วิธี สังเกตให้รู้ว่านี่คือรักแท้หรือแค่อารมณ์วาบไหวเป็นอย่างไร ลองสำรวจตัวเองดังต่อไปนี้
รักคืออะไร อาการต่างๆ เช่น หัวใจเต้นตุบตับเป็นจังหวะ นอนไม่หลับกระสับกระส่าย มือเท้าเย็น อาการวาบหวิวในช่องท้องเหมือนมีผีเสื้อบินอยู่เป็นร้อยตัว ฯลฯ คือสัญญาณที่บ่งบอกว่านี่คือรักแท้หรือไม่... เปล่าเลยค่ะ... แค่ความหลงเท่า นั้น
รักคืออะไร อาการต่างๆ เช่น หัวใจเต้นตุบตับเป็นจังหวะ นอนไม่หลับกระสับกระส่าย มือเท้าเย็น อาการวาบหวิวในช่องท้องเหมือนมีผีเสื้อบินอยู่เป็นร้อยตัว ฯลฯ คือสัญญาณที่บ่งบอกว่านี่คือรักแท้หรือไม่... เปล่าเลยค่ะ... แค่ความหลงเท่า นั้น
อยากพบพ่อแม่ของอีก ฝ่าย
ตามปกติไอเดียเรื่องการไปพบพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ของ อีกฝ่ายถือเป็นเรื่องที่น่ากลัวสุดๆ ดังนั้นถ้าคบหาดูใจกันไปสักพัก และอยากรู้จักกับผู้ใหญ่ของอีกฝ่าย แถมยังสามารถบอกข้อมูลส่วนตัวให้กันได้อย่างเต็มใจ เช่น นิสัย เป้าหมายในชีวิต บัญชีธนาคาร ฯลฯ ถือว่านี่ละคืออาการของคนกำลังอินเลิฟอย่างไม่ต้องสงสัย
เอ่ยปากว่าเลิกเดทกับคนอื่นอย่างเต็มใจ
การ ทำตัวรักสนุกร่อนไปเรื่อยเปื่อยไม่ใช่พฤติกรรมที่น่าชื่ชมเอาซะเลย ดังนั้นการที่เปิดอกกับอีกฝ่ายว่า จะเลิกยุ่งกับคนอื่น ทำตัวรักเดียวใจเดียว จึงเป็นเรื่องเซอร์ไพรซ์มาก เพราะนั่นเท่ากับเป็นการมอบอำนาจให้อีกฝ่ายได้เข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตด้วย นี่ไม่เพียงแสดงว่ากำลังอินเลิฟ แต่ยังแสดงถึงความเป็นผู้ใหญ่ที่ยุติธรรมและมีเหตุผลอีกด้วย
เลิกล่าแต้ม
เชื่อไหมว่าบางคน มีสมุดไว้จดสะส้มแต้มว่าได้สอยใครมาบ้าง (ใช้คำแรงไปไหมนี่) ดังนั้นการเลิกสะสมคะแนนจึงถือว่า นี่คือการยอมรับความสัมพันธ์ที่จริงจังและผูกมัด ทันทีที่รู้ตัวว่าพบคนที่ ใช่ เราก็จะดำเนินชีวิตต่อไปกับคนๆนี้เท่านั้น ไม่มีเหตุผลที่ต้องเดินถอยหลัง
รู้สึกผ่อนคลายเวลาอีกฝ่ายอยู่ใกล้
นอก จากโลกจะสดใสแล้วยังรู้สึกดีกับตัวเองด้วย เมื่อเกิดความรู้สึกแบบนี้ขึ้นมาแสดงว่าได้ผ่านช่วงหลงใหลหน้ามืดตามัวมา แล้ว ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่หายใจไม่ทั่วท้องเวลาอีกฝ่ายอยู่ใกล้ เนื่องจากตื่นเต้นฮอร์โมนเลยพุ่งพล่าน และผีเสื้อบินว่อนอยู่ในท้อง ตอนนี้จึงเป็นช่วงที่มีความสุข มีชีวิตชีวาและกินได้นอนหลับ นี่ละคือความรัก
ฮัมเพลง รัก
