วันพุธที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2553

กล้องวิดิโอใต้น้ำฟูลไฮเดฟตัวแรกของโลก

รายงานข่าวล่าสุด ซันโย (Sanyo) เปิดตัว Sanyo Xacti DMX-CA100 กล้องบันทึกวิดีโอดิจิตอล และภาพนิ่งทีมาพร้อมกับระบบกันน้ำ อีกทั้งยังสามารถถ่ายวิดีโอคุณภาพระดับฟูลไฮเดฟฯ (1080p) ที่อัตราเฟรม 60 fps ขณะอยู่ใต้น้ำได้อีกด้วย

Sanyo Xacti DMX-CA100 แคมคอร์เดอร์รุ่นใหม่ล่าสุดที่ทางบริษัทอ้างว่า มันเป็นกล้องถ่ายวิดีโอตัวแรกของโลกที่สามารถบันทึกคลิปวิดีโอคุณภาพระดับ 1080p Full HD ได้ ประเด็นมันไม่ได้แค่การทำให้กล้องรุ่นนี้กันน้ำได้เท่านั้น แต่มันอยู่ที่ความสามารถในการบันทึกวิดีโอใต้น้ำที่ระดับความลึก 10 ฟุตที่ความละเอียด 1080p (H.264) ด้วยอัตราเฟรมที่สูงถึง 60 เฟรมต่อวินาที ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

นอกจากคุณจะสามารถใช้ Sanyo Xacti DMX-CA100 ถ่ายคลิปฟูลไฮเดฟใต้น้ำได้แล้ว คุณยังสามารถใช้มันถ่ายภาพดิจิตอล (ซูมออปติคัลได้ 6 เท่า) ที่ความละเอียด 14 ล้านพิกและสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 22 ภาพด้วยอัตราเฟรม 7 fps ที่ความละเอียด 2 ล้านพิกเซลใน Burst mode ได้อีกต่างหาก ซันโยตั้งใจที่จะวางตลาดกล้องถ่ายวิดีโอรุ่นนี้ในเดือนมิถุนายน โดยมีให้เลือก 3 สีด้วยกันได้แก่ ดำ เหลือง และชมพู อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทยังไม่ได้เปิดเผยเรื่องราคาของมันให้ทราบแต่อย่างใด



ชีวิตยังมีทิศตะวันออก



บ่อยครั้งที่ชีวิตผิดพลาด..ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่
เรา มักจะเอาสมาธิไปจดจ่ออยู่กับความผิดพลาดนั้น
ซ้ำเติมตัวเองให้ทุกข์…ให้ เสียใจ…


และพยายามจะสร้างคำถามเพื่อค้นหาคำตอบให้ตัวเองอยู่ เสมอ

ทั้งๆ ที่เราก็รู้ว่าคำตอบที่สร้างขึ้นมานั้น มัน ” ไม่ใช่ความจริง”…
ที่จะทำให้เราหลุด พ้นจากความเสียใจนั้นได้เลย…

เราจึงยอมติดกับ ดักความเสียใจอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
และกลายเป็นทาสของมันอย่างรู้ตัว…

รู้ว่าเสียใจแต่ก็ ไม่ทำให้อะไรมันดีขึ้นมา
และเราก็ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตได้


แต่ ทำไมเรายังเป็นทุกข์กับการเลือกที่จะเสียใจ
และทำชีวิตให้มันแย่ลงกว่า เดิมทุกวันๆ…

ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่ารสชาติของมันสุดแสนจะขมขื่นมากมายเพียงใด

เพราะ ” เราเริ่มต้นใหม่ไม่เป็น”…
เราเลยยังทุกข์ระทมไปกับความ ผิดพลาดของชีวิต

สิ้นสุดแล้วแต่ก็เริ่มต้น ใหม่ไม่ได้…
ไปไม่เป็น…เหมือนจะมองเห็นทาง…

แต่ก็เลือกที่จะปิดหู ปิดตา และไม่พยายามจะเปิดใจ
เราจึงต้องอยู่กับความเศร้าเสียใจอยู่ทุกคืนทุกวัน

ตอก ย้ำความผิดพลาดให้ตัวเองอยู่อย่างนั้น…


ลองมองดูวิถีดอกทานตะวันบ้างสิ..ชีวิตมีแต่ความเบิกบาน
เพราะ รู้จักที่จะใช้ชีวิตไปพร้อมๆ กับแสงตะวัน
แสงสว่างที่ส่องนำทางให้ชีวิต ทุกชีวิต…” ยังคงมีชีวิต”…


แม้ยามที่ดอกทานตะวันร่วงโรย…
ก็ยังคง ทิ้งเมล็ดพันธุ์ให้เจริญเติบโต…
งอกงามและรับแสงตะวันได้ใหม่อีกครั้ง


