วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

9เคล็ดลับ รัก ยืนยาว




1. ออกเดทพิสดาร

ควรชวนเขาไปออกเดทที่แตกต่างจากการนั่งฟังเพลง กินข้าว ดูหนัง เช่น ขับรถเที่ยวต่างจังหวัดแบบวันเดย์ทริป ไม่จำเป็นต้องเลือกสถานที่ ๆ คุณชอบเสมอไป การผจญภัยที่แปลกใหม่ จะทำให้คุณและเขาได้เป็นตัวของตัวเอง และสามารถตรวจสอบความสอดคล้องของชีวิตคู่ได้เร็วเกินคาด

2. อัพเดทแนวคิดชีวิตรัก

ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมต้องมีเปลี่ยนแปลง และเป็นไปได้เสมอที่ความรักของคุณและเขานั้นเติบโตไม่เท่ากัน จึงควรหาเวลานั่งคุยกันถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน และหากการพูดคุยในแบบตรงไปตรงมานั้นจะหมายถึงการปิดฉากความรัก ก็ควรยอมรับอย่าทู่ซี้ค่ะ แต่ถ้ามันสามารถจะตกลง และร่วมมือกันกำจัดได้ คุณและเขาจะสามารถลดปัญหาอุปสรรคความสัมพันธ์ไปได้อีกหนึ่งข้อ เมื่อแต่งงานกันจริง ๆ อาจจะไม่เหลืออะไรที่หนักเหนื่อยให้ต้องแก้ไข

3. ไม่ไหว... จะเคลียร์

ความระแวงคือเชื้อร้าย และบ่อยด้วยสิที่มันมาจากความคิดของเราฝ่ายเดียวแบบไร้หลักฐาน ควรหยิบมันมาคุยกับเขาให้สิ้นเรื่องราว ซักกันให้ใสไปเลยดีกว่า เพื่อความสบายใจ หูตาไสวสว่าง คำแนะนำคือ อย่าทำแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ บ่อย ๆ ถี่ ๆ เอาแบบมีประเด็นดีกว่า ที่สำคัญคือ ถ้าคุณเลือกจะเชื่อและคบกันต่อก็ขอให้การเคลียร์กันนั้นจบและโยนทิ้งไปเลย

4. ประนีประนอมรอมชอมหัวใจ

ผู้หญิงใช้อารมณ์และความรู้สึก ในขณะที่ผู้ชายยึดหลักเหตุผลแบบผูกขาด ดังนั้น การสงบสงครามที่ดีและนำไปสู่ข้อตกลงแห่งสันติภาพคือการรับฟังเขา และอ้างอิงเหตุผลประกอบความรู้สึก ผู้ชายมักยอมอ่อนข้อให้เมื่อผู้หญิงแสดงท่าทีอ่อนแอ มุขนี้ใช้ได้ชัวร์ค่ะ

5. ไม่ผูกขาดสปอนเซอร์

อย่าเอาแต่รับ และอย่าเอาแต่ให้ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องคิดทุกอย่างแบบหารสองเป๊ะ ๆ หาโอกาสจ่ายแทนเขาบ้าง ให้เขาจ่ายแทนบ้างในโอกาสที่เหมาะสม แนวคิดนี้จะดีในระยะยาวเมื่อคุณทั้งคู่แต่งงานใช้ชีวิตร่วมกัน

6. แสดงความซื่อสัตย์และไว้ใจ

ทำให้เขาเห็นว่าคุณมีใจเด็ดเดี่ยวในความรัก ไม่วอกแวก หรือสร้างสถานการณ์ให้เขาหึงหวง และพร้อมกันนั้นคุณก็ต้องให้ความเชื่อใจเขาเช่นกัน ด้วยการไม่เข้าไปจู้จี้ สืบค้นปมต่าง ๆ ของเขา หรือแสดงความเป็นเจ้าของในทุกวาระโอกาส ควรอยู่ด้วยความเชื่อมั่นเพื่อให้ช่วงเวลาที่แชร์กันเต็มไปด้วยความสุข

