เวลา ไปซื้อของตามย่านขายสินค้าราคาถูกอย่างบางลำพู หรือ สวนจตุจักร เรามักจะตกเป็นเหยื่อให้กับแม่ค้าหัวใสที่มากด้วยประสบการค้าใช้กลยุทธ์มาก มายเพื่อขายสินค้าให้กับเรา แล้วก็ได้ผลเสียด้วยซิ เราก็ซื้อเขาทุกทีไป แล้วยังกระหยิ่มว่าซื้อของได้ถูก แต่ที่จริงแม่ค้าเขาได้กำไรกับเรากว่าเท่าตัว เรามักจะคุ้นเคยกับประโยคหลายประโยคจากแม่ค้าว่า “ไม่ได้บอกผ่าน” “ราคานี้ก็ขายขาดทุนแล้ว” “ กำไรแค่ 10 บาทเอง” “ ลองไปถามดูเลยแถวนี้ที่นี่ถูกสุดแล้ว” ฯลฯ ร้อยแปดลมปากที่แม่ค้าบอกคุณ
วันนี้ เราลองมาหากลยุทธ์การรับมือแม่ค้าเหล่านี้กันดูนะคะ
1. ต้องตั้งปณิธานไว้ในใจว่า ไม่ขายก็ไม่เอา ค่อยซื้อร้านใหม่ เพราะถ้าเราแสดงความอยากได้ให้แม่ค้าเห็นคุณก็ต่อยากแน่นอน บางทีเขาเห็นอาการของคุณเขาก็ไม่ลดแล้ว
2. หากคุณเป็นผู้ชายไปคนเดียวและไปซื้อของเกี่ยวกับผู้หญิง ประเภทกุ๊กกิ๊ก ไปคนเดียว แน่นอนถ้าคุณไม่ทำการบ้านมาดีๆ โดนแม่ค้าฟันกำไรเลือดสาด เพราะสิ่งเหล่านั้นผู้ชายไม่จัดเจน กรณีนี้มีวิธีแก้ไม่ยาก ก่อนอื่นคุณต้องทราบราคาสินค้าทั่วไปในสิ่งที่คุณจะซื้อเสียก่อนจะได้ต่อรอง ถูก เมื่อเลือกของที่จะซื้อถูกใจแล้วก็ค่อยถามราคา แม่ค้าอาจจะถามคุณว่า “ซื้อไปให้แฟนหรือค่ะแหมคุณนี่เลือกเก่งนะค่ะรุ่นนี้ขายดีมากผู้หญิงชอบ” และแม่ค้าจะบอกราคาคุณ คุณต้องตอบว่า “ ครับแฟนผมฝากมาซื้อ ” แจ้งราคาที่ต้องการโดยลบจากราคาที่แม่ค้าบอกไป30% แน่นอนแม่ค้าจะบอกคุณว่าไม่ได้ เพราะเขารู้ว่าผู้ชายไม่ช่างเลือก ไม่ช่างต่อ คุณต้องใช้ความเด็ดขาดเปล่งเสียงออกไปอย่างหนักแน่นว่า “ แฟนเขาบอกว่าให้ซื้อราคานี้ถ้าไม่ได้ก็ไม่เอาครับเขาให้ไปดูอย่างอื่นแทน ” แล้วเดินออกจากร้านทันที อย่าพิรี้พิไรเลือกตัวอื่นต่อ เมื่อคุณพ้นประตูร้าน เขาจะเรียกตามคุณว่าก็ได้ แล้วพูดพึมพำว่า “ ชิ้นนี้พิเศษสำหรับคุณนะค่ะใช้ดีวันหลังบอกต่อนะค่ะ”
3. ถ้าคุณเป็นผู้หญิงจะไปซื้อของในแบบฉบับผู้ชาย เช่น อะไหล่รถยนต์ เปลี่ยนยางรถยนต์ อุปกรณ์กีฬา ฯลฯ คุณต้องรู้ในเรื่องนั้นๆพอหอมปากหอมคอ เช่น เปลี่ยนยางในร้านที่คุณไม่คุ้นเคยเลย เมื่อไปถึงต้องชวนช่างคุยก่อน เช่น “ ราคายางเดี๋ยวนี้ถูกกว่าแต่ก่อนนะค่ะ เพิ่งเปลี่ยนคันที่บ้านไปแค่พันบาทเอง เดี๋ยวนี้เขาไม่คิดค่าแรงด้วย ร้านพี่ก็คงเหมือนกันใช่ไหมค่ะ ดูมีมาตราฐานกว่ามาก ” เขาจะรู้สึกต่อคุณดีขึ้นมีภูมิเรื่องรถมากขึ้น ในรายที่จะหลอกคุณก็จะไม่กล้าหลอก จำไว้ว่าแม้นคุณจะมีความรู้เรื่องรถแค่หางอึ่งก็อย่าบอกเขา เพราะอาจโดนมิจฉาชีพหลอกต้ม เอาได้ แถมอาจจะได้ราคาถูกอีกด้วย
