"ตำลึง ไม้เลื้อยที่ชาวไทยรู้จักดีเพราะปลูกง่าย เลี้ยงง่าย พบเห็นได้ทั่วไป ในสมัยก่อนที่บ้านเรือนชาวไทยยังมีพื้นที่กว้างขวาง ดำเนินชีวิตแบบพอเพียง พึ่งพาอาศัยพืชผักผลไม้ที่ปลูกอยู่รายรอบบ้านนำมาทำเป็นอาหาร ตำลึงเปรียบได้ดั่ง "ผักสวนครัว รั่วกินได้" ของชาวไทยอย่างแท้จริง เพราะไม่ว่าจะหันมองไปทางไหนทุกริมรั้วบ้านก็มักมียอดอ่อนๆ ของผักตำลึงโบกพลิ้วปลิวไสวไปตามแรงลมให้เห็นจนชินตา ประโยชน์ของตำลึงนอกจากจะปลูกเป็นผักสวนครัว นำมาปรุงอาหารรับประทานได้โดยง่ายแต่สุดแสนเอร็ดอร่อยเป็นที่ถูกใจใครหลายๆ คนในครอบครัวแล้ว ตำลึงยังถือเป็น "ยาเย็น" ที่มีฤทธิ์ทาง สมุนไพรนานาประการ ไม่ว่าเป็นดับพิษร้อน ถอนพิษไข้ ใช้เป็นยารักษาอาการแพ้โดยทั่วไป ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ฯลฯ และยังมีอีกหนึ่งสรรพคุณของตำลึงซึ่งไม่ควรมองข้าม นั่นคือ ฤทธิ์ในด้านการล้างพิษ ซึ่งครอบคลุมทั้งการล้างพิษภายในและการล้างพิษภายนอกร่างกายเลยทีเดียวค่ะ
จะขอพูดถึงการล้างพิษภายนอกร่างกายกันก่อนนะคะ ตำลึงหรือที่มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Coccinia grandis Voight สามารถนำมาใช้เป็นยาทาภายนอก เพื่อแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย ผื่นคัน หรือการอักเสบทางผิวหนังที่เกิดการระคายเคืองเนื่องจากสารเคมีตกค้าง อาทิ เครื่องสำอางชนิดต่างๆ ได้ โดยการนำใบตำลึงสด ๑ กำมือมาล้างให้สะอาด บดจนละเอียด แล้วผสมน้ำ (ที่อุณหภูมิปกติ) ลงไปเล็กน้อย จากนั้นจึงคั้นเอาน้ำสมุนไพรที่ได้มาทาในบริเวณที่มีอาการ หลังจากน้ำสมุนไพรแห้ง ก็ทาซ้ำบ่อยๆจนกว่าจะหาย นับเป็นวิธีการล้างพิษทั่วไปที่เกิดขึ้นกับผิวหนัง โดยที่เราไม่ต้องพึ่งพาการใช้ยาเคมีใดๆ เลย นอกจากนี้ ในตำรายาสมุนไพรยังกล่าวถึงการใช้เอทิลแอลกอฮอล์ หรือ แอลกอฮอล์ที่สามารถรับประทานได้ ชนิดที่มีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ไม่เกิน ๔๐ เปอร์เซ็นต์ (เข้มข้นมากกว่านี้อาจทำให้ผิวหนังแห้ง หรืออักเสบ) มาเป็นส่วนผสมลงในใบตำลึงบดละเอียดแทนการใช้น้ำธรรมดา (โดยปกติแล้วชาวบ้านส่วนใหญ่นิยมใช้เหล้าขาว) ซึ่งวิธีนี้ทำให้ได้ฤทธิ์ในการรักษาที่เข้มข้นยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะมีเอทิลแอลกอฮอล์ที่เปรียบเสมือนตัวกลาง ช่วยสกัดสารที่อยู่ในใบตำลึงให้ออกมาได้มากขึ้น แต่อาจมีการตรวจสอบเบื่องต้นเสียก่อนว่า ผิวหนังเราแพ้เอทิลแอลกอฮอล์หรือไม่ ด้วยการนำน้ำสมุนไพรที่ได้มาพอกสังเกตดูอาการขั้นต้นก่อนที่ใต้ท้องแขน ซึ่งเป็นผิวหนังส่วนที่อ่อนที่สุดในร่างกาย เพียงไม่เกิน ๓-๔ ชั่วโมง ก็จะรู้ผลแล้วล่ะค่ะ แต่หากอาการเจ็บป่วยของท่านไม่อยู่ในขั้นรุนแรง หรือ เป็นโรคร้าย เช่น งูสวัด ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เอทิลแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมแต่อย่างใด เพียงแค่น้ำเปล่าหรือใบตำลึงบดสดๆ เพียงอย่างเดียวก็สามารถล้างพิษออกทางผิวหนังได้แล้ว คล้ายๆ กับการใช้ประโยชน์จากว่านหางจระเข้นั่นเองค่ะ
ประโยชน์ของตำลึงยังมีอีกมาก ในด้านการล้างพิษ เรายังสามารถนำตำลึงมารับประทานเพื่อล้างพิษหรือถอนพิษที่เข้าสู่ร่างกายจาก การรับประทานอาหารได้อีกด้วย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น