วันอังคารที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2553

10 อันดับวัดสวยที่สุดในโลก

1 - Tiger's Nest Monastery, Phutan


ถือ เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุด ของภูฐาน ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง 700 เมตร
จาก พื้นล่างในหุบเขาปาโร และด้วยระดับความสูง 3,120 เมตร
จากระดับน้ำทะเล ฉายาว่า “รังเสือ” ของวัดนี้ ได้มาจากตำนานเก่า
ที่เล่าว่า พระรินโปเช (Padmasambhava - Guru Rinpoche)
ซึ่งเป็นผู้เผยแพร่นิกายมหายานในภูฐาน ได้เหาะมาที่นี่บนหลังเสือ
และได้เข้าไปนั่งวิปัสสนากรรมฐานอยู่ในถ้ำ เป็นเวลาถึง 3 เดือน
หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2227 จึงเริ่มมีการสร้างวัดขึ้น

2 - Wat Rong Khun in Chiang Rai


วัดร่องขุ่น (Wat Rong Khun) ออกแบบและก่อสร้างโดย
อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ซึ่งปรารถนาจะสร้างวัด
ให้เหมือนเมืองสวรรค์ที่มนุษย์สัมผัสได้ เริ่มสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2540
จากเดิมมีเนื้อที่ 3 ไร่ ได้ซื้อที่ดินเพิ่มและมีผู้บริจาคคือ
คุณวันชัย วิชญชาคร จนปัจจุบันมีเนื้อที่ 9 ไร่


3 - Prambanan : Hindu temple, Indonesia



วัด ฮินดูพรัมบานัน : Prambanan Temple
พรัมบานันเป็นวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุด ในประเทศอินโดนีเซียหรือจะเรียกว่า
ใหญ่ที่สุดในเอเซียอาคเนย์เลยก็ได้ ตั้งอยู่ที่เมืองพรัมบานัน
ตอนกลางของเกาะชวา และอยู่ไม่ไกลจากยอกยากาตาร์มากนัก
วัดถูกสร้างขึ้นเมื่อราวปี พ.ศ. 1340 โดยสันนิษฐานว่า
น่าจะสร้างขึ้นในสมัยของกษัตริย์ Rakai Pikatan
จาก ราชวงศ์ Mataram ที่ 2 หรืออาจะสร้างในสมัยกษัตริย์
Balitung Maha Samba จากราชวงศ์ Sanjaya
ได้รับความเสียหายมากในช่วงปี 2006 เพราะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่นี่


4 - The Shwedagon Paya (or Pagoda), Myanmar



พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ
เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เชื่อกันว่าเป็นมหาเจดีย์ที่บรรจุ
พระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น
ตามตำนาน เจดีย์ชเวดากองนั้นสร้างเมื่อง 2,500 ปีที่แล้ว
แต่ นักโบราณคดีเชื่อกันว่าสร้างระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 6-10
สร้างโดยชาว มอญ ตามตำนานนั้นเริ่มจากว่า มีสองพี่น้อง
พ่อค้า 2 คน ได้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้ามา พระองค์จึง
ประทานพระเกศามา 8 เส้น พระเจดีย์ได้ถูกทิ้งร้าง
จนมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 14 รัชสมัยพระเจ้าพินยาอู
ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระเจดีย์ใหม่สูง 18 เมตร
พระเจดีย์ได้ถูกซ่อมแซมมาเรื่อยมา จนมามีความสูง 98 เมตรในปัจจุบัน
บนยอดสุดของพระเจดีย์ มีเพชรอยู่ 5,448 เม็ด โดยเฉพาะ
ชั้นข้างบนสุดมีเพชรเม็ดใหญ่อยู่ 72 กะรัต และทับทิม 2,317 เม็ด

5 - Temple of Heaven : a Taoist temple in Beijing



หอฟ้าเทียนถานเป็นสถานบวงสรวงเทพยดาที่ใหญ่ที่ สุดแห่งหนึ่ง
ซึ่งยังคงรักษาไว้ในจีน ประกอบด้วยตําหนักฉีเหนียนเตี้ยน ตําหนักหวงฉงอี่
และลานหยวนชิว เป็นต้น เทียนถานตั้งอยู่ทางทิศใต้ของกรุงปักกิ่ง
มีเนื้อที่ทั้งหมด ๒๗๓ เฮกต้าร์ เป็นสถานซึ่งจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิง
และราชวงศ์ชิงใช้เป็น ที่บวงสรวงเทพยดา ในระยะย่างเข้าฤดูหนาว
ถึงเดือนอ้ายตามจันทรคติทุกปี พระจักรพรรดิจะเสด็จไปประกอบ
พระราชพิธีบวงสรวงที่นั่นเพื่อให้การเก็บ เกี่ยวได้ผลอุดม

6 - Chion-in Temple : Kyoto, Japan



วัดจิออนอิน (Chion-in temple) พื้นที่ของวัดนั้ใหญ่โตอลังการ
แทรกตัวอยู่ในเขาเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ร่มรื่นมาก
วัดนี้สร้างในปี ค.ศ. 1234 เพื่อเป็นเกียรติให้กับผู้ก่อตั้ง
ศาสนาพุทธนิกายโจโด เป็นนักบวช ชื่อว่า Honen

