากำลังทดสอบความอดทน อดกลั้นของเรา กำลังสอนเราให้เข้าใจคำว่า " คน" มันก็มีดี มีเสียอย่างนี้แหละ บางเรื่องเข้าใจยาก บางเรื่องเข้าใจง่าย ทำง่าย ..ตัวเราเองก็เคยทำผิดหลายครั้ง.. อย่าโกรธ อย่าโมโหเขาเลยนะ เราน่าจะยิ้มให้ใบหน้าเราสวย ๆ ดีกว่า…หรือ ว่าบางทีเราอาจจะสอนเขาไม่ดี..ลองสอนใหม่ ละเอียดขึ้น ทำให้เขาดูก่อน สอบถามเขาเป็นระยะๆ ให้เขาลองทำให้เราดูว่าเขาเข้าใจไหม ติดตามใกล้ชิดขึ้นอย่ารองานเสร็จแล้วค่อยถาม..เขาน่าจะเข้าใจและไม่ทำผิดอีก

7. หัวหน้าให้มาทำงานวันหยุด

ดีแล้ว เราจะได้ทำงานให้เสร็จก่อนคนอื่น ทำงานมาก บริษัทขายดีมีกำไร เราก็มีงานทำ มีรายได้เลี้ยงลูก เลี้ยงพ่อแม่ของเรา …วัน หยุดคนน้อย มีสมาธิทำงานดีกว่าวันปกติ ..ไม่มีคนกวนใจ ได้แต่งตัวสวย ๆ ตามสบายไม่ต้องอยู่ในระเบียบ...หัวหน้ากำลังสอนเรา กำลังปั้นเราให้เก่ง ให้รู้หลายเรื่อง เพิ่มความสามารถ เพิ่มประสบการณ์ให้เรา ที่โรงเรียน ที่บ้านไม่มีสอนหรอกนะ ได้ฝึกตัวเองให้เป็นคนสู้งานหนักถ้าเราทำได้ ทำดีในวันนี้ เราก็อาจจะได้ดีในวันหน้า...

8. พนักงานมาเบิกของในเวลาพัก ขณะงัวเงียจะหลับ

ดี แล้วน้อง ถ้ามัวแต่รอ มัวแต่เกรงใจงานจะไม่ทัน จะเสียเวลาทำงาน บริษัทของเราจะเสียหาย งานของน้องก็เป็นงานของพี่เหมือนกัน หรือวันอื่นพี่จะไปขอความช่วยเหลือจากน้องบ้าง ..พวกเราคนกันเองด้วยกันทั้งนั้น..ไหนมาดูซิเบิกอะไร พี่ช่วยถือไป ส่งไหม...

9. หัวหน้าให้ไปเรียนงานกับคนเราไม่ชอบ

โอกาส ดีที่สุดมาถึงแล้ว ที่เราจะได้มีโอกาสเปิดใจกับเขาตรงไป ตรงมา ที่ผ่านมาเราอาจจะทำไม่ดีกับเขา หรือเราจะไม่เข้าใจกัน จะได้มีโอกาสขอโทษเขา เท่าที่ดูเขาก็เป็นคนดีนะ น่าจะมีความดี ความรู้หลาย ๆ อย่าง ที่เราน่าจะเรียนรู้จากเขา เราจะได้มีเพื่อนเพิ่มอีกคนหนึ่ง ยิ้มและเต็มใจที่จะรับโอกาสดีที่จะเกิดขึ้นกับเรา..ยิ้มและสวัสดีทักทายกับ เขาก่อนดีว่านะ..

10. บริษัทประกาศปิดกิจการ

โอ.. ก็ดีนะ อาจจะเป็นโอกาสที่เราจะได้ลองไปประกอบอาชีพอื่นดูบ้าง หรืออาจจะถึงจังหวะชีวิตที่เราจะได้เป็นเจ้าของกิจการเองแล้วหละ..ลองนั่ง ทบทวนดูว่าเราชอบทำอะไร ..อะไรที่เราทำได้ดี ..อะไรที่เราอยากทำ นั่นแหละคืออนาคตของเรา ..คิดและลงมือทำเลย ถ้าคนอื่นทำได้ ทำไมเราจะทำไม่ได้ ..ไหน ลองตะโกนบอกตัวเองดัง ๆ 3 ครั้งซิว่า.เราทำได้ เราทำได้และเราทำได้..สู้ ๆ ชีวิตนี้เป็นของเรา..เห็นไหม ความรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย...

