วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2553

● ขาดเธอ ( ไม่ ) ขาดใจ ●



บางคน คิดว่าการที่หลบแสงแดดรักที่กำลังแผดเผา
ไปอยู่ใต้ร่มเงาของวัดแล้ว ทำให้ไม่คิดอะไรเพราะไม่มีสิ่งมากระทบ
เหมือนการที่เราหนี ปัญหาก็ดูจะมีความจริงอยู่ส่วนหนึ่งค่ะ
เพราะบรรยากาศในวัด ย่อมสงบเย็นช่วยเกื้อกูลจิตเรา
มีกำแพงวัดเป็นปราการ
ลด ความรุนแรงจากการไหลปะทะเข้ามาของกระแสกิเลสอันเชี่ยวกรากภายนอก


แต่ทั้งนี้ ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใดก็ตาม ถ้าจิตเราไม่ได้อยู่กับปัจจุบัน
คอย พะวงคว้านหาคล้อยตามภาพในอดีต แม้ยามเผลอสติเพียงชั่วพริบตา
ก็ พร้อมที่จะกระเทือนไหวปรุงแต่งไปตามสิ่งที่มากระทบอยู่ตลอดเวลาแล้ว
ทุกข์ ก็บังเกิดขึ้นได้ทุกแห่งหน


เมื่อทราบว่า จิตเราขาดกำลังที่จะต้านทาน
ยังมีความอ่อนไหว อ่อนแอ ต่อสิ่งกระทบแม้เพียงเล็กน้อย
ก็พึงป้องกันเหตุอัน จะเกิดเสีย


ปิดช่องทางอันจะทำให้ทุกข์ กำเริบ สิ่งใดที่พึงเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยง
ไม่จดจ้องมอง ไม่รับรู้รับฟัง เรื่องราวของเขาโดยไม่จำเป็น ยุติจิตที่สอดส่ายค้นหา
ไม่ ให้ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นี้เป็นประตูให้ทุกข์คืบคลานเข้ามา


ทุกครั้งที่เผลอไผล ก็รีบดึงสติของตัวเองกลับมา
หายใจเข้าออกแรงๆ ให้รู้ตัวโดยไว
ถามตัวเองว่า เรากำลังทำอะไรอยู่
ถ้า รู้สึกว่าจิตฟุ้งซ่านเกินระงับ ก็เอนตัวพักบนเก้าอี้ แล้วหลับตาลง
ค่อยๆ ผ่อนคลาย หายใจเข้าช้าๆ และผ่อนลมหายใจออก
มีสติรู้อยู่ ที่ลมหายใจของเรา รู้ว่า เรากำลังหายใจเข้า ออก
มีลมผ่าน เข้าออกทางช่องจมูก
สักพักหนึ่งจิตเราก็สงบระงับ เบาสบายขึ้น


จะเห็นว่า เรายังมีลมหายใจ หายใจเองได้อยู่
แม้ไม่มีเขา ก็ไม่ได้ทำให้ลมหายใจของเราหมดไป
ถ้าเป็นเช่นนั้น เราจะนำชีวิต อนาคต
และความสุขทั้งมวลของเราไปฝากไว้กับ ผู้ชายคนหนึ่ง
ซึ่งเป็นเพียงคนรักในอดีตทำไม
ปัจจุบัน เขาไม่ใช่คนรักของเรา ไม่ใช่สามีของเราแล้ว ไม่ใช่ผู้ที่เราควรไปอาลัยหา


ก่อนหน้าที่มาจะเป็นสามี เรา เขาก็เป็นคนแปลกหน้าคนหนึ่ง
ซึ่งครั้งนั้นเราก็มี ชีวิตของเราอยู่มาได้ด้วยลมหายใจตัวเอง และมีชีวิตที่เป็นปกติสุข


แล้วทำไมเราจะอยู่ต่อไปไม่ ได้?


การเป็นสามีภรรยา ไม่ได้หมายความว่า ไม่มีวันพรากจาก
เพราะอย่างไรในวัน หนึ่งข้างหน้า
เขาและเราเมื่อหมดลมหายใจ ต่างก็ต้องแยกย้ายกันไปตามทางของตน
เราไม่อาจยื้อยุดฉุดมือ เขาไว้ได้ แม้แต่หญิงคนใหม่ของเขาก็ทำไม่ได้เช่นกัน
หญิงคน นั้นก็มีโอกาสอยู่กับเขาแค่ชั่วเวลาหนึ่งเท่านั้น ซึ่งก็ไม่รู้เลยว่าจะยาวนานเพียงใด
เพราะมัจจุราชไม่ได้ บอกกล่าวแก่ใครล่วงหน้า ทุกอย่างเป็นตามกรรมของแต่ละคน


เรื่องของเขา ชีวิตของเขา กรรมของเขา เราไม่ควรไปให้ความสนใจแบกรับ


เราพึงทำกิจของเราให้พร้อม ไปสู่สถานที่ที่มีโอกาสสร้างกุศล
หมั่นเพียรสร้างหยอด กระปุกบุญ แม้เพียงครั้งละเล็กน้อย
เต็มเสบียงกุศลของเรา ให้เต็ม และหมั่นระลึกกรรมดีที่ได้เคยกระทำมาให้บ่อยขึ้น


ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมี ทางออกเสมอ
ปัญหาทุกอย่างย่อมมีวันสิ้นสุด ขอเพียงเรามีกำลังใจไม่ท้อถอยในการสร้างกรรมดี

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

+++ Hamster +++

+++ Playlist +++


MusicPlaylistRingtones
Create a playlist at MixPod.com

+++ coming soon +++