7 - Borobudur, Indonesia



บุโรพุทโธ ( Borobudur ) พุทธสถานอันศักดิ์สิทธิ์
ที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 8-9 โดยกษัตริย์ราชวงศ์ไศเลนทร
ตั้งอยู่บนเนินสูงของเกาะชวาภาคกลาง ห่างจากเมือง
ยอกยากาตาร์ ( Yogyakata ) ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ประมาณ 40 กิโลเมตร ถือเป็นโบราณสถาานขนาดใหญ่
และเป็นศูนย์รวมแห่งความ ภาคภูมิใจของชาวอินโดนิเซีย
และชาวพุทธทุกคน ซึ่งหวังจะไปแสวงบุญสักครั้งในชีวิต
เจดีย์บุโรพุทโธรูปทรงดอกบัวนี้ก่อ สร้างตามแบบศิลปะฮินดู-ชวา
หรือศิลปะชวาภาคกลางที่ผสมผสาานระหว่าง อินเดียและอินโดนีเซีย
ได้อย่างกลมกลืนที่สุด บุโรพุทโธเปรียบเป็นศูนย์กลางของจักรวาล

8 - The Harmandir Sahib : the Golden Temple in Punjab



วิหารฮัรมันดิร ซาฮิบ หรือ วิหารทองคำ เป็นวิหารที่สำคัญที่สุด
ในศาสนาซิก ตั้งอยู่ที่เมืองอัมริตสาร์ เมืองหลวงของ
แคว้นปัญจาบ ทางภาคเหนือของประเทศอินเดีย

9 - The Temple of Srirangam
( Sri Ranganathaswamy Temple)



วัดนี้อยู่ในประเทศอินเดีย เมือง Tiruchirapalli
หรือ Trichy เป็นวัดของศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในโลก

10 - Ankor Wat : the largest temple in history



ปราสาทนครวัด (Angkor Wat) เป็นเทวสถานฮินดูลัทธิไวษณพนิกาย
ที่นับถือพระวิษณุเป็นเทพเจ้าสูงสุด สร้างโดยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2
เมื่อช่วงครึ่งแรกคริสต์ศตวรรษที่ 12 เพื่ออุทิศถวาย
แด่องค์พระวิษณุที่พระองค์เชื่อว่า เป็นร่างของพระองค์เอง
ในขณะที่ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ และหลังจากสิ้นพระชนม์ไปแล้ว
ศาสนสถานแห่งนี้ ก็จะเป็นพระราชสุสานที่พระองค์
จะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับองค์พระวิษณุ

ลดน้ำหนัก ลดความอ้วน ตามราศีเกิด



ราศีมังกร (22 ธ.ค. - 19 ม.ค.)
คนเกิดราศีนี้ มีอารมณ์ขัน ชอบหัวเราะ สนุกสนาน เวลาทานอาหารลองทานพร้อมอ่านหนังสือเบาสมอง ดูโทรทัศน์รายการโปรด หรือชวนเพื่อนอารมณ์ดีมาทานอาหารด้วยกัน เอาแบบทานไปขำกลิ้งไป ประมาณนั้น นอกจากจะได้เผาผลาญพลังงานจากการหัวเราะแล้ว ยังทานได้น้อยลงอีกด้วย ส่วนอาหารก็ควรเน้นเป็นอาหารแคลอรี่ต่ำ

ราศีกุมภ์ (20 ม.ค. - 18 ก.พ.)
คนเกิดราศีนี้ ชอบคิด ชอบประดิษฐ์ เป็นนักวางแผน เวลาไดเอ็ตนอกจากจะสามารถวางแผนการออกกำลังกาย และการควบคุมอาหารให้เหมาะสมได้แล้ว ยังสามารถคิดสูตรอาหารไขมันต่ำต่างๆ เป็นสูตรของตัวเองได้อีกด้วย จึงทำให้การลดน้ำหนักไม่เป็นเรื่องน่าเบื่อเลย

ราศีมีน (19 ก.พ. - 20 มี.ค.)
คนเกิด ราศีนี้ มีกฎระเบียบแบบแผน ชอบทำตามขั้นตอน เมื่อจะลดน้ำหนักจึงทำได้ดี โดยหมั่นค้นคว้าเรื่องเกี่ยวกับอาหารแคลอรี่ต่ำ ทั้งจากหนังสือ นิตยสาร ตำราอาหาร จนถึงอินเตอร์เน็ต รวมทั้งเสริมด้วยการออกกำลังกายตามตัวอย่างในรายการโทรทัศน์ หรือซีดีแอโรบิค จึงทำให้การไดเอ็ตกลายเป็นเรื่องน่าสนุกไป

ราศีเมษ (21 มี.ค. - 19 เม.ย.)
คน เกิดราศีนี้ มักดำเนินชีวิตอย่างเร่งรีบ แข่งกับเวลา เสียจนไม่มีเวลาพอที่จะเลือกซื้อหรือเตรียมอาหารเพื่อการไดเอ็ตเป็นประจำ วิธีที่สามารถช่วยให้ลดสัดส่วนได้สำเร็จ ก็คือ ให้ซื้ออาหารสำเร็จรูปแช่แข็งที่มีแคลอรี่ต่ำมาเก็บตุนไว้ เพื่อไม่ต้องไปหาซื้อบ่อย การออกกำลังก็เช่นกัน มักบ่นว่าไม่มีเวลา ทางแก้คือ ใช้ช่วงที่เดินไปทำงานนั่นล่ะ โดยการเดินเร็วๆ และพยายามไม่ใช้ลิฟท์ ขยันเดินให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนเกินของก็จะหายไปอย่างรวดเร็ว

ราศีพฤษภ (20 เม.ย. - 20 พ.ค.)
คนเกิดราศี นี้ เป็นคนรอบคอบ ชอบวางแผนการแบบละเอียดลออ การลดสัดส่วนของจึงเป็นไปได้โดยไม่ยุ่งยากนัก สามารถกำหนดตารางการไดเอ็ตได้อย่างเหมาะเจาะ ยิ่งถ้าสามารถจัดสรรเวลาสำหรับการปลดปล่อย โดยการทานอาหารมื้อใหญ่ตามใจอยากสักสัปดาห์ละครั้งได้ จะเป็นการช่วยเพิ่มความสุขในการไดเอ็ตได้อีกมาก