7. แบ่งปันและรับผิดชอบร่วมกัน

อย่าให้ใครคนใดคนหนึ่งต้อง Take Side รับผิดชอบความรู้สึกทุกข์หรือสุขอยู่ฝ่ายเดียว เพราะมันจะทำให้เกิดสถานการณ์ฟางเส้นสุดท้ายในวันหนึ่ง และต้องเลิกรากันไป บางครั้งคุณต้องยอมลดความสุขในแบบของตัวเองลงบ้าง เพื่อนำมันมาเติมลงในความสุขกองกลาง

8. เปิดอกให้ซบ

ทำตัวเองให้เป็นที่พึ่งพิง ให้คำปรึกษาแก่เขาได้เสมอในยามทุกข์ร้อน แนวคิดสำคัญคือ การที่คุณต้องมองทางออกปัญหาในแบบไม่อยู่วังวนเดียวกัน และมอบกำลังใจ ความอ่อนโยน ความเชื่อมั่นให้เขา

9. ผิดไปแล้ว


สิ่งที่สร้างความเสียหายให้ชีวิตมากที่สุด คือความเพิกเฉยต่อคำขอโทษ ในกรณีที่เขาผิด การยกโทษให้ดีกว่าทำลืม เพราะไม่มีใครลืมอะไรได้จริง ๆ และให้ความผิดพลาดเป็นบทเรียน อย่าทำให้เกิดซ้ำสอง


9 เคล็ดลับความสุขที่ไม่เกินไขว่คว้า




บาง ครั้งเมื่อเราเดินให้ช้าลงและลองใช้ชีวิตแบบไม่รีบเร่ง เราอาจพบว่าความสุขที่แสวงหานั้นแท้จริงไม่ได้อยู่ไกลตัวนัก วันนี้จึงขอแชร์ เคล็ดลับความสุขที่อยู่ไม่ไกลเกินที่คุณจะไขว่คว้ามาได้

1. รู้ว่า "สิ่งใดควรอยากได้"

คนเรามักจะทำนายไม่ได้ว่าอะไรจะทำให้เรามีความสุขในอนาคต และความที่เราทำนายไม่ได้นี่ล่ะ เราถึงอาจเลือกทางเดินที่ผิด ดังนั้น เมื่อเรานึกภาพ "เป็นโสดอีกทีก็ดีเหมือนกัน" หรือ "ถ้าเปลี่ยนงานแล้วชีวิตฉันต้องดีขึ้นแน่ ๆ" เรามักไม่มองปัจจัยต่าง ๆ เช่น เพื่อนใหม่ หรือเราอาจจะพบว่าอยู่ดีๆ ก็สนใจด้านวิทยุ สมัครเล่น

สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้อาจเปลี่ยนชีวิต และความสุขของเราได้ แต่เราไม่สามารถมองอนาคตได้แม่นยำขนาดนั้น ทางเลือกที่ดีคือควรหันไปหาคนที่เคยมีประสบการณ์มาก่อน คิดว่าเราเองก็เหมือนกับคนอื่นนะ ถ้าไปสมัครงานใหม่ก็ลองมองพนักงานในบริษัทที่ไปสัมภาษณ์ มีใครให้ความสนใจคุณรึเปล่า? ซึ่งนี่อาจบอกอะไรได้มากทีเดียวล่ะ

2. ลงทุนกับประสบการณ์...มิใช่สิ่งของ

เราอาจไม่สามารถเปลี่ยนของนอกกายได้ แต่ของที่ใจเราเก็บไว้จะเปลี่ยนไปทุกครั้งที่เราหยิบมาดู สมมติว่าถ้าซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่มาแล้วแต่ไม่ชอบเอาเสียเลย เราก็ต้องซื้อเครื่องใหม่หรือบางทีอาจต้องคาดหวังให้น้อยลง แต่ถ้าฝนบังเอิญตกในวันที่เราเที่ยวป่าพอดี แม้นช่วงเวลานั้นจะดูเหมือนประสบการณ์ที่เลวร้าย แต่เมื่อมองย้อนกลับไปแล้ว ฝนที่ตกนั้นทำให้เราเรียนรู้ว่าชีวิตก็ต้องลำบากกันบ้าง และเราก็จะแข็งแกร่งขึ้น