เพราะฉะนั้นเราต้องไม่ปิดตัวเอง…
แล้ว จมอยู่กับความคิดที่ว่าชีวิตต้องเริ่มต้นใหม่ไม่ได้

อย่าทำร้ายตัวเองด้วยการเศร้าเสียใจ…
แล้วปล่อยให้ชีวิตมันไหล ไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีคุณค่าและไร้จุดมุ่งหมาย…

จงใช้ชีวิตให้เป็นดั่งเช่นดอกทานตะวัน…
แม้ยามผิดพลาด เสียใจ ก็จะมีทางออกของชีวิตเสมอ

อับจนหนทางอย่างไร แสงสว่างจากดวงตะวัน
ก็จะคอยส่องทางให้เราได้พบเจอทางออก

“ชีวิตเราจึงมีทางออก ตราบใดที่บนโลกใบนี้ยังมีทิศตะวันออก”…

แม้ว่าชีวิตจะยังมืดมน จะยังคงจมอยู่กับความผิดพลาด เศร้าใจ
ก็ จงเศร้าให้ถึงที่ สุด เสียใจ ก็จงเสียใจเสียให้พอ

หากยังร้องไห้ ขอให้ระบายน้ำตาออกมา อย่ากักเก็บมันไว้ …
เมื่อ เราเสียใจอย่างถึงที่สุดแล้ว เราต้องกล้าลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง
และ พร้อมที่จะเป็นคนใหม่ ที่ใช้บทเรียนจากอดีต…
เป็นเหมือนเข็มทิศคอยช่วย บอกทางแก่ชีวิต เพราะ…


” ความเศร้านั้นมีข้อดีข้อเสียในตัวมันเอง
ข้อเสียคือ ทำให้เราโศกาอาดูร
แต่ข้อดีของมันคือ…
สอนให้เรารู้ว่าเราจะไม่ผิด พลาดตรงนี้อีก
เราจะต้องไม่ร้องไห้ให้กับมันอีก…”


ใครบางคนเคยบอกเอาไว้ตอนที่เสียใจกับความผิดพลาดของชีวิต…
เพราะ ฉะนั้นแล้วเกิดเป็นคน มีความรู้สึกรู้สาเหมือนกันหมด
สามารถเศร้าเสียใจ กับอดีตที่ผิดพลาดได้เหมือนกันหมด
และก็เริ่มต้นใหม่เหมือนกันหมดเช่น เดียวกัน…

ขอเพียงกล้าที่จะเป็นนกปีกหักที่ พร้อมจะรักษาตัวเอง
และออกเดินทางได้โดยไม่กลัวว่าหนทางข้างหน้า…
จะ ผิด พลาดซ้ำสอง อย่าลืมนะว่า …

” เรามีโอกาสผิดพลาดได้บ่อยครั้งเท่าไหร่ เราก็เดินถูกทางมากขึ้นเท่านั้น…”

ข้อคิดดีๆ เพื่อ..ตัวเอง









ถ้าไม่รักก็อย่าให้ความหวัง




แม้ว่าคนเราจะมีอยู่เป็น พัน ๆ ล้านคนบนโลกใบนี้ แต่การที่เราจะคลิกกับใครสักคนนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย บางครั้งคนที่เราชอบ เขาอาจจะไม่ได้ชอบเรา ในขณะที่มีคนมาชอบเรา แต่เราก็อาจจะไม่ได้ชอบเขา


การที่เราชอบใคร สักคน แต่เค้าไม่ได้ชอบเราตอบนั้น มันเป็นความรู้สึกที่เจ็บอย่างบอกไม่ถูก แต่การที่เขามาให้ความหวังเราแล้วจากไปนั้นเจ็บยิ่งกว่า ........


บางครั้งการกระทำบางอย่างของเราอาจจะเป็นการให้ความหวังใครบางคน เข้าได้ โดยที่เราไม่รู้ตัว อย่างเช่น


การโทร หาเขาหลังสี่ทุ่ม เวลานี้ถือว่าค่อนข้างดึกนะ และเป็นเวลาที่คนพิเศษเขาจะโทรหากัน ดังนั้นถ้าไม่มี ธุระอะไรที่จำเป็นก็อย่าโทรหาเขา/เธอในเวลานี้ เพราะเค้าอาจจะคิดได้ ว่าเขาน่าจะได้ขยับเป็นคนพิเศษได้บ้าง