ความรู้สึกอื่มเอิบและเป็นสุขอยู่ในส่วนลึก ทั้งผ่อนคลายและสบายใจเสียจนไม่รู้ว่าตัวเองกำลังอินเลิฟ ความรู้สึกเติมเต็มทำให้มีสมาธิดีขึ้น ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มันเนียนเสียจนไม่รู้ตัวเลย จึงเผลอไผลฮัมเพลงรักออกมาซะงั้นโดยไม่ได้รบกวนสิ่งที่กำลังทำอยู่ เพราะเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติ พอรู้ตัวปั๊บก็จะเผลอออกมา นึกถึงหวานใจขึ้นมา จากนั้นก็จะกลับไปทำงานต่อ นี่ละที่ฟรอยด์บอกว่า มนุษย์ทุกคนต้องการงานและความรัก
เต็มไปด้วยพลัง
พลังนี้คือ พลังที่เกิดขึ้นเมื่อยิงบอลเข้าโกล์ หรือทำอาหารสูตรนี้ด้วยความยากลำบากแล้วปรากฏว่าอร่อยเหาะ หรือสามารถใส่ยีนส์ตัวที่เคยคับได้พอดีเป๊ะ นี่คือพลังที่เรารู้สึกเวลาที่ประสบความสำเร็จกับอะไรสักอย่าง นี่คือความรู้สึกของคนที่มีความรัก (ไม่ใช่ตกหลุมรัก) และเป็นความรู้สึกที่ยืนนาน ไม่ใช่เพียงฉาบฉวย
เต็มใจไป สถานที่ที่ไม่ชอบ
ยกตัวอย่างเช่น โรงละครหรือสนามมวย การเต็มอกเต็มใจควงคนรักไปในสถานที่ที่ไม่ถูกใจ แสดงถึงความรักอย่างแน่นอนที่สุด ความรักทำให้ทัศนคติอ่อนโยนขึ้น ยอมเปิดรับสิ่งที่ไม่ชอบ เพราะความรักทำให้รู้จักเผื่อแผ่แก่คนที่เรารัก เป็นความรู้สึกอิ่มเอิบเมื่อได้ร่วมทำบางอย่างกับคนรัก นั่นหมายถึงว่าเราให้ความสำคัญกับคนมากกว่าเรื่องอื่น...นี่ละความรัก
เปลี่ยนนิสัยการใช้จ่าย
จากคน ขี้เหนียวก็ยอมควักกระเป๋ามากขึ้น จากคนฟุ่มเฟือยก็รู้จักประหยัดบ้าง ประเด็นจริงๆไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเงิน แต่การเต็มใจปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางการเงินนั้นเป็นผลโดยตรงจากการตีค่าคน อื่น รวมทั้งมุมมองและความคิดเห็นด้วย ความสัมพันธ์ที่ดีจะเปลี่ยนแปลงตัวเรา ถ้าการอยู่กับสุดที่รักจะทำให้เราเปลี่ยนการใช้เงินละก็ นี่อาจไม่ใช่แค่ความรัก แต่ยังชี้ให้เห็นถึงการให้เกียรติ การยอมเรียนจากอีกฝ่าย และความสัมพันธ์ซึ่งเรารู้สึกปลอดภัยถึงกับยอมลองเปลี่ยนแปลงเรื่องแบบนี้
การงดทำอะไรกันก็มีความสุขได้
ใน ช่วงแรกของการเดท ต่างคนต่างกระหายที่จะค้นหาทุกอย่างในตัวอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันก็รู้สึกหวาดกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่ใช่อย่างที่คิด และตัวเราไม่ใช่อย่างที่เขาหวัง ดังนั้นเพื่อเรียนรู้ทำความรู้จักกัน จึงต้องหากิจกรรมทำด้วยกันตลอดเวลา ไม่ว่าในที่ลับและที่แจ้ง เมื่อพัฒนาไปถึงขั้นมีเซ็กส์ด้วยกันแล้ว ก็จะเกิดความรู้สึกอยากแสดงความอ่อนโยนในจิตใจต่อกัน เพราะรู้สึกว่าสองเราได้เชื่อมต่อถึงกันแล้ว และเมื่อเวลาผ่านไป ถ้าสองเราเกิดไอเดียขึ้นมาว่าสามารถมีความสุขเวลาอยู่ด้วยกันโดยที่ไม่ต้อง ทำอะไรกันก็ได้ แสดงว่านี่คือความรักแน่แท้ เพราะทั้งคู่ได้เลยขั้นตอนของความกลัว เซ็กส์ และการโชว์กึ๋นใส่กันแล้ว ตอนนี้ชีวิตปกติของแต่ละฝ่ายได้รวมเอาอีกคนเข้ามาหลอมรวมอยู่ด้วยกัน