3. ลงมือสร้างสรรค์ผลงาน

ด้วยสองมือของเราความสุขก็เกิดขึ้นได้ จากกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการศึกษาหนึ่ง จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เขาทดลองให้อาสาสมัครพับกระดาษและประมูลผลงานของตัวเองร่วมกับคนอื่น ๆ ผลก็อย่างที่เราคาดกันไว้ว่าคนจะเต็มใจจ่ายมากขึ้นเพื่อผลงานจากมือตนเอง และหลายกรณีแสดงว่าผลงานพับกระดาษที่ทำเองกับมือนี่ล่ะมีค่ามากกว่าผลงานจาก มืออาชีพ ฟังดูเหมือนง่าย แต่ความจริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นปักครอสติช พับกระดาษ หรือถักผ้าพันคอก็ตาม เราก็ต้องใส่ทั้งใจและความมุมานะ เนื่องจากความสุขนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากเราทำผลงานไม่เสร็จ (คิดดูสิถ้าถักเสื้อกันหนาวแล้วเสร็จแค่แขนหนึ่งข้าง เราคงไม่ยินดีหรอกจริงมั้ยคะ?)

4. บริจาค

เมื่อเรามีทุกอย่างที่จำเป็นต้องใช้แล้ว การมีเงินมากขึ้นก็เพิ่มความสุของเราได้เพียงน้อยนิด เพราะสิ่งสำคัญในชีวิตของคนเราไม่ใช่การ "คว้ามา" แต่เป็น "ให้ไป" ต่างหาก และการศึกษาจาก University of British Columbia โดยสำรวจชาวอเมริกัน 623 คน ผลก็คือเงินที่คนเหล่านั้นใช้กับเรื่องของตนเองนั้นแทบไม่เกี่ยวกับความสุข ในชีวิตเลย แต่ยิ่งบริจาคเงินให้ผู้อื่นมากเท่าไหร่เขาก็จะยิ่งมีความสุขมาก เท่านั้น และในการศึกษาต่อมาพบว่าจำนวนเงินนั้นไม่เกี่ยวข้องกับความสุขเลย ไม่ว่าคุณจะบริจาคมากหรือน้อยความสุขที่ได้ก็ยิ่งใหญ่พอกันค่ะ

5. เก็บเซอร์ไพรส์ให้ตัวเองบ้าง

ในสังคมออนไลน์ทุกวันนี้ ถ้าอยากรู้เรื่องราวตอนจบของหนังสักเรื่อง เราก็แค่เปิดอินเทอร์เน็ตและเสิร์ช ก็จะไม่เหลือความตื่นตาตื่นใจเมื่อดูจริง ๆ เสียแล้ว ทั้งที่ “ความไม่รู้” ทำให้เราได้คิดได้สงสัยและขยายช่วงเวลาแห่งความสุขออกไป เมื่อเราเข้าใจเรื่องต่าง ๆ ทะลุปรุโปร่งดีแล้ว "ความรู้" ที่เราได้มาก็จะถูกเก็บไว้อย่างดี และเราก็จะหันไปสนใจกับเรื่องอื่นต่อไปอย่างเบาใจ ถึงกระนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่จะเซอร์ไพรส์ตัวเอง เคล็ดลับง่าย ๆ ที่น่าลองก็คือ 1. อ่านนิยายดีๆ สักเล่ม พอใกล้จะจบแล้ว บังคับใจตัวเองให้หยุดอ่านสักสองสามวัน หรือ 2. เก็บแบงก์ 20 ไว้ในหนังสือแล้วก็ปล่อยไป...ถ้าหากคุณหยิบมาเจออีกครั้งจะต้องดีใจแน่ๆ "เงินเราเองนี่ ดีจังเลย"