ราศีเมถุน (21 พ.ค. - 21 มิ.ย.)
คนเกิดราศี นี้ ชอบเข้าสังคม พิสมัยงานปาร์ตี้รื่นเริง ชอบเฮฮากับเพื่อนฝูง ดังนั้นในช่วงที่ไดเอ็ตควรหักห้ามใจที่จะสังสรรค์บ้าง โดยการปฏิเสธงานเลี้ยง งานปาร์ตี้ ถ้ากลัวเหงา ก็ชวนเพื่อนๆ มาทานอาหารแคลอรี่ต่ำที่บ้าน หรือนัดสังสรรค์ โดยเน้นแต่อาหารไดเอ็ต ก็จะช่วยให้ได้ผลดียิ่งขึ้น

ราศีกรกฎ (22 มิ.ย. - 22 ก.ค.)
คนเกิดราศี นี้ มีจินตนาการสูง ชอบค้นหาสิ่งแปลกใหม่ ไม่ชอบความจำเจ ดังนั้น ควรหาอาหารแคลอรี่ต่ำแปลกๆ ใหม่ๆ มารับประทาน โดยเปลี่ยนเมนูอาหารบ่อยๆ ไม่ให้ซ้ำซาก จำเจ จะได้ไม่เบื่อหน่ายกับการลดน้ำหนักไปเสียก่อน รวมทั้งสลับสับเปลี่ยนวิธีการออกกำลังกายให้หลากหลายด้วย เช่น วันนี้ว่ายน้ำ พรุ่งนี้วิ่งเหยาะๆ เป็นต้น

ราศีสิงห์ (23 ก.ค. - 22 ส.ค.)
คนเกิดราศี นี้ มักไม่ชอบให้ใครบังคับข่มขู่ แต่ชอบให้คนยกย่อง สรรเสริญ เอาอกเอาใจ ถ้ามีใครมาเคี่ยวเข็ญให้ลดน้ำหนักล่ะก็คงไม่มีวันทำแน่นอน เพราะชอบทำให้สำเร็จด้วยตัวเอง รวมทั้งชอบให้รางวัลกับตัวเองด้วย ลองทำอย่างนี้นะคะ ให้คุณวัดรอบเอวก่อนลดสัดส่วน หลังจากนั้นผ่านไป 1 เดือนให้วัดอีกรอบ ถ้าลดลงได้สัก 1-2 นิ้ว ก็ให้รางวัลกับตัวเอง ด้วยการซื้อเสื้อผ้าชุดที่เคยอยากได้หรือไปเสริมสวยให้สบายใจ
ราศีกันย์ (23 ส.ค. - 22 ต.ค.)
คน เกิดราศีนี้ เป็นคนที่ใฝ่รู้ใฝ่ศึกษา ชอบค้นคว้าหาความรู้จากตำรา ห้องสมุด และเป็นครูอาจารย์ที่ดีได้ ดังนั้นน้ำหนักส่วนเกิน จึงหายไปได้อย่างรวดเร็ว เพราะได้ทำตามหลักโภชนาการทุกกระเบียดนิ้ว ตำราเกี่ยวกับการควบคุมน้ำหนักและการออกกำลังกาย จะถูกศึกษาจนละเอียดลึกซึ้ง เมื่อลดน้ำหนักได้สำเร็จแล้ว ยังชอบที่จะบอกต่อวิธีการลดน้ำหนักของตัวเองที่ได้ผลนั้น ไปยังเพื่อนฝูงที่อยากไดเอ็ตอีกด้วย

ราศีตุลย์ (23 ต.ค. - 23 ก.ย.)
คน เกิดราศีนี้ มักชอบความมีสีสัน ชอบสิ่งสวยงาม ดูแล้วสบายตา ดังนั้น การไดเอ็ตให้ได้ผล ควรเลือกสรรอาหารที่มีหน้าตาสวยงามน่าทาน จานชามที่ใส่ก็ควรเลือกให้เข้าชุดกัน เพราะวิธีการเพิ่มสีสันเป็นตัวช่วยได้มากเลยทีเดียว ในการแก้อาการเบื่อหน่ายจากการทานอาหารแคลอรี่ต่ำเป็นเวลานานๆ

ราศีพิจิก (24 ต.ค.- 21 พ.ย.)
คนเกิดราศีนี้ เป็นคนค่อนข้างเจ้าระเบียบ มีวินัย ชอบวางแผน การไดเอ็ตจึงควรเป็นทางการนิดนึง คือให้ทำตารางควบคุมน้ำหนัก กำหนดการทานอาหารแคลอรี่ต่ำ และทำการบันทึกสัดส่วนที่ลดลงด้วย การติดตามผลแบบนี้ จะยิ่งทำให้สนุกกับการไดเอ็ต เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้

ราศีธนู (22 พ.ย. - 21 ธ.ค.)
คนเกิดราศีนี้ ชอบการผจญภัย ชอบลุย ชอบการอยู่ข้างนอก เดินทางไปไหนมาไหน การไดเอ็ตจึงมักเกี่ยวข้องกับการทานอาหาร หรือการออกกำลังกายนอกสถานที่ เช่น โรงยิมหรือสปอร์ตคลับ แต่ถ้ากลัวเปลืองเงิน ก็สามารถใช้ที่บ้านแทนได้ โดยลองเปลี่ยนมุมทานอาหาร จากที่เคยนั่งทานอยู่แต่ในห้องครัวหรือโต๊ะอาหาร ก็เปลี่ยนไปนั่งทานในห้องนั่งเล่นหรือหน้าบ้านบ้าง เพื่อที่จะได้ไม่ซ้ำซาก จำเจ ส่วนการออกกำลังกาย ก็ลองดูหลายๆ แบบจะได้ไม่เบื่อ