ตามปกติไอเดียเรื่องการไปพบพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ของ อีกฝ่ายถือเป็นเรื่องที่น่ากลัวสุดๆ ดังนั้นถ้าคบหาดูใจกันไปสักพัก และอยากรู้จักกับผู้ใหญ่ของอีกฝ่าย แถมยังสามารถบอกข้อมูลส่วนตัวให้กันได้อย่างเต็มใจ เช่น นิสัย เป้าหมายในชีวิต บัญชีธนาคาร ฯลฯ ถือว่านี่ละคืออาการของคนกำลังอินเลิฟอย่างไม่ต้องสงสัย
เอ่ยปากว่าเลิกเดทกับคนอื่นอย่างเต็มใจ
การ ทำตัวรักสนุกร่อนไปเรื่อยเปื่อยไม่ใช่พฤติกรรมที่น่าชื่ชมเอาซะเลย ดังนั้นการที่เปิดอกกับอีกฝ่ายว่า จะเลิกยุ่งกับคนอื่น ทำตัวรักเดียวใจเดียว จึงเป็นเรื่องเซอร์ไพรซ์มาก เพราะนั่นเท่ากับเป็นการมอบอำนาจให้อีกฝ่ายได้เข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตด้วย นี่ไม่เพียงแสดงว่ากำลังอินเลิฟ แต่ยังแสดงถึงความเป็นผู้ใหญ่ที่ยุติธรรมและมีเหตุผลอีกด้วย
เลิกล่าแต้ม
เชื่อไหมว่าบางคน มีสมุดไว้จดสะส้มแต้มว่าได้สอยใครมาบ้าง (ใช้คำแรงไปไหมนี่) ดังนั้นการเลิกสะสมคะแนนจึงถือว่า นี่คือการยอมรับความสัมพันธ์ที่จริงจังและผูกมัด ทันทีที่รู้ตัวว่าพบคนที่ ใช่ เราก็จะดำเนินชีวิตต่อไปกับคนๆนี้เท่านั้น ไม่มีเหตุผลที่ต้องเดินถอยหลัง
รู้สึกผ่อนคลายเวลาอีกฝ่ายอยู่ใกล้
นอก จากโลกจะสดใสแล้วยังรู้สึกดีกับตัวเองด้วย เมื่อเกิดความรู้สึกแบบนี้ขึ้นมาแสดงว่าได้ผ่านช่วงหลงใหลหน้ามืดตามัวมา แล้ว ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่หายใจไม่ทั่วท้องเวลาอีกฝ่ายอยู่ใกล้ เนื่องจากตื่นเต้นฮอร์โมนเลยพุ่งพล่าน และผีเสื้อบินว่อนอยู่ในท้อง ตอนนี้จึงเป็นช่วงที่มีความสุข มีชีวิตชีวาและกินได้นอนหลับ นี่ละคือความรัก
ฮัมเพลง รัก
ความรู้สึกอื่มเอิบและเป็นสุขอยู่ในส่วนลึก ทั้งผ่อนคลายและสบายใจเสียจนไม่รู้ว่าตัวเองกำลังอินเลิฟ ความรู้สึกเติมเต็มทำให้มีสมาธิดีขึ้น ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มันเนียนเสียจนไม่รู้ตัวเลย จึงเผลอไผลฮัมเพลงรักออกมาซะงั้นโดยไม่ได้รบกวนสิ่งที่กำลังทำอยู่ เพราะเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติ พอรู้ตัวปั๊บก็จะเผลอออกมา นึกถึงหวานใจขึ้นมา จากนั้นก็จะกลับไปทำงานต่อ นี่ละที่ฟรอยด์บอกว่า มนุษย์ทุกคนต้องการงานและความรัก