4. ถ้าคุณเป็นผู้หญิงไปซื้อของกับแม่ค้าผู้หญิง แม้ค้าจะดูลัษณะของเราและตั้งราคาตามสายตาและพฤติกรรมของเรา (กรณีที่ไม่ได้ติดป้ายราคา) เขารู้ดีว่าคุณช่างต่อ เพราะฉนั้นเขาจะตั้งราคาเผื่อเช่น ของราคา 350 บาท เขาจะตั้งไว้ 399 บาท โดยทั่วไปคนซื้อจะต่อ350ถ้วน เขาจะทำท่าทางว่าไม่ได้กำไร แล้วขอเพิ่มเป็น 370 บาท ลูกค้าก็อาจยืนยัน350บาท มาถึงตรงนี้เขาจะปิดการขายโดยถามคุณว่าจะรับกี่ตัวดี คุณชักลังเล เขาเห็นท่าว่าคุณจะไม่เอาเขาก็จะปล่อยของให้คุณทันที 350 บาท ซึ่งก็จะตรงตามเป้าที่เขาตั้งไว้สบายไป บางคนก็อาจยอมแม่ค้าในราคา370บาท คุณก็จะกลับบ้านไปกับความภูมิใจว่าซื้อของได้ถูกซึ่งในความเป็นจริงเขาฟัน กำไรจากคุณไปกว่า 50%ซ้ำ
วิธีที่ถูกต้องคือ คุณต้องต่อรองเหลือ 250 เพื่อทิ้งช่วงให้แม่ค้า เขาจะบอกคุณว่าไม่ได้ลดได้แค่ 300 เอง ไม่มีกำไรแล้ว คุณก็บอกว่าพบกันครึ่งทาง 270 ก็แล้วกัน ยื้อกันสักพักคุณเชื่อไหมเขาจะขายให้คุณทันที เขาจะไม่ต่อรองราคานี้นานเพราะลูกค้าคนใหม่กำลังเข้าร้านมาอาจจะได้ยินราคา ที่เขาลดให้คุณ อีกทั้งราคาที่ให้ก็กำไรแล้ว (จำไว้ว่าสินค้าประเภทเสื้อผ้าเขาคืนโรงงานไม่ได้ แม่ค้าจำเป็นต้องระบายสินค้าให้หมดไม่งั้นขาดทุน ถ้าแบบผ้าล้าสมัยแฟชั่นใหม่เข้ามาแทนที่ เขาจึงยอมกำไรน้อยแต่ปล่อยของเร็ว )
5. ถ้าคุณเป็นผู้ชายซื้อของที่พ่อค้าผู้ชายขาย ต้องจำไว้อย่างหนึ่งว่า เขาขี้รำคาญคนต่อ เขาไม่ชอบตื้อ คุณไม่เอาเขาก็ไม่ขาย เทคนิคในการเดินหนีนั้นใช้ไม่ได้ผลหรอก เขาไม่มีทางตะโกนตามหลังคุณ ถ้ามีก็น้อยมาก ถ้าคุณสำรวจมาแล้วว่าเขาขายถูกกว่าทุกร้าน และคุณจำเป็นต้องใช้ของนี้ ควรต่อรองแค่พอประมาณ ไม่เหนือบากกว่าแรงเขาจะลดให้คุณทันที ซึ่งคุณต้องรู้ราคาของจริงๆ ก่อน
6. หากเจอแม่ค้าสาวประเภท 2 คุณสามาถแสดงความสนใจในสินค้าของเจ้าหล่อนได้อย่างเต็มที่ และเอ่ยปากชมเธอที่ช่างมีตาถึงสามารถเลือกสินค้าคุณภาพสวยงามมาขายได้เริ่ด ขนาดนี้ เธอจะปลื้มและพาคุณทัวร์ทั้งร้านอย่างสบายใจ เมื่อคุณต่อรองเจ้าหล่อนมักจะให้ทันที แถมอาจหิ้วของส่งคุณขึ้นแท๊กซี่อีกต่างหาก ตรงข้ามถ้าคุณเริ่มต้นตำหนิสิ้นค้าแถมต่อรองแบบบ้าเลือด นอกจากเจ้าหล่อนจะไม่ขายให้แล้ว อาจแถมรองเท้าไล่หลังมาก็ได้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น