รวม 7 ผลไม้ที่ สาวๆ กินแล้วคุ้ม



ถั่วมันๆ : ถั่วเป็นอาหารที่อุดมด้วยโปรตีน เหล็ก วิตามินบี และที่สำคัญนักวิทยาศาสตร์ยังค้นพบว่า ถั่วช่วยเคลือบกระเพาะอาหารให้อิ่มเร็วและนานมากขึ้น ความอยากอาหารก็จะลดน้อยลงด้วย ทุกวันนี้ถั่วจึงได้รับการการันตีว่าเป็นต้นทางของการลดน้ำหนักแบบปลอดภัย



บร็อกโคลี่ : เป็นแหล่งอุดมธาตุซีลีเนียมที่มีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณได้เป็นอย่างดี อีกทั้งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นแก่ผิวหนังได้อย่างดีเยี่ยม กินบ่อยๆ ช่วยให้อบอุ่น มีน้ำมีนวล



ฝรั่ง : ฝรั่ง 1 ขีด มีวิตามินสูงถึง 180 มิลลิกรัม มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยสร้างคอลลาเจนยอดปรารถนาของหนุ่มสาวยุค ใหม่ เพราะช่วยให้เซลล์นับล้านๆ เกาะเกี่ยวกันเหนียวแน่น ช่วยให้ผิวพรรณบนใบหน้าเต่งตึงไร้ร่องรอย



กล้วยไข่ : อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหรือเบต้าแคโรทีนจาก ธรรมชาติ กล้วยไข่ 1 ขีด มีสารเบต้าแคโรทีนถึง 492 มิลลิกรัม



ส้ม : เป็น อีกแหล่งขุมทรัพย์ของวิตามิน เกลือแร่ และเส้นใยธรรมชาติ การรับประทานโดยไม่คายกากนั้นเป็นอีกทางเลือกช่วยควบคุมน้ำหนักได้วิธีหนึ่ง เพราะทำให้รู้สึกอิ่มท้องเร็วกว่าปกติ และเป็นยาระบายอ่อนๆ ชั้นดี



แอปเปิ้ล : ประกอบ ด้วยสารเบต้าแคโรทีน วิตามินซี และเส้นใยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำที่ชื่อเพ็กติน ช่วยลดคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด อีกทั้งยังช่วยลดความหิวอาหารได้ เพราะแอปเปิ้ลมีน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวถึงร้อยละ 75 ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมได้เร็ว และนำไปใช้ประโยชน์ได้ในเวลาไม่เกิน 10 นาที

เคล็ดลับใช้น้ำหอมในหน้าร้อน


ร้อนจะตาย จะให้เป็นลมเพราะดมกลิ่นตัวเหม็นๆ หรือเวียนเฮดกับกลิ่นน้ำหอมของเพื่อนสาว .. ไม่อยากให้คนรอบตัวรู้สึกแบบนั้น ลองอ่าน
เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่า อุณหภูมิที่ร้อนแรงอย่างนี้อย่างบ้านเราส่งผลให้กลิ่นหอมที่เพื่อนๆ ใช้อยู่เปลี่ยนไปได้ และอาจเปลี่ยนจากกลิ่นหอมที่ชวนหลงใหลเป็นกลิ่นที่ไม่พึงปรารถนา เรามา รู้เคล็ดลับการใช้น้ำหอมหน้าร้อนกันเถอะเพื่อส่งความหอมให้ทั่วเรือน กายอย่างไม่ผิดเพี้ยน และเป็นที่พึงปราถนาให้กับคนรอบข้างด้วย

1. สำหรับหน้าร้อนนี้การเลือกใช้น้ำหอม ควรเลือกลิ่นน้ำหอมแนวสดชื่น เย็นสบาย กลิ่นอ่อนๆ ไม่ฉุนจนเกินไป อาทิ น้ำหอมที่มีส่วนผสมจาก orange blossom, pear, mint, ginseng และ ginger

2. หากคุณเป็นคนผิวมัน ความร้อนจากอุณหภูมิที่ร้อนแรงจะ ยิ่งสามารถกระจายกลิ่นน้ำหอมที่คุณใช้ได้แรงกว่า และมากกว่าสภาพผิวอื่นๆ เพราะฉะนั้นในหน้าร้อนนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่คุณควรเลือกกลิ่นน้ำหอมที่ อ่อน ๆ เมื่อฉีดจะได้ไม่ฉุนจนเกินไป

3. หากเกรงว่ากลิ่นน้ำหอมที่ใช้อยู่นั้นจะแรงไป ให้หยดน้ำหอมใส่สำลีเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อแทน เพื่อให้กลิ่น หอมอยู่กับเรา และอยู่ได้นานๆ ด้วย หรือ เติมกลิ่นหอมให้สัมภาระในกระเป๋าหรือผ้าเช็ดหน้า โดยการเอาของที่อยากให้มีกลิ่นหอมมาใส่รวมในกล่องที่ปิดฝาได้ แล้วฉีดน้ำหอมใส่สำลีก้อน แล้วใส่ลงไปในกล่องปิดฝาอบกลิ่นเอาไว้ วิธีนี้ใช้ได้กับเสื้อผ้าในตู้ด้วย ดีกว่าพรมน้ำหอมลงไปบนเสื้อทำให้เกิดรอยด่างที่เสื้อได้