6. ปล่อยใจให้ล่องลอย

ฝันกลางวันไม่ได้หมายความว่าขี้เกียจเสมอไป เพราะความจริงก็คือในขณะที่เราฝันกลางวัน สมองจะทำงานหนักพอสมควรทีเดียว การปล่อยสมองให้ล่องลอยระหว่างที่เราทำกิจกรรมง่าย ๆ อยู่ จะทำให้เน็ตเวิร์กสมองที่เป็นแหล่งความคิดเชิงตรรกะและแก้ไขปัญหาทำงาน พร้อมๆ กับสมองส่วนที่จุดประกายความคิดสร้างสรรค์และความคิดภายใน...บางทีนี่อาจจะ ได้เวลาที่เราต้องเดินออกจากห้องสี่เหลี่ยมและปล่อยให้สมองโลดแล่นสักชั่ว ครู่ก็เป็นได้นะคะ

7. เปลี่ยนชีวิตทีละเล็กทีละน้อย

การศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้ชี้ว่าสิ่งเล็กน้อย ที่เราทำสม่ำเสมออย่างออกกำลังหรือหันหน้าเข้าหาศาสนา อาจส่งผลต่อชีวิตเราได้อย่างใหญ่หลวง และยังพบว่าคนที่ "กลับออกมา" จากกิจกรรมทางศาสนาจะมีความสุขกว่าคนที่ "กำลังเข้าไป" และถ้ายิ่งออกกำลังกายหรือหันหน้าเข้าหาศาสนาเป็นประจำมากเท่าไหร่ ความสุขก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว

8. ดีพอ...ดีแล้ว

ทุกวันนี้เรามีตัวเลือกมากมายในการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องง่าย ๆ อย่างเสื้อผ้าสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งหลาย หรือแม้แต่เรื่องให้ต้องตัดสินใจอย่างแผนเกษียณ แผนออมเงิน ฯลฯ สิ่งต่าง ๆ ที่ประดังเข้ามาทำให้ส่วนใหญ่เราหัวปั่นไปหมด เรากังวลว่า "ถ้าฉันไม่เลือกแล้วเกิดตัวเลือกนั้นมันดีจริง ๆ ล่ะ" ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว เราไม่จำเป็นต้องคิดหนักขนาดนั้น ไม่ว่าทางเลือกของเราจะมีมากแค่ไหน เพียงจำกัดให้เหลือตัวเลือกที่ "ดีพอ" แล้วเราจะพบว่าชีวิตไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด

9. รู้จัก "วาง"

หนุ่มสาวหลายคนไม่ตระหนักในเวลาที่สมควรเดินหนีเมื่อสถานการณ์เลวร้ายจริง ๆ ซึ่งหมายถึงการที่เรายืดติดกับสิ่งที่ควรจะยอมปล่อยมือได้แล้วอย่างการทำงาน ไปวัน ๆ เพราะเราทำงานนี้มานาน ทนกับความสัมพันธ์ไม่เอาไหนเพราะเราไม่รู้จะเลิกอย่างไร หรือแม้แต่เรื่องที่เหมือนไร้สาระอย่างเข้าคิวนานจนแถวข้าง ๆ แซง แต่ก็ยังทนอยู่แถวเดิมเพราะ "ต่อมาตั้งนาน"

ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเรายืดติดกับเวลาที่เสีย เงินที่จ่าย รวมถึงความรู้สึกที่เคยมีจนมองไม่เห็นว่าการทนต่อไปไม่ได้ทำให้เรา "ได้" กลับมา ฉะนั้น เลิกเสียเถิดเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก แทนที่จะทนต่อให้คิดเสียว่าคุณยังไม่ได้ "ลงทุน" อะไรทั้งนั้น ถามตัวเองว่า "ถ้าเจอแบบนี้ตั้งแต่แรก ฉันจะทำยังไง"

+++ Hamster +++

+++ Playlist +++


MusicPlaylistRingtones
Create a playlist at MixPod.com

+++ coming soon +++