ไม่ควร ซื้อของขวัญที่พิเศษกว่าเพื่อนคนอื่นให้เขา หรือ เป็นของขวัญที่คนพิเศษน่าจะมอบให้กัน เพราะเขาอาจจะเข้าใจผิดได้ ว่าคุณเริ่มมีใจให้เขาบ้างแล้ว แม้ว่าบางทีคุณอาจจะ แค่อยากซื้อให้เขาก็เท่านั้น แต่เขาอาจจะไม่คิดอย่างที่คุณคิดก็ได้





อย่าพูดในทำนองว่าช่วงนี้คุณเหงามาก อยากมีใครสักคนอยู่ข้าง ๆ ให้เขาฟังบ่อย ๆ เพราะเขาอาจจะคิดว่าคุณบอกเขาเป็นนัย ๆ ว่าคุณหมายถึงเขาได้ เรื่องแบบนี้ทางที่ดีควรจะคุยกับเพื่อนสนิท ๆ หรือก๊วนเพื่อนที่คบกันอยู่ประจำมากกว่า


อย่า สัมผัสถูกเนื้อต้องตัวกันโดยใช่เหตุ แม้ว่าคุณจะเห็นว่าเขาเป็นเพื่อน แต่การเดินแตะแขน หรือกอดคอ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ต้องโดนตัวกันโดยไม่จำเป็นนั้น มันอาจจะทำให้เขาคิดไปไกลไหนถึงไหนได้


พยายาม ทำตัวกับเขาให้เหมือนกับที่ทำกับเพื่อนคนอื่น ๆ พยายามทำให้เขาเห็นว่าคุณเองรู้สึกกับเขาแค่เพื่อน คุณ อาจจะพูดย้ำเสมอ ๆ เวลาอยู่ด้วยกันทั้งกลุ่มว่าคุณรู้ดีแค่ไหนที่ได้อยู่กับเพื่อน ๆ (ซึ่ง ก็มีเขาอยู่ ณ ที่นั้นด้วย) และอย่าพยายามถามว่าเขารู้สึกกับคุณเช่นไร เพราะหากว่าคำตอบคือ เค้าอยากเป็นมากกว่าเพื่อนกับคุณ แต่คุณไม่ได้คิดอะไรกับเขา นั่นเท่ากับคุณเป็นฝ่ายให้ความหวังเขา แล้วก็จากไป


หากมีใครสักคนที่เข้ามาชอบคุณ แต่คุณไม่ชอบเขาก็อย่าลังเลที่จะปฏิเสธเขาอย่างนุ่มนวล อย่ากลัวว่าเขาจะเสียใจ เพราะถ้าคุณไม่ได้ชอบเขาจริง ๆ ไม่ว่าจะปฏิเสธเขา ตั้งแต่แรก หรือตอนไหน ๆ เขาก็เจ็บอยู่ดี เพียงแต่การบอกเขาตั้งแต่เนิ่น ๆ เขาอาจจะยังรู้สึกดีกว่าที่คุณทำเหมือนมีใจ แต่แล้วก็ทิ้งไปอย่างไม่ใยดีในตอนหลังเสียอีก


ที่ ใดมีรักที่นั่นย่อมมีทุกข์ แต่หลายคนก็ยอมทุกข์ เพื่อให้รู้จักความรัก

ปรับจิตตนเอง เพื่อลดความรุนแรงในสังคม


ปรับจิตตนเอง เพื่อลดความรุนแรงในสังคม

นายแพทย์ธนู ชาติธนานนท์
นายกสมาคมฯ


ความ วุ่นวายและความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคมไทยระยะนี้
ย่อมทำให้คนไทยโดย เฉพาะอย่างยิ่งคนกรุงเทพฯ เครียดมากขึ้น
ซึ่งความเครียดที่มากเกินไป ย่อมมีผลเชิงลบต่อสุขภาพกาย
และสุขภาพจิตของบุคคล ทำให้ความสามารถในการใช้เหตุผล
การควบคุมอารมณ์ และการควบคุมพฤติกรรมของตนเองลดลง
คนที่เครียดมากๆ จึงมักคุยกันไม่รู้เรื่อง ตกลงอะไรกันไม่ได้
และจะใช้อารมณ์มากกว่า เหตุผล ซึ่
งทำให้ปัญหาต่างๆ ที่มีอยู่ต่อกันแก้ไขไม่ได้
แต่อาจจะ ยิ่งขัดแย้ง รุนแรงมากยิ่งขึ้น
ด้วยเหตุนี้สมาคมสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงขอเสนอ
แนวทาง ปฏิบัติเพื่อบุคคลที่อยู่ในภาวะเครียด
ใช้เป็นแนวทางในการลดความเครียด ที่กำลังเผชิญอยู่ต่อไป ดังนี้