4. ฉีดน้ำหอมใส่ฝ่ามือ เวลาจับมือใครจะได้หอมๆ และชวนสัมผัส เพราะหน้าร้อนบางคนจะมีเหงื่อออก ที่ฝ่ามือจึงอาจส่งกลิ่นที่ไม่พึงปรารถนาได้

5. ในกรณีน้ำหอมแบบแต้ม ควรใช้ Cotton Bud แตะน้ำหอมจากปากขวดแทนนิ้วมือ แล้ว ไปแต้มตามบริเวณจุดชีพจรต่าง ๆ บนร่างกาย เพราะกลิ่นน้ำหอมในขวดจะเปลี่ยนได้ หากได้รับความร้อนจากอุณหภมิจากนิ้วมือของเรา

6. ถ้าอยากหอมไปทั้งวัน แนะนำให้ใช้ Shampoo, Shower gel, deodorant ที่มีกลิ่นเดียวกับน้ำหอมจะช่วยให้ความหอมอยู่ได้นานมากยิ่ง ขึ้น

7. เคล็ดลับสำหรับเส้นผม และในหน้าร้อนนี้ เหงื่อออกมาทั่วเรือนกายไม่เว้นแม้แต่เหงื่อบนหนังศีรษะ ดังนั้นเพื่อคงความหอมทั่วเรือนกาย ให้ฉีดน้ำหอมที่ผมโดยห่างประมาณ 1 ฟุต โดยใช้กลิ่นเดียวกับกลิ่นหอมที่ฉีดที่ตัว หรือฉีดสเปรย์น้ำหอมกลิ่นเดียวกันลงบนแปรงหวีผม สเปรย์ห่าง ๆ พอให้ละอองจับบนแปรง แล้วค่อยบรรจงหวีผม แต่แอลกอฮอล์ต่าง ๆ ในน้ำหอมอาจทำให้ผมเสียได้ เพราะฉะนั้นต้องหมั่นทรีตเม้นผมเป็นประจำด้วย

ประโยชน์ของมือถือ ที่คุณยังไม่รู้

ประโยชน์ ของมือถือ ที่คุณยังไม่รู้

ใคร ที่ใช้โทรศัพท์มือถือ ตั้งใจอ่านดีๆนะคะ อ่านจบแล้วจะรู้ว่ามือถือไม่ได้มีไว้สำหรับ โทรเข้า-โทรออกเท่านั้น

1. หมายเลขสากลฉุกเฉิน 112 ใช้ได้ทั่วโลก ถ้าเกิดเราหลงไปอยู่ในเขตที่ไม่มีสัญญาณเลย แต่มีเหตุด่วนเหตุร้ายให้กด 112 แล้วมันจะหาเบอร์ให้เองอัตโนมัติ แม้แต่เราล็อคปุ่มก็ยังกดเบอร์นี้ได้

2. ใช้ในกรณีที่ลืมกุญแจไว้ในรถ สำหรับรถที่ใช้ Remote Key ถ้ารถล็อคไปแล้ว แต่เรามีกุญแจสำรองอยู่ที่บ้าน ให้โทรไปหาคนที่อยู่ที่บ้านด้วยมือถือ (เราต้องโทรไปหาเบอร์มือถือของเขาด้วยนะ) เมื่อเขารับแล้วให้เราบอกเขา ให้กดปุ่ม unlock บนกุญแจสำรอง ในขณะที่เราถือมือถือ ให้ห่างจากประตูรถประมาณ 1 ฟุต (คน ที่อยู่บ้านที่เราวานให้กด ต้องเอากุญแจไปจ่อใกล้กับมือถือของเขาในขณะที่กดปุ่ม) ประตูรถก็จะเปิดออก เหมือนเรากดปุ่มรีโมทด้วยตัวเอง ระยะทางไม่มีปัญหา แม้รถกับบ้านจะอยู่ห่างกันเป็นร้อยๆ กม. ก็ตาม

3. กรณีแบ็ตใกล้จะหมด *3370# สำหรับมือถือ Nokia ถ้าเกิดถ่านเหลือน้อยเต็มที จนใกล้ดับแต่เราจำเป็นต้องโทรออกให้กด * 3370# มันจะรีดพลังสำรองที่ซ่อนออกมาแล้วแสดงให้เห็นว่า เพิ่มพลังถ่านให้ขึ้นมาอีก 50% และ มันจะชดเชยส่วนสำรองนี้ในการชาร์จแบตครั้งต่อไป

4. ถ้าโทรศัพท์หายต้องการทำให้ใช้ไม่ได้ตลอดไป ในกรณีนี้เราต้องใช้ หมายเลข serial number ประจำเครื่อง ซึ่ง มี 15- 17 หน่วย การที่จะทราบหมายเลขนี้ กด * #06# แล้วหมายเลขประจำเครื่อง ก็จะขึ้นมาให้เห็นทันทีเหมือนเล่นกล จดไวแล้วเก็บไว้ให้ดี …. ที่นี้ถ้ามือถือหายหรือตกหล่น ให้ โทรไปที่ศูนย์ แล้วแจ้งหมายเลขให้เขาไป เขาก็จะบล็อคเครื่องของเราให้ แล้วทีนี้มือถือที่หายไปจะใช้ไม่ได้ อีกเลย ถึง แม้ว่าคนขโมยไปจะเปลี่ยน sim card มันก็จะยัง ใช้ไม่ได้อยู่ดี

ม่มีคำว่าแพ้... หากว่าเราได้เริ่ม



ไม่มีคำว่าแพ้หากว่า เราได้เริ่ม
ไม่มีคำว่าอยู่ที่เดิมหากเราได้ค้นหา
ไม่มีคำว่าเป็นที่ หนึ่งหากยังต้องพึ่งพา
ไม่มีคำว่าดีกว่าหากว่าเราไม่ตั้งใจ