เต็มไปด้วยพลัง
พลังนี้คือ พลังที่เกิดขึ้นเมื่อยิงบอลเข้าโกล์ หรือทำอาหารสูตรนี้ด้วยความยากลำบากแล้วปรากฏว่าอร่อยเหาะ หรือสามารถใส่ยีนส์ตัวที่เคยคับได้พอดีเป๊ะ นี่คือพลังที่เรารู้สึกเวลาที่ประสบความสำเร็จกับอะไรสักอย่าง นี่คือความรู้สึกของคนที่มีความรัก (ไม่ใช่ตกหลุมรัก) และเป็นความรู้สึกที่ยืนนาน ไม่ใช่เพียงฉาบฉวย
เต็มใจไป สถานที่ที่ไม่ชอบ
ยกตัวอย่างเช่น โรงละครหรือสนามมวย การเต็มอกเต็มใจควงคนรักไปในสถานที่ที่ไม่ถูกใจ แสดงถึงความรักอย่างแน่นอนที่สุด ความรักทำให้ทัศนคติอ่อนโยนขึ้น ยอมเปิดรับสิ่งที่ไม่ชอบ เพราะความรักทำให้รู้จักเผื่อแผ่แก่คนที่เรารัก เป็นความรู้สึกอิ่มเอิบเมื่อได้ร่วมทำบางอย่างกับคนรัก นั่นหมายถึงว่าเราให้ความสำคัญกับคนมากกว่าเรื่องอื่น...นี่ละความรัก
เปลี่ยนนิสัยการใช้จ่าย
จากคน ขี้เหนียวก็ยอมควักกระเป๋ามากขึ้น จากคนฟุ่มเฟือยก็รู้จักประหยัดบ้าง ประเด็นจริงๆไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเงิน แต่การเต็มใจปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางการเงินนั้นเป็นผลโดยตรงจากการตีค่าคน อื่น รวมทั้งมุมมองและความคิดเห็นด้วย ความสัมพันธ์ที่ดีจะเปลี่ยนแปลงตัวเรา ถ้าการอยู่กับสุดที่รักจะทำให้เราเปลี่ยนการใช้เงินละก็ นี่อาจไม่ใช่แค่ความรัก แต่ยังชี้ให้เห็นถึงการให้เกียรติ การยอมเรียนจากอีกฝ่าย และความสัมพันธ์ซึ่งเรารู้สึกปลอดภัยถึงกับยอมลองเปลี่ยนแปลงเรื่องแบบนี้
การงดทำอะไรกันก็มีความสุขได้
ใน ช่วงแรกของการเดท ต่างคนต่างกระหายที่จะค้นหาทุกอย่างในตัวอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันก็รู้สึกหวาดกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่ใช่อย่างที่คิด และตัวเราไม่ใช่อย่างที่เขาหวัง ดังนั้นเพื่อเรียนรู้ทำความรู้จักกัน จึงต้องหากิจกรรมทำด้วยกันตลอดเวลา ไม่ว่าในที่ลับและที่แจ้ง เมื่อพัฒนาไปถึงขั้นมีเซ็กส์ด้วยกันแล้ว ก็จะเกิดความรู้สึกอยากแสดงความอ่อนโยนในจิตใจต่อกัน เพราะรู้สึกว่าสองเราได้เชื่อมต่อถึงกันแล้ว และเมื่อเวลาผ่านไป ถ้าสองเราเกิดไอเดียขึ้นมาว่าสามารถมีความสุขเวลาอยู่ด้วยกันโดยที่ไม่ต้อง ทำอะไรกันก็ได้ แสดงว่านี่คือความรักแน่แท้ เพราะทั้งคู่ได้เลยขั้นตอนของความกลัว เซ็กส์ และการโชว์กึ๋นใส่กันแล้ว ตอนนี้ชีวิตปกติของแต่ละฝ่ายได้รวมเอาอีกคนเข้ามาหลอมรวมอยู่ด้วยกัน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น