หลักการสังเกตและจดจำลักษณะบุคคล

บ่อยครั้ง ที่เราจำเป็นต้องบรรยาย บอกเล่าลักษณะของบุคคล
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นคนร้าย หรือคนทั่วไป
เราจะมีหลักในการจดจำเพื่อนำมาถ่ายทอดให้เห็นภาพได้ถูกต้อง ตามหลักการอย่างไรบ้าง

ข้อมูลต่อไปนี้ น่าจะเป็นประโยชน์
เก็บมาจากเว็บไซท์ของตำรวจ ในหมวดที่เป็นสาระน่ารู้สำหรับประชาชน
ที่น่าสนใจคือข้อมูลเกี่ยวกับตัว คนร้าย




มีวิธีการสังเกตและจดจำคนร้ายได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำได้ อย่างไรบ้าง?

ผู้ประสบเหตุมักมีเวลาน้อยมากในการ สังเกตและจดจำคนร้าย เนื่องจากเหตุการณ์จะเกิดขึ้นและจบลงด้วยความรวดเร็ว อีกทั้งคนร้ายมักจะพยายามไม่เปิดเผยโฉมหน้าของตนให้คนอื่นเห็นได้โดยง่าย

ผู้ ประสบเหตุจึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องพยายามมองให้เห็นใบหน้าของร้ายให้ได้ เป็นลำดับแรกก่อน เพราะใบหน้าเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่จะทำให้ทราบได้ว่าคนร้ายเป็นใคร หรือมีหน้าตาอย่างไร

เพื่อที่จะนำไปใช้ประโยชน์ในการออกหมายจับ และส่งตัวคนร้ายไปดำเนินคดีในชั้นศาลต่อไป

เนื่องจากข้อจำกัดในระยะเวลาที่สั้น และการปกปิดใบหน้าของคนร้ายดังกล่าวแล้ว ผู้ประสบเหตุจึงต้องมีเทคนิควิธีในการสังเกตและจดจำใบหน้าคนร้าย ดังนี้คือ

1. พยายามจ้องมองให้ได้เค้าใบหน้าของคนร้ายโดยรวมไว้ก่อน
แล้วจดจำไว้ใน มโนภาพเหมือนกับการใช้กล้องกดชัตเตอร์ถ่ายภาพไว้บนฟิล์ม

2. พยายามระลึกถึงเหตุการณ์และภาพใบหน้าคนร้ายไว้อย่างต่อเนื่องกันเลือนหาย
จน กว่าจะมีโอกาสให้ข้อมูลแก่ตำรวจเรียบร้อยแล้วเนื่องจากสมองของเราไม่ใช่แผ่น ฟิล์มในกล้องถ่ายภาพ ซึ่งหากปล่อยไว้เป็นเวลานานโดยไม่ระลึกภาพไว้บ่อยๆ

ภาพ เหตุการณ์และภาพใบหน้าของคนร้ายก็จะค่อยๆ เลือนหายไปโดยอัตโนมัติ และจะไม่มีวันหวนคืนมาได้อีก นอกจากจะได้มีโอกาสพบเห็นภาพเหตุการณ์และภาพใบหน้าคนร้ายซ้ำอีกครั้ง

3. หากบังเอิญใบหน้าคนร้ายเหมือนหรือมีความคล้ายคลึงใกล้เคียงกับคนที่เคยเห็น หน้าหรือรู้จักมาก่อน ก็ควรพยายามเทียบเคียงกันไว้จะทำให้การจดจำใบหน้าคนร้ายมีประสิทธิภาพมาก ยิ่งขึ้น