คนจะสงสัยในสิ่งที่ท่านพูด
แต่เขาจะเชื่อในสิ่งที่ท่านทำ


ชีวิตในบางครั้ง
ความ อยุติธรรมก็คล้ายเป็นเรื่องถูกต้อง
ความเจ็บปวดก็คล้ายเป็นสิ่งที่ไม่อาจ หลีกเลี่ยง
ความเสียเปรียบก็อาจถูกยัดเยียดให้
ความพ่ายแพ้ก็อาจเกิด ขึ้นได้อย่างไม่คาดฝัน
คนที่เข้มแข็งเท่านั้นจึงจะสามารถทนรับเอาไว้ได้
เพื่อ ที่จะกอบกำทุกอย่างกลับคืนมา

ดอกไม้สวยอยู่บนต้น
จะหล่นก็ต่อ เมื่อ มีใครมาเด็ด

เพื่อนที่ดีมีหนึ่งถึงจะ น้อย
ดีกว่าร้อยเพื่อนคิดริษยา
ดุจก้อนเกลือเค็มนิดหน่อยด้อยราคา
ยังมีค่ากว่าน้ำเค็มเต็มทะเล

มีเม็ดทรายนับไม่ถ้วนจำนวนทราย
คนทั้งหลายนับไม่ถ้วนในคุณค่า
ทรายจะแกร่งก็เพราะผ่านกาลเวลา
คนจะกล้าก็เพราะผ่านความอดทน

รอยเท้าที่ยาว ไกล
เมื่อมองกลับไป
บ่งบอกได้ในผลงาน
บางรอยอาจมีชำรุด
เพราะ สะดุด จุดขวากหนาม
ฟันฝ่าจนรอยงาม
เก็บเป็นนิยามของความภูมิใจ

เงินไม่ได้สร้างมิตรแท้มากเท่าศัตรูจริง

♣ อกหัก...รัก...ให้เป็น ♣



ข้อคิด ข้อเตือนใจ เรื่องความรัก



1. การรักและไม่ได้รับรักตอบ เป็นทุกข์ แต่สิ่งที่ทุกข์ยิ่งกว่า คือการรักใครสักคน แต่ไม่มีความกล้าพอที่จะบอกให้คนคนนั้นรู้ และต้องมาเสียใจภายหลัง

2. พระเจ้าอาจจะต้องการให้เราพบคนที่ไม่ใช่..ก่อนที่จะมาพบคนที่ใช่ เพื่อเวลาเราพบคนคนนั้นแล้ว เราจะได้รู้สึกซาบซึ้งถึงพรที่ท่าน ประทานมา

3. ความรักคือความรู้สึกที่คุณยังห่วงใยใครสักคนอยู่ แม้จะแยกความ รู้สึก ความลุ่มหลง และความสัมพันธ์แบบรักใคร่ออกไปแล้ว

4. สิ่งที่น่าเศร้าในชีวิต คือการพบคนที่มีความหมายอย่างมากสำหรับเรา แต่มาค้นพบภายหลังว่าเราไม่ได้ถูกกำหนดมาเพื่อสิ่งนั้น และจะต้องปล่อยให้ผ่านพ้นไป

5. เมื่อประตูแห่งความสุขปิดลงประตูแห่งความสุขบานอื่นก็จะเปิดขึ้นแต่เราก็มัว แต่มองประตูที่ปิดลงไปแล้วเนิ่นนานจนกระทั่งเรามองไม่เห็นประตูที่เปิดไว้รอ

6. เพื่อนที่ดีที่สุดคือคนที่คุณสามารถนั่งอยู่ริมระเบียงด้วยกันโดยไม่พูดอะไร กันสักคำ แต่สามารถเดินจากไปด้วยความรู้สึกเหมือนได้คุยกัน อย่างประทับใจที่สุด

7. เป็นความจริงที่เราไม่สามารถรู้เลยว่าเรามีอะไรอยู่จนกว่าเราจะสูญเสียมันไป แต่ก็จริงอีกเช่นกันที่เราไม่รู้ว่าเราพลาดอะไรไปบ้างจนกระทั่งสิ่งนั้นเข้า มาหาเรา

8. การมอบความรักทั้งหมดให้ใครสักคนไม่ได้เป็นหลักประกันว่าเขาจะรักเราตอบ อย่าหวังที่จะได้รักตอบ แต่จงรอให้มันงอกงามขึ้นในหัวใจเขา แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น ให้พอใจว่าอย่างน้อยมันก็ได้งอกงามขึ้นในใจของเราเอง

9. มีสิ่งที่คุณต้องการจะได้ยิน แต่คุณจะไม่ได้ยินมันจากปากของคนที่คุณอยากได้ยิน แต่อย่าทำตัวเป็นคนหูหนวกโดยไม่รับฟังสิ่งนั้นจากคนที่เขาบอกกับคุณจากหัวใจ

10. อย่าบอกลาถ้าคุณยังต้องการจะพยายามต่อไป อย่าท้อใจถ้าคุณยังรู้สึกว่าคุณไปไหว อย่าพูดว่าคุณไม่รักคนคนนั้นอีกแล้ว ถ้าคุณไม่สามารถทำใจ

11. ความรักมักมาเยือนผู้ที่ยังคงหวัง ถึงแม้ว่าจะผิดหวัง และมาเยือนผู้ที่ยังคงเชื่อ ถึงแม้ว่าจะถูกทรยศหักหลัง และจะมาเยือนผู้ที่ยังคงรัก ถึงแม้จะเคยเจ็บปวดมาก่อน

