วันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2553

วันสุดท้ายของชีวิต


"ถ้าวันนี้คุณรู้ว่าวันสุดท้ายของชีวิตกำลังจะมาถึง วันนี้ก็คือวันเริ่มต้นของชีวิต"

ลองคิดทบทวนกับประโยคนี้ดีๆ ทำไมวันเริ่มต้นของชีวิตคือวันที่เรารู้ตัวว่าใกล้จะ.....
มีผู้ชายอยู่คนหนึ่ง ทุกวันนี้ก็ไม่รู้จะบอกว่าเค้าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ เป็นคนที่เข้าข่ายของกลุ่มเสี่ยงก็ว่าได้ เอาทุกอย่างยกเว้นการพนัน
ผลการตรวจเลือดประจำปีออกมาว่าเค้าเลือดบวก แต่หมอ ยังไม่ยืนยัน แล้วก็นัดให้ไปตรวจใหม่อีกสามเดือน …เป็นอันว่าหลังวันตรวจเลือดและรู้ผลเค้าเชื่อว่าผลตรวจเลือดเป็นจริง เท่านั้นแหละ ชีวิตดับทันที งานการไม่ไปทำ หลบตัวอยู่กับบ้านประมาณอาทิตย์นึงได้
พอเพื่อนๆเจอหน้าเค้าอีกที คราวนี้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย เพื่อนชวนไปไหนก็ไม่ไป เลิกงานแล้วก็ไปหาแฟน พาแฟนไปทานข้าวกับพ่อแม่ที่บ้าน เหล้าบุหรี่ก็ไม่แตะอีกเลย แล้วก็ไม่พูดถึงเรื่องผลการตรวจเลือดอีก …เค้ากลับมาทำทุกอย่าง เล่นกีฬา เที่ยวต่างจังหวัด จนบางทีเราก็อดสงสัยกันไม่ได้ว่าชีวิตมันมี 48 ชั่วโมง เพราะมันใช้เวลาทุกนาทีคุ้มมาก
จนกระทั่งคนทางบ้านและแฟนมันแปลกใจ อดไม่ได้ที่จะแอบโทรมาถามเพื่อนว่าเค้าเป็นอะไรเหรอ ทำไมทำตัวเหมือนคนซึ้งสัจธรรมเลย ตอนนั้นพวกเราก็อึ้งนะครับ เพราะทุกคนรู้ดีว่าเพราะอะไร แต่ก็มีเพื่อนคนนึงพูดขึ้นมาว่า นี่ถ้ามันเป็นคนดียังนี้แต่แรกมันก็ไม่ต้องตายแล้วหละ ..
ใช่ ถ้ามันเป็นคนดียังนี้แต่แรกมันก็ไม่ต้องตาย ทุกวันนี้มันฟื้นกลับมาเป็นคนอีกครั้ง
หลังจากนั้นสามเดือนให้หลัง ผลตรวจเลือดปรากฏว่ามันไม่มีเลือดบวก ประโยคที่มันบอกกับพวกเรา มันบอกว่ามันดีใจที่พระเจ้าส่งมันไปดัดสันดานในนรกมาสามเดือน ทุกวันนี้มันรักครอบครัว รักแฟน แล้วพวกเราก็คิดว่ามันทำทุกอย่างได้ดีเท่าที่คนรักควรจะทำ จนบางทีอดอิจฉาไม่ได้อยากให้ชีวิตเฉียดๆอะไรอย่างมันบ้าง

ชีวิตของเราเริ่มต้นเมื่อวันที่เรารู้ตัวว่ากำลังจะตายหรือ? จงใช้ชีวิตวันนี้ให้เหมือนว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต ความหมายเหมือนกันว่าคนเราไม่รู้จักคุณค่าของชีวิต จนวันสุดท้ายของชีวิตมาถึง วันนั้นแหละที่เราจะรู้ว่าเราอยากทำอะไร
แล้วทำไมเราต้องรอจนกระทั่งวันสุดท้ายมาถึงก่อน จึงคิดจะทำอะไรที่ใจอยากทำ
แล้วถ้าสมมุติว่าพรุ่งนี้คุณกำลังจะจากคนที่คุณรักไปหละ วันนี้คุณจะทำอะไรให้เค้าก่อน?

เรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับ "น้ำแข็งเปล่า"


น้ำแข็ง เด็กสาวหน้าตาน่ารัก สดใส ในวัยเรียน แต่ . . น้ำแข็ง
กลับไม่ได้เรียนหนังสือ อย่างที่ควรจะเป็น เพราะน้ำแข็ง เป็นเด็กกำพร้า
ที่ถูกเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่เธอยังเล็ก

น้ำแข็ง อาศัยอยู่กับ เถ้าแก่สัญญา

เถ้าแก่สัญญา ผู้ซึ่งใครๆ ก็มักจะเรียกแกด้วยความเคยชินว่า เถ้าแก่โอ แม้นว่า
ตัวของแกเอง อยากจะให้ใครๆ เรียกแกว่า สัญญา อย่างที่แกชอบก็ตาม

อ้อ ! ! ! ผมลืมบอกเรื่องสำคัญไป

น้ำแข็ง มีปานแดงรูปตาชั่ง อยู่ที่ไหล่ซ้าย ด้วยแหละ ! !