4. หากมีโอกาสจ้องมองใบหน้าของคนร้ายได้นานมากขึ้น ควรสังเกตเน้นไปที่รายละเอียดขององค์ประกอบของใบหน้าให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนประกอบที่เปลี่ยนแปลงได้ยาก คือสีผิว หน้าผาก คิ้ว ตา จมูก ปาก คาง รูปหน้า ใบหู แผลเป็นและรอยสัก
นอกจากนี้ก็ควรสังเกตไว้ ประกอบ เช่น
สีผม ทรงผม หมวก แว่นตา ตุ้มหู สร้อยคอ
เสื้อ เข็มขัด กางเกง ถุงเท้า รองเท้า ขนาดรูปร่าง ความสูง และอายุ


หลักในการบอกเล่าลักษณะบุคคล






















ขอบ คุณบทความจากอรุณสวัสดิ์

มุมหนึ่งของความคิดที่ทำให้ชีวิตดู ง่ายขึ้น






"Bad day is just a day"
ไม่ต้องกลัวหรอกว่าวันร้ายๆจะอยู่กับเรานาน
ตราบใดที่โลกยังหมุน อยู่ตลอดเวลา
ทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาก็จะต้องผ่านไปทั้งนั้น
จะ เป็นไรไป หากชีวิตจะมีวันร้ายมากหน่อย
วันดีน้อยหน่อย ดีเสียอีกที่เป็นอย่างนี้
เราจะได้เรียนรู้คำว่า "ชีวิต" ได้อย่างเต็มที่
ให้คุ้มค่ากับที่ได้เกิดมาเป็นคน




"Call of miss"
แค่ ครั้งเดียวที่เราได้โทรหาใครบางคน
อาจทำให้หัวใจเปี่ยมล้นด้วยกำลังใจไป อีกยาวนาน
บางที call of miss ครั้งนี้อาจทำให้เช้าวันต่อไปของเรา
เป็น เช้าที่สวยงามที่สุด
ในรอบหลายๆปีที่ผ่านมาก็ได้


"ความเหงา...ไม่เคยทำร้ายใคร"
ความเหงา...มีสิ่งดีๆบางอย่างซ่อนอยู่
ถ้าหากเราเรียนรู้ที่จะอยู่ กับความเหงาให้เป็น
เราก็จะได้เห็นสิ่งนั้น
ความเหงา...เพียงต้อง การให้เราลองฝึกที่จะอยู่กับตัวเอง
เพราะถ้าเราอยู่กับตัวเองยังไม่ได้
จะ อยู่กับใครก็ไม่มีความสุข


"หลักไกลจากคนที่ทำให้เรารู้สึกไร้ค่า"
ดอกไม้ ที่งดงาม...ต้องถูกปักลงในแจกันที่เก่ากรุ
ความงดงามของดอกไม้นั้น...ก็ อาจเลือนหายไป
หากเราเชื่อมั่นในคุณค่าของตัวเอง
เราก็จะเป็นดอกไม้ ที่งดงามที่สุดได้..แม้ไม่ต้องมีแจกัน


"ให้อภัย...ง่ายที่สุด"
ความ โกรธ...ก็เหมือนกับไฟร้อนที่สุมอกเรา
ถ้าไม่รีบเอาน้ำมาดับเสีย..ใจเรา คงมอดไหม้ไปในที่สุด
โกรธไป ก็เปลืองใจ
แก้แค้นไป ก็เปลืองเวลา
ให้ อภัยเสียดีกว่า เพื่อตัวเราเอง


"อ้อมกอดของตัวเอง"
จะ หากำลังใจจากใครนั้น...แสนยากลำบาก
เห็นจะมีแต่กำลังใจจากตัวเองนี่แหละ ที่พร้อมใช้งานเสมอ
เข้มแข็งเสียทีแล้วจะรู้ว่าโลกนี้ไม่โหดร้ายเลย



จากหนังสือ "มุมหนึ่งของความคิดที่ทำให้ชีวิตดูง่ายขึ้น"

+++ Hamster +++

+++ Playlist +++


MusicPlaylistRingtones
Create a playlist at MixPod.com

+++ coming soon +++