12. การที่เราจะประทับใจใครนั้นใช้เวลาแค่เพียงนาที การที่เราจะชอบใครใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมง การที่เราจะรักใครใช้เวลาเพียงชั่ววัน แต่การที่จะลืมใครนั้นต้องใช้เวลาชั่วชีวิต

13. อย่ามองใครจากหน้าตา เพราะมันอาจหลอกเราได้ อย่ามองใครจากความร่ำรวย เพราะมันไม่จีรังยั่งยืน ให้มองหาคนที่ทำให้คุณยิ้มได้ เพราะเพียงยิ้มเดียว สามารถทำให้วันที่หม่นหมองกลับสดใส ขอให้คุณพบคนที่ทำให้คุณยิ้มได้

14. มีช่วงเวลาในชีวิตที่คุณคิดถึงใครสักคนจนกระทั่งอยากดึงเขา มาจากความฝันเพื่อกอดเอาไว้ขอให้คุณได้ฝันถึงคนพิเศษนั้น

15. ฝันถึงสิ่งที่คุณต้องการฝัน ไปในที่ที่คุณต้องการไป เป็นในสิ่งที่คุณต้องการเป็น เพราะคุณมีเพียงชีวิตเดียว และมีโอกาสเดียวที่จะทำทุกสิ่งที่คุณต้องการ

16. ขอให้คุณมีความสุขมากพอที่จะทำให้คุณเป็นคนอ่อนหวาน ผ่านการทดสอบมามากพอที่จะทำให้คุณเข้มแข็ง มีความเศร้าโศกพอที่จะทำให้คุณยังคงความเป็นมนุษย์ และมีความหวังมากพอที่จะทำให้คุณเป็นสุข

17. เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าคุณรู้สึกว่าสิ่งนั้นจะทำให้คุณเจ็บปวด รู้ไว้เถอะว่าคนอื่นก็เจ็บปวดจากสิ่งเดียวกันเช่นกัน

18. คำพูดที่ไม่ได้ยั้งคิดอาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง คำพูดที่โหดร้ายอาจทำลายชีวิต คำพูดที่เหมาะกาละเทศะอาจลดความเครียด คำว่ารักอาจเยียวยาและทำให้มีสุข

19. จุดเริ่มของความรักคือการปล่อยให้คนที่เรารักเป็นตัวของตัวเอง อย่าดึงเขาจากภาพความเป็นเขา มิฉะนั้นจะหมายความว่ามันเป็นเพียงภาพสะท้อนของตัวเรา ที่ปรากฎในพวกเขา

20. คนที่มีความสุขที่สุดไม่ได้หมายความว่าเขามีสิ่งที่ดีที่สุด เพียงแต่เขาสามารถทำสิ่งที่เขามีให้ดีที่สุดได้ต่างหาก

21. ความสุขรออยู่เบื้องหน้าผู้ที่มีน้ำตา ผู้ที่เจ็บปวด ผู้ที่ค้นหา และผู้ที่ พยายามแล้ว เพราะมีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่รู้จักคุณค่า-ของผู้คนที่ได้สัมผัสชีวิต

22. ความรักเริ่มต้นด้วยรอยยิ้ม งอกงามด้วยรอยจูบ และจบลงด้วยคราบน้ำตา

23. อนาคตที่สดใสมีรากฐานอยู่บนอดีตที่แสนเจ็บปวด คุณไม่สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ดี ถ้าหากไม่รู้จักปล่อยวางความผิดพลาดในอดีต และความปวดใจ

24. คุณร้องไห้ตอนคุณเกิดในขณะที่คนรอบข้างกำลังยิ้ม จงมีชีวิตอยู่เพื่อเมื่อตอนคุณตาย คุณจะเป็นคนที่ยิ้ม ในขณะที่คนรอบข้างร้องไห้ให้คุณ

25. ความรักก็เหมือนกับการเสี่ยง คุณอาจจะต้องพบกับความล้มเหลว แต่ถ้าคุณไม่เสี่ยง คุณก็อาจจะต้องพบกับความล้มเหลวตลอดไป

26. ความรัก มักเหมือนแก้วบาง ถ้าหากคุณมือหนัก แก้วที่คุณถือ ก็อาจจะต้องแตกร้าวทุกครั้งที่คุณใช้มัน

27. ความรัก ง่ายที่เราจะหามัน แต่ยากที่จะรักษาเอาไว้ให้คงอยู่ตลอดไป


จัดการกับคำว่า "ไม่มีเวลา"





กำลังเหนื่อย เครียด กับงานและชีวิตในยุคที่เต็มไปด้วยการแข่งขันเร่งรีบนี้ใช่ไหมคะ คนทำงานทั้งชายและหญิงคงรู้สึกเหมือนๆ กันว่า "ไม่ มีเวลา" หรือ "เวลาไม่เคยพอ" อยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่เวลานั้นเที่ยงตรงเสมอ มี 24 ชั่วโมงเท่ากันทุกวัน มีเคล็ดลับในการบริหารเวลา ให้มีประสิทธิภาพมาฝากคนไม่มีเวลาค่ะ

ขั้นที่ 1 เตรียมตัว

1.
ทบทวนสภาพการใช้เวลาในแต่ละวันของ คุณว่า เป็นอย่างไร จดรายละเอียดกิจกรรมแต่ละวัน ดูว่างานหรือกิจกรรมอะไรที่ทำให้เสียเวลาโดยไม่จำเป็น

2. อย่าให้เวลามาเป็นอุปสรรค ถ้าคิดจะทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ อย่าคิดว่ามีเวลาไม่พอ เอาสิ่งนี้เป็นเป้าหมายหลักให้เวลากับสิ่งนี้ก่อนแล้วค่อยจัดสรรเวลาให้กับ กิจกรรมอื่นๆ