เถ้าแก่โอ เป็นเจ้าของกิจการร้านกาแฟประจำหมู่บ้าน เถ้าแก่โอ
เก็บน้ำแข็งมาเลี้ยง ตั้งแต่เธอยังเล็ก เถ้าแก่ชอบเก็บเด็กมาเลี้ยงมาก
ประหนึ่งว่า มันเป็นงานอดิเรกของแกเลยก็ว่าได้ ใครๆจึงเรียกมะลุมมะตุ้ม
รุมเรียกร้านกาแฟ ของเถ้าแก่โอว่า

ร้านโอเลี้ยง

กิจการร้านโอเลี้ยง ของเถ้าแก่โอ ได้รับความนิยม อย่างล้นหลาม เพราะรสชาติของ
กาแฟสูตรเด็ด ที่แกเฝ้ารักษา และไม่เคยยอมบอกใครมาก่อน
และใครก็ตามที่ได้ลิ้มลอง รสชาติกาแฟ อันลือชื่อของร้าน โอเลี้ยง
จะต้องแวะมากินกาแฟ ที่ร้านโอเลี้ยง ของแกอีก เสมอ ๆ . . .

ชื่อเสียงและกิจการของร้านโอเลี้ยง ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ มากขึ้น
มากขึ้นอย่างรวดเร็ว จากร้านกาแฟเล็กๆ ประจำหมู่บ้าน
กลายเป็นร้านกาแฟประจำตำบล ประจำอำเภอ และเป็นร้านประจำจังหวัด ไปในที่สุด

ไม่นานนัก ร้านโอเลี้ยงของเถ้าแก่โอ ก็สามารถเข้าสู่ตลาดหุ้น กลายเป็นร้านกาแฟ
มหาชน ภายใต้ชื่อของตัวเองว่า บริษัทโอเลี้ยง มหาชน จำกัด เอ๊ย ย ย ย ! ! ! !
ไม่สิ เถ้าแก่แกไม่ชอบชื่อนี้นี่นา . . . .

ดังนั้นชื่อ บริษัทสัญญา มหาชน จำกัด จึงกลายเป็นชื่อที่ถูกเลือกจาก เถ้าแก่โอ

ยังครับ เท่านี้มันยังไม่พอ อย่างโบราณเค้าว่า


แข่งรถเรือแข่งพายยังพอแข่งได้ แข่งบุญแข่งวาสนามันแข่งกันยาก

เถ้าแก่โอ ได้รับตำแหน่ง นายกร้านกาแฟแห่งชาติ ซึ่งทุกคนในประเทศ
กำลังคาดหวังว่า เถ้าแก่โอ จะกลับมากอบกู้สถานะการณ์ของ กิจการร้านกาแฟ

ที่วันนี้ ดูจะเพลี้ยงพล้ำต่อเครื่องดื่มสีดำ ใส่ฟอง ปุ๊ด ๆ ๆ ๆ
จากเมืองลุงแซม อยู่ไม่น้อย

แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะราบรื่นเสมอไป เพราะด้วยความที่เถ้าแก่โอ ไม่มีความรู้
เรื่องหุ้น มาก่อนในชีวิต เพราะทั้งชีวิตของเถ้าแก่โอ แกอยู่กับร้านกาแฟ
สูตรลับ และการเก็บเด็กมาเลี้ยง เท่านั้น

คณะกรรมการตลาดหุ้นประจำเมือง เกิดจับได้ว่า เถ้าแก่โอ แอบซุกหุ้นของ
บริษัทสัญญา มหาชน จำกัด โดยอาศัยชื่อของคนขับรถ แม่บ้าน ไปจนถึง
เด็กที่ถูกเถ้าแก่โอเก็บมาเลี้ยง และแน่นอน น้ำแข็ง เด็กหญิงผู้น่าสงสาร
ที่เถ้าแก่โอ เก็บมาเลี้ยง ก็มีชื่อรวมอยู่ในนั้นด้วย

เถ้าแก่ออกมาเปิดเผยว่า น้ำแข็ง และพรรคพวก เป็นคนทำบัญชีหุ้นให้ร้านโอเลี้ยง
ตนจึงไม่ทราบเรื่องที่ผิดพลาดดังกล่าว แต่ในฐานะที่เป็นเจ้าของกิจการ
ตนเองก็ยอมรับผิด ด้วยสปิริต และความบกพร่องของเค้าเอง ที่ไม่ตรวจดูให้ดีก่อน
แต่ก็ไม่ลืมย้ำว่า . . .