1. บุคคลต้องรู้ทันความเครียดที่มีอยู่ใจตน :
ความ เครียดเป็นสิ่งที่จับต้อง ไม่ได้ แต่รู้สึกได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูป ของความรู้สึกวิตกกังวล กระวนกระวาย
หงุดหงิด เบื่อหน่าย เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิท
ในคนที่มีโรคประจำตัวอยู่เดิม เช่น ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง
โรคกระเพาะ โรคปวดศรีษะ โรคปวดหลัง เป็นต้น
อาการ ของโรคเหล่านั้นก็จะกำเริบขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น
ปวดท้องบ่อยขึ้น ปวดศรีษะ ปวดหลัง รุนแรงชึ้น เป็นต้น
ส่วนคนที่มีนิสัยเดิมเป็นคนใจเย็น หนักแน่น
ก็อาจกลายเป็นคนใจร้อน ขี้หงุดหงิด ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เป็นต้น
ดังนั้นใครที่รู้สึกอย่างข้างต้น ก็ควรตระหนักว่า
ตนกำลัง อยู่ในภาวะเครียดที่สมควรได้รับการแก้ไข


2. ปรับร่างกายให้ดี :
ความ เครียด มีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย
การปรับสภาพร่างกายให้เข้มแข็ง
เพื่อ ให้สามารถเผชิญกับความเครียดได้ดีขึ้น เป็นเรื่องสำคัญ
เริ่มตั้งแต่การ เลือกรับประทานอาหารให้ถูกต้อง เหมาะสม
หลีกเลี่ยงของมึนเมา เช่น สุรา ยาเสพติด
เพราะจะยิ่งทำให้สุขภาพทรุดโทรมลง
และเสียความสามารถในการ ควบคุมตนเอง
ต้องพยายามนอนพักผ่อนให้ได้อย่างน้อย หก ถึง แปด ชั่วโมง ต่อวัน
หาโอกาสออกกำลังกายโดยสม่ำเสมอ
ถ้ามีเวลาน้อยก็อาจปรับการทำ ภาระกิจประจำวันของตน
เป็นการออกกำลังกาย เช่น การให้การเดินขึ้นลงบันได้ แทนการใช้ลีฟท์
ใช้การเดินติดต่องานกับผู้ ร่วมงานแทนการใช้โทรศัพท์ เป็นต้น


3. ปรับใจตนเองให้ดี:
ความ เครียดมีผลต่อสมรรถภาพของจิตใจเป็นอย่างมาก
การลดความเครียดสามารถทำได้ โดยวิธีการต่าง ๆ
ตั้งแต่การตัดถอนสาเหตุที่เข้ามากระทบ เช่น
โดยการ ลดการเสพข่าวสารที่ทำให้เครียด
โดยการไม่หมกมุ่นกับข่าวเหล่านั้นมากเกิน ไป
แต่หันไปเสพข่าวสารที่ทำให้สบายใจบ้าง เช่น ดูข่าวกีฬา
ดูสารคดี ที่ให้ความรู้ ความบันเทิง ฟังเพลง เล่นกีฬา
ทำงานบ้าน ปลูกต้นไม้ ดอกไม้ ดูแลสัตว์เลี้ยง
และแน่นอน สวดมนต์ไหว้พระ ปฏิบัติศาสนกิจตามความเชื่อ


4. ปรับบรรยากาศและความสัมพันธ์ในครอบครัวและในที่ทำงานให้ดี :
สถานการณ์ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
ไม่ได้มีผลต่อตัวท่านเท่านั้น แต่มีผลต่อบุคคลที่ใกล้ชิดท่านด้วย
ทุกคนกำลังรู้สึกเครียด และแย่ไม่น้อยไปกว่าท่าน
การให้กำลังใจ ให้ความเข้าใจ ให้ความรักความอบอุ่นแก่กันและกัน
จะช่วยให้ทุกคนรู้สึกดีชึ้น แต่ละคนอาจมีความคิดเป็นที่แตกต่างกัน
ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ และเป็นธรรมชาติของมนุษย์
ควรยอมรับความแตกต่างโดยไม่ต้องโกรธกัน
เวลา จะช่วยคลี่คลายความแตกต่างให้จางลงไปได้ในที่สุด
สมาคมสุขภาพจิตแห่ง ประเทศไทยฯ

หวังว่าแนวทางที่เสนอมานี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่นำไปปฏิบัติ
ช่วยลดความเครียดที่เกิดขึ้นลงได้ ไม่มากก็น้อย จิตใจที่ปลอดโปร่งขึ้น
ย่อมทำให้บุคคลพูดจากันรู้เรื่อง มากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น
ปัญหาที่มีต่อกันก็จะลดลงหรือหมดไปได้ในที่สุด

+++ Hamster +++

+++ Playlist +++


MusicPlaylistRingtones
Create a playlist at MixPod.com

+++ coming soon +++