3. ถ้าอยากมีเวลาที่มีคุณภาพ ก็ต้องเชื่อว่าคุณทำได้ เชื่อมั่นอย่างนี้เสียก่อนแล้วคุณถึงจะลงมือจัดการบริหารเวลาได้

ขั้นที่ 2 ลงมือทำ

4.
วาง แผนล่วงหน้าในแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์ แต่ละเดือน และดูว่าอะไรสำคัญเป็นอันดับแรก ใช้สูตร 20/80 การทำงานสำคัญอันดับต้นๆ 20% ของงานทั้งหมด ผลที่ได้ถือว่า ได้ 80% ของเป้าหมายทีเดียว จะทำให้เราไม่ยุ่งไปหมดโดยไม่ได้งานตามเป้าหมาย วิเคราะห์ให้ดีด้วยว่า อะไรสำคัญก่อนหลัง

5. ตัดกิจกรรมจุกจิกที่ไม่ก่อให้เกิดผลสำเร็จตามเป้าหมาย เช่น การรับโทรศัพท์ การรับแขก งานด่วนที่แทรกเข้ามาโดยไม่คาดฝัน

6. ให้ความสำคัญที่สุดกับ 3 อันดับแรก เพราะถ้าให้จดรายละเอียดของสิ่งที่จะต้องทำทั้งหมดก็จะเขียนได้ยาวเหยียด และเพิ่มเติมเข้ามาเรื่อยๆ ได้ เพราะฉะนั้นเพ่งไปที่ 3 อันดับแรก คุณอาจจะตกหล่นเรื่องอื่นไปบ้าง แต่งานที่สำคัญจะบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และคุณจะรู้สึกว่าสามารถจัดการเวลาและชีวิตของตัวเองได้อยู่มือ ไม่เกิดความโกลาหล เหนื่อยล้า

การจำกัดลำดับความสำคัญอยู่แค่ 3 สิ่ง จะทำให้คุณทำงานได้คล่องขึ้น เครียดน้อยลง เช่น 3 สิ่งของคุณนั้นคือ งาน ครอบครัว ตัวเอง ในแต่ละวันคุณจะสบายใจที่จะกลับบ้านทันทีหลังเลิกงาน ไม่ทำงานล่วงเวลา เพื่อจะได้กลับไปใช้เวลากับลูกและครอบครัว และเมื่ออยู่กับลูกและครอบครัวก็ไม่กังวลเรื่องงาน เพราะเมื่ออยู่ที่ทำงานคุณก็พยายามทำงานอย่างเต็มที่และอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับเวลาของตัวเอง คุณอาจจะตั้งเป้าหมายว่าแต่ละวันหลังใช้เวลากับครอบครัวแล้ว ก็จะจัดแบ่งเวลาไว้อ่านหนังสือ ที่อยากอ่านสักวันละชั่วโมงสองชั่วโมง เป็นต้น

7. ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้ ทำได้จริงด้วย เช่น 3 สิ่งที่ว่าอาจย่อกิจกรรมบางอย่างให้เล็กและสั้นลง

8. อย่ารู้สึกผิด ที่ไม่สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ทั้งหมด หรือมีประสิทธิผลดีเยี่ยมไปทุกเรื่อง

9. กล้าที่จะปฏิเสธ ไม่ต้องกลัวว่าคนเขาจะว่าไม่มีน้ำใจ เพราะจะดีกว่ารับปากแล้วทำไม่ได้

10. รู้จักเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น บางคนงานโอเวอร์โหลด เพราะไม่กล้าขอความช่วยเหลือหรือแบ่งงานกับคนอื่น มองโลกในแง่ดีว่า คนเรานั้นมีพื้นฐานยินดีจะช่วยเหลือกันและกันอยู่แล้ว

11. ลง มือทำเสียแต่วันนี้ การผลัดวันประกันพรุ่ง มีแต่จะทำให้เวลาที่มีอยู่น้อยลงทุกที

♣ ภาพ กับ ความหมายดี ๆ ♣


ความรู้สึกแบบนี้ ... ความเข้มเข็งในความอ่อนโยน



บางครั้ง...คำปลอบประโลม อ้อมกอด ดีที่สุดในยามนี้



ใครว่า...รักกันไม่ได้ .... อายพวกเขากันบ้างไหม คนเราน่ะ ....



หมาบ้าง ...ควายบ้าง ...มนุษย์เราตั้งให้


แต่... เขา พึ่งพิงกันได้ ไม่เห็น ต้องแบ่งพวกเลย



บางคราว... คำพูด ไม่มีความหมายเท่าการกระทำ



ขาว หรือ ดำ ใหญ่ เล็ก ไม่ไช่เรื่องสำคัญ


อยู่ที่ "ใจ"



ความ เสียใจ ...กับนํ้าตา คือสิ่งคู่กัน


เมื่อมันไหลออกมาเสียบ้าง จะได้เบาบางลง



เอื้ออาทร ...อ่อนโยนต่อกัน เป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตเรา อยู่ได้ บนโลกใบนี้



ขอแค่ความอบอุ่นบ้าง ...บางเวลา


นํ้าใจ อย่าให้ขาดหาย



ผู้ชาย..... บางครั้งก็ ใจดำ !!!!~



บั้นปลาย ...ไม่ต้องรวยล้นฟ้า แต่ อยากเห็น ทุกคนเหมือนภาพนี้

+++ Hamster +++

+++ Playlist +++


MusicPlaylistRingtones
Create a playlist at MixPod.com

+++ coming soon +++