มันควรจะเป็นความบกพร่องโดยสุจริต(ใจ)

เถ้าแก่โอ ซึ่งก็รู้ดีอยู่ว่า น้ำแข็งไม่ได้ทำบัญชีให้
เพราะเพียงแค่หนังสือแบบเรียน เธอยังอ่านไม่ออก แต่เถ้าแก่โอ
ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ดีกว่านี้ เถ้าแก่โอ จำต้องโกหกสังคม
เพื่อความอยู่รอดของ บริษัทสัญญา มหาชน จำกัด

บริษัทที่เค้าสร้างขึ้นด้วยสองมือ หยาดเหงื่อ และสูตรกาแฟ

หลังจากคณะกรรมการตลาดหุ้นประจำเมือง พิจารณาอย่างถ้วนถี่แล้ว
ก็รวมหัวกันสรุปว่า เถ้าแก่โอ ไม่มีเจตนาโกงเรื่องหุ้น ด้วยคะแนน 8 ต่อ 7
เสียง

เย้ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ชาวบ้านต่างยินดีปรีดากันถ้วนหน้า


เถ้าแก่โอ รอดพ้นจากความผิด

สงสารก็แต่แม่ปลาบู่ เอ๊ย ย ย ย ! ! ! น้องน้ำแข็ง ของเรา

น้ำแข็ง เสียใจมาก ที่ตัวเองต้องตกเป็นจำเลยของสังคมไปเสียแล้ว ทั้งๆ ที่
น้ำแข็ง ก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน และใครๆ ก็รู้ดีว่า น้ำแข็ง
เด็กหญิงหน้าตาน่ารัก คงไม่ได้เป็น อย่างที่เถ้าแก่บอก เป็นแน่แท้

น้ำแข็ง แอบร้องไห้ทุกค่ำคืน

น้ำแข็ง ถูกสภากาแฟ เนรเทศให้ไปอยู่ประเทศที่สาม

ไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นประเทศอะไร รู้แต่เพียงว่ามันประเทศที่แห้งแล้ง
และไม่มีแม้กระทั่ง กาแฟสักหยด

ทุกคนพยายามบอกกับ เถ้าแก่โอ ว่า น้ำแข็งไม่ได้ทำ น้ำแข็งเปล่านะเถ้าแก่

ชาวบ้านทั้งหมดล้วนแล้วแต่คิดถึงน้ำแข็ง เด็กสาวหน้าตาน่ารัก ผู้โอบอ้อมอารีย์

และทุกคนพยายามย้ำให้เถ้าแก่โอ ได้รู้ว่า น้ำแข็งไม่ได้ทำ

น้ำแข็งเปล่า า า า ! ! !

และเพื่อเป็นการแสดงความคิดถึง น้ำแข็ง เด็กหญิงผู้น่าสงสาร จึงเกิดธรรมเนียม
ที่ยึดถือปฎิบัติกัน ทุกคนที่มากินกาแฟที่ร้านโอเลี้ยง
ไม่ว่าจะเป็นร้านโอเลี้ยงใดๆ ในโลก จะต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า

เถ้าแก่ น้ำแข็งเปล่า า า า า า ทำนะ

น้ำแข็งเปล่า า า า

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ปล. ภายหลังน้ำแข็ง เพิ่งได้รู้ว่าปานแดง รูปตาชั่ง เป็นตราประจำตระกูลของเธอ
ตาชั่ง ผู้เป็นพ่อ ได้ประทับตรานี้เอาไว้ตอนที่ต้องพรัดพรากจาก น้ำแข็ง
โดยหวังว่าสักวัน พ่อ ลูก จะได้กลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้ง . . . .

อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ ยังไม่จบ เรื่องราวของน้ำแข็ง ยังไม่จบเท่านั้น

หลังจากที่น้ำแข็ง ถูกสภากาแฟเนรเทศออกมา น้ำแข็ง ได้ผลิตน้ำดื่ม ตราตาชั่ง
น้ำดื่มรูปแบบใหม่ เป็นก้อนๆ สดใส แข็งแรง น้ำดื่มที่สามารถอยู่ได้ทนทาน
นานกว่าที่ทุกคนคุ้นเคย แถมยังเย็นชื่นใจ

และมันก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ในประเทศนิค ประเทศที่เธอ ถูกสภากาแฟ
เนรเทศมา

น้ำแข็ง ยังคิดถึงทุกคนที่หมู่บ้าน และอยากจะบอกให้ทุกคนที่หมู่บ้านได้รู้ว่า

เธออยู่ที่ไหน

น้ำแข็งจึงเรียกผลิตภัณฑ์ของเธอ อย่างแยบยล และเพื่อจะบอกให้ทุกคน
ได้รับรู้ข่าวสารของเธอว่า . . . น้ำแข็งอยู่ที่นิค และบ้างก็เพี้ยนไปเป็น

น้ำแข็งยูนิค

อย่างในปัจจุบัน . . .

+++ Hamster +++

+++ Playlist +++


MusicPlaylistRingtones
Create a playlist at MixPod.com

+++